ป.ป.ช.ไต่สวน-รวมพยานหลักฐานปมวิกฤติน้ำมันปาล์มยุค“สุเทพ”แล้ว
ป.ป.ช. ลุยสอบ “พระสุเทพ” ปมวิกฤติน้ำมันปาล์มขาดแคลน เหตุเคยเป็นรอง ปธ.กก.นโยบายฯ มีผู้ใกล้ชิดเป็นเจ้าของสวน-โรงหีบน้ำมันปาล์ม ครองตลาด 80% ในประเทศ ล่าสุดดำเนินการไต่ส่วนข้อเท็จจริง-รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีขอให้ถอดถอน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี (ปัจจุบันคือพระสุเทพ ปภากโร) ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากส่อว่าทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่เกี่ยวกับวิกฤติน้ำมันปาล์ม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ โดยมีผู้ใกล้ชิดซึ่งเป็นเจ้าของสวนปาล์มและโรงหีบน้ำมันปาล์ม ซึ่งครองตลาดปาล์มถึง 80% ของประเทศ ได้ประโยชน์จากวิกฤติราคาน้ำมันปาล์มขาดแคลนอย่างมาก
โดยกรณีนี้ มีผู้ร้องเรียนมายัง ป.ป.ช. เมื่อปี 2554 หลังจากนั้นเมื่อปลายปี 2555 ป.ป.ช. มีมติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้ง 9 คน เป็นองค์คณะไต่สวน ก่อนที่ล่าสุดได้ดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริง และรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้ในช่วงการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อเดือนมีนาคม 2554 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และฝ่ายค้าน (ขณะนั้น) อภิปรายเรื่องปัญหาน้ำมันปาล์ม โดยชี้ว่าน่าจะมีการสมคบกันเพื่อเอื้อประโยชน์ แม้ว่ารัฐบาลจะทราบว่าน้ำมันปาล์มกำลังขาดตลาด แต่คณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติ ซึ่งมีนายสุเทพเป็นประธาน ได้อนุมัติน้ำเข้าล่าช้า เหมือนเป็นการดึงเวลาจนทำให้มีผู้ได้รับผลประโยชน์ถึงกว่า 1 พันล้านบาท ซึ่งมีบุคคลใกล้ชิดสุเทพรวมอยู่ด้วย อีกทั้งการนำเข้าน้ำมันปาล์ม 30,000 ตันนั้น มีการกำหนดสเปกนำเข้าที่มีเงื่อนงำ
อย่างไรก็ดีนายสุเทพ รองนายกฯ (ขณะนั้น) ชี้แจงว่า ปัญหาน้ำมันปาล์มดังกล่าวเป็นเพราะคำนวณผลผลิตผิดพลาด เป็นความผิดพลาดไม่มีเจตนา ส่วนกรณีที่นำเข้าน้ำมันปาล์มผิดสเปกนั้น เป็นเพราะประเทศผู้ผลิตไม่ยินยอมให้นำเข้าน้ำมันปาล์มแบบธรรมดาเข้ามา ประเทศไทยจึงต้องน้ำมันปาล์มแบบแยกไขมาผลิตต่อในประเทศ
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายสุเทพ จาก komchudluek