ฟันอาญาซ้ำ"อดีตอัยการ"ขู่กรรโชกทรัพย์ผู้ต้องหา หลังถูกไล่ออก-เรียกคืนเครื่องราชฯ
ป.ป.ช.ฟันอาญาซ้ำ "ร.ต.อ. เฉลิม นพเก้า" อดีตอัยการคดีเรียกรับทรัพย์สินผู้ต้องหาคดียาเสพติด ข่มขู่จะดำเนินคดีให้ได้รับโทษหนักขึ้น หากไม่ยินยอมตามที่เรียกร้อง หลังถูกไล่ออกเรียกคืนเครื่องราชฯ ไปแล้วช่วงกลางปี 2552
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ลงมติชี้มูลความผิด ร.ต.อ. เฉลิม นพเก้า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง อัยการพิเศษประจำกรม สำนักงานอัยการ เขต 3 รักษาการในตำแหน่งอัยการจังหวัดสุรินทร์ คดีกล่าวหาเรียกรับทรัพย์สินจากผู้ต้องหาคดีความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและข่มขู่ว่าจะดำเนินคดี ให้ได้รับโทษหนักขึ้น หากไม่ยินยอมตามที่เรียกร้อง
ผลการพิจารณา ป.ป.ช.ระบุว่า ร.ต.อ. เฉลิม นพเก้า มีมูลความผิด ทางวินัยอย่างร้ายแรง ตามพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ.2521 มาตรา 44 มาตรา 47 และมาตรา 60 (1), (8) แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศคณะรักษาความ - สงบเรียบร้อยแห่งชาติ ฉบับที่ 49 ลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2534 ข้อ 7 นอกจากนี้ ยังมีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 201 และให้ส่งรายงาน เอกสาร และความเห็นไปยัง อัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญา ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2542 มาตรา 97
สำหรับการดำเนินการทางวินัย เนื่องจากประธานคณะกรรมการอัยการ ได้มีคำสั่งที่ 1/2552 ลงวันที่ 24 เมษายน 2552 ลงโทษไล่ ร.ต.อ.เฉลิม นพเก้า ออกจากราชการ ในการกระทำ ความผิดนี้ เหมาะสมแก่กรณีแล้ว จึงไม่มีเหตุต้องส่งเรื่องไปยังประธานคณะกรรมการอัยการ เพื่อพิจารณา ดำเนินการทางวินัย ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 วรรคสอง อีก ให้มีหนังสือ แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้บังคับบัญชา ทราบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงกลางปี 2552 มีประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีเรื่อง ให้ข้าราชการอัยการพ้นจากตำแหน่งและเรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์โดยมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ ร.ต.อ.เฉลิม นพเก้า พ้นจากตำแหน่งอัยการพิเศษประจำกรม สำนักงานอัยการเขต 3 เนื่องจากถูกลงโทษไล่ออกจากราชการตามมาตรา 36(7)แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ พ.ศ. 2521ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 เพราะเหตุกระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง และทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่บุคคลดังกล่าวได้รับพระราชทานในชั้นประถมาภรณ์ช้างเผือก ประถมาภรณ์มงกุฎไทย ทวีติยาภรณ์ช้างเผือก ทวีติยาภรณ์มงกุฎไทย ตริตาภรณ์ช้างเผือก ตริตาภรณ์มงกุฎไทย เบญจมาภรณ์ช้างเผือก เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเหรียญจักรพรรดิมาลา
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก Spring News