ม.บูรพา เผยบัณฑิตไม่แปลงเพศ ยัง“แต่งครุยสลับเพศ”รับปริญญาปีนี้ ไม่ได้
รองอธิการบดี ม.บูรพา รับอนุมัติบัณฑิตยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศ “แต่งครุยสลับเพศ” รับปริญญาปีนี้ ไม่ทัน-เหตุต้องมีใบรับรองแพทย์ล่วงหน้า 6 เดือน
หลังจาก “สำนักข่าวอิศรา” (www.isranews.org) เสนอข่าว ไปเมื่อเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยบูรพา (ม.บูรพา) นำโดย ศ.นพ.สมพล พงศ์ไทย อธิการบดีมหาวิทยาลัยบูรพา เห็นชอบให้บัณฑิตที่จะเข้าพระราชทานปริญญาบัตร ในวันที่ 8 ต.ค.นี้ ที่เป็น “จิตสลับเพศ” (Transsexualism) สวมชุดครุยให้ตรงกับสภาพทางเพศของจิต หรือเรียกง่ายๆ ว่า “แต่งครุยสลับเพศ” ได้ โดยมีเงื่อนไขว่า สำหรับบัณฑิตที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ให้แนบใบรับรองแพทย์มายืนยัน ส่วนบัณฑิตที่ยังไม่ผ่าตัดแปลงเพศ ต้องยื่นคำร้องต่อมหาวิทยาลัยเพื่อพิจารณาเป็นรายๆ ไป
แต่ภายหลังมีบัณฑิตรายหนึ่งไปยื่นเรื่องต่อทาง ม.บูรพาเรื่องการขอแต่งครุยตามเพศทางสภาวะทางจิตใจแล้วพบเงื่อนไขว่า บัณฑิตที่ยังไม่แปลงเพศต้องเข้าพบแพทย์มาอย่างน้อย 6 เดือน ทำให้เกิดอุปสรรคในการยื่นคำร้องขอ “แต่งครุยสลับเพศ” เนื่องจากที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร ม.บูรพา เพิ่งมีมติอนุมัติเรื่องดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมานี่เอง
ล่าสุด วานนี้ (2 ต.ค.) เว็บไซต์ "โคโค่นิวส์" (www.coconews.in.th) ที่นักศึกษาสาขานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จัดทำขึ้นเพื่อเผยแพร่ข่าวสารในมหาวิทยาลัยบูรพาและ จ.ชลบุรี ได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับความคืบหน้าของเรื่องดังกล่าว
โดย ผศ.สหัทยา รัตนะมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ และผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายวิชาการ ม.บูรพา กล่าวกับเว็บไซต์ “โคโค่นิวส์” ว่า ปีนี้ถือเป็นปีแรกที่ ม.บูรพา เปิดโอกาสให้บัณฑิตที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร สามารถยื่นเรื่องขอแต่งชุดครุยตามเพศทางสภาวะทางจิตใจได้ สำหรับผู้ที่แปลงเพศแล้ว ใช้เวลาไม่นานก็จะรอผลการอนุมัติได้ แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้แปลงเพศอาจจะต้องใช้เวลานาน ซึ่งคาดว่าอาจจะไม่ทันช่วงรับปริญญาของ ม.บูรพาในปีนี้
“ข้อบังคับสำหรับผู้ยื่นคำร้อง มี 2 ประเภท (1) ผู้ที่แปลงเพศแล้ว ยื่นคำร้องพร้อมใบรับรองแพทย์จากสถานพยาบาลที่ทำการผ่าตัดให้ และเข้าพบจิตแพทย์ของโรงพยาบาล ม.บูรพา เป็นเวลา 1 ชั่วโมงเพื่อรับการตรวจสภาพจิตใจ (2) ผู้ที่ยังไม่แปลงเพศ ต้องเข้าพบจิตแพทย์ ของรพ. ม.บูรพาใช้เวลาอย่างน้อย 6 เดือน แต่ในกรณีนี้ หากผู้ยื่นคำร้องเคยไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลอื่นมาก่อน สามารถนำใบรับรองแพทย์มาปรึกษาจิตแพทย์ที่โรงพยาบาล ม.บูรพาได้ เพื่อให้จิตแพทย์ตรวจสอบและทำการลงความเห็นต่อไป” ผศ.สหัทยากล่าว
ผู้ช่วยอธิการบดี ม.บูรพา ยังกล่าวถึงขั้นตอนในการยื่นคำร้องขอแต่งครุยตามเพศทางสภาวะทางจิตใจว่า มีด้วยกัน 4 ขั้นตอน ได้แก่ 1.เขียนคำร้องพร้อมเอกสารประกอบได้ที่กองทะเบียนและประมวลผลการศึกษา ม.บูรพา 2.กองทะเบียนฯจะทำการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นว่าตามบัตรประชาชนเป็นเพศใด แล้วจึงเสนอให้จิตแพทย์ของโรงพยาบาล ม.บูรพาตรวจสอบสภาพจิตใจผู้ยื่นคำร้องอีกครั้ง 3.แพทย์วินิจฉัยตรวจสอบสภาพจิตใจพร้อมออกใบรับรองแพทย์ให้กับผู้ยื่นคำร้อง และ 4.เสนออธิการบดี ม.บูรพาพิจารณาว่าจะเสนอสภามหาวิทยาลัย ม.บูรพาอนุมัติหรือไม่ ซึ่งจะพิจารณาเป็นรายๆ ไป และอนุญาตเพียงผู้ที่มีจิตสลับเพศเท่านั้น ทั้งนี้ การยื่นคำร้องดังกล่าวต่อทาง ม.บูรพาจะไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ มีแต่ค่าใช้จ่ายในการพบแพทย์ ที่ผู้ยื่นคำร้องต้องรับผิดชอบเอง
ด้านนายฑีฆะ พิทักษ์ญาติ บัณฑิตสาขานิเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.บูรพา กล่าวกับ “โคโค่นิวส์” ว่า ดีใจมากที่ บ.บูรพาเปิดให้ยื่นคำร้องแต่งชุดครุยตามเพศทางสภาวะทางจิตใจได้ จึงรีบไปดำเนินการโดยเร็ว แต่เนื่องจากเป็นปีแรก ทำให้เจ้าหน้าที่บางฝ่ายไม่เข้าใจและตอบคำถามไม่ได้ ทำให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปด้วยความล่าช้า และทราบมาว่าถึงตอนนี้มีตนเพียงคนเดียวที่ยื่นคำร้องขอดังกล่าว
“ที่ผ่านมาไปพบจิตแพทย์ของโรงพยาบาล ม.บูรพามาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งจิตแพทย์ก็สรุปว่ามีสภาวะจิตใจตรงข้ามกับสภาพร่างกาย และจะดำเนินการส่งเรื่องต่อให้ แต่อาจมีปัญหาตรงทาง ม.บูรพาเพิ่งจะอนุญาตให้ยื่นเรื่องได้เมื่อไม่นานมานี้ จึงอาจทำให้ระยะเวลาในการพบจิตแพทย์ไม่ครบตามเงื่อนไขที่ทาง ม.บูรพากำหนด ซึ่งเรื่องนี้ทางจิตแพทย์ก็บอกว่าจะคุยกับทางผู้บริหารของ ม.บูรพาให้ ขณะนี้ได้ทำตามขั้นตอนต่างๆ ครบหมดแล้ว เหลือเพียงรอทางมหาวิทยาลัยว่าจะเซ็นอนุมัติให้หรือไม่ แต่ถึงจะไม่ได้ก็ไม่เป็นไร และขอแสดงความยินล่วงหน้า กับน้องๆ บัณฑิตรุ่นต่อไปที่คาดว่าทุกคนที่ยื่นำคำร้องจะได้แต่งชุดครุยตามที่ต้องการ” นายฑีฆะกล่าว
:::เรื่องที่เกี่ยวข้อง:::
- บัณฑิต ม.บูรพามึน! ขอ“แต่งสลับเพศ”รับปริญญา ต้องมีใบรับรองแพทย์ก่อน 6 ด.
- ม.บูรพาไฟเขียว! บัณฑิต “แต่งสลับเพศ” รับปริญญาได้ แต่ต้องมีใบรับรองแพทย์