- Home
- Isranews
- เวทีทัศน์
- เบื้องลึก!การหาทางช่วย'ยิ่งลักษณ์'จนสุดเหวี่ยง! ลดค่าเสียหายคดีข้าวเหลือร้อยละ 20
เบื้องลึก!การหาทางช่วย'ยิ่งลักษณ์'จนสุดเหวี่ยง! ลดค่าเสียหายคดีข้าวเหลือร้อยละ 20
"..เรื่องทั้งหมดนี้เมื่อย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าเครือข่ายของขั้วอำนาจเก่ายังมีอยู่มากมายในวงการราชการ ลองตรวจสอบกลับไปดูซิว่าข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลังหลายคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. กับยิ่งลักษณ์ ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะหาทางช่วยยิ่งลักษณ์จนสุดเหวี่ยง แต่กำลังจะโยนบาปไปให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย.."
ค่าเสียหายเรื่องการรับจำนำข้าวลดเหลือร้อยละ 20 สำหรับคุณยิ่งลักษณ์ ถูกต้องหรือไม่
การที่คณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งของกระทรวงการคลังได้ลดจำนวนค่าเสียหายที่เกิดจากนโยบายในโครงการรับจำนำข้าวของคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จากเดิมที่คณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดได้กำหนดไว้จำนวนประมาณ 178,586,365,141.17 บาท เหลือประมาณ 35,717,273,028.23 บาท คือ ลดลงจากเดิมร้อยละ 20 ทำให้เกิดคำถามในสังคมอย่างแพร่หลายว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่
ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เกิดจากการที่คณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งซึ่งมี มนัส แจ่มเวหา เป็นประธาน ได้รับสำนวนการสอบความรับผิดทางละเมิดที่นายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังในขณะนั้นคือ สมหมาย ภาษี ได้ร่วมกันลงนามแต่งตั้งขึ้น โดยมี จิรชัย มูลทองโร่ย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ซึ่งคณะกรรมการชุดของจิรชัยได้ทำการสอบสวนมาอย่างต่อเนื่องและกำหนดมูลค่าความเสียหายที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะต้องรับผิดจำนวนประมาณ 2.8 แสนล้านบาท
จากนั้นได้เสนอไปยังผู้แต่งตั้ง คือ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังปัจจุบันคือ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ ซึ่งทั้งพลเอกประยุทธ์และอภิศักดิ์ได้ให้ความเห็นชอบในเบื้องต้นแล้ว
แต่ต้องส่งไปยังคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งชุดของมนัส แจ่มเวหา เพื่อพิจารณาตามระเบียบที่กำหนดไว้ ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้ก็ได้มีมติให้ลดค่าเสียหายที่ยิ่งลักษณ์จะต้องรับผิดลงร้อยละ 80 เหลือประมาณ 35,717,273,028.23 บาท โดยลดลงจากเดิมร้อยละ 20
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดของมนัสอ้างว่าเป็นไปตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่ กค 0406.2/ว. 66 ลงวันที่ 25 กันยายน 2550 ซึ่งได้วางแนวทางปฏิบัติไว้สำหรับกรณีการกระทำทุจริตเกี่ยวกับการเงินหรือทรัพย์สิน โดยกำหนดให้ผู้บังคับบัญชาจะต้องรับผิดร้อยละ 20 ของค่าเสียหายทั้งหมด ในกรณีนี้จึงมีการอ้างว่ายิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของข้าราชการทั้งหมดไม่ว่าฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายประจำ จึงต้องรับผิดเพียงร้อยละ 20 ตามที่กำหนดไว้ในหนังสือกระทรวงการคลังดังกล่าว ส่วนความเสียหายในส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 80 ก็ให้ไปทำการสอบสวนหาผู้รับผิดต่อไป ปัญหาว่าเหตุผลของคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งชุดของมนัสถูกต้องหรือไม่ มีข้อที่ต้องพิจารณาดังนี้
1. เจตนารมย์ของหนังสือกระทรวงการคลังดังกล่าว ประสงค์ที่จะวางแนวทางเพื่อเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดของส่วนราชการทั่วไป เพื่อให้การกำหนดความรับผิดเป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงมีความมุ่งหมายที่จะให้ใช้บังคับแก่ข้าราชการประจำสำหรับการกระทำละเมิดหรือกระทำการทุจริตทั่วไป แต่กรณีของคุณยิ่งลักษณ์เป็นการกระทำทุจริตเชิงนโยบายและก่อให้เกิดความเสียหายขึ้น จึงเป็นกรณีที่แตกต่างจากการกระทำละเมิดทั่วไปของข้าราชการประจำซึ่งมิใช่ผู้กำหนดนโยบาย จึงต้องแยกหลักเกณฑ์ในการคำนวณความรับผิดต่างหากจากกัน กรณีของคุณยิ่งลักษณ์จึงไม่อาจใช้แนวทางตามหนังสือกระทรวงการคลังดังกล่าวมาปรับใช้ได้
2. หนังสือกระทรวงการคลังฉบับนี้เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์สำหรับส่วนราชการในการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดของข้าราชการให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน มีสถานะเป็นเพียงหนังสือราชการที่มิใช่เป็นกฎหมาย หรือออกโดยอาศัยอำนาจกฎหมาย การกำหนดเรื่องความรับผิดทางละเมิดต่อคุณยิ่งลักษณ์ให้ชดใช้ค่าเสียหายถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งตามมาตรา 5 นิยาม “คำสั่งทางปกครอง” ประกอบกับหลักเกณฑ์ในการออกคำสั่งทางปกครองในมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ได้กำหนดไว้โดยสรุปว่า การออกคำสั่งทางปกครองจะต้องอาศัยอำนาจตามกฎหมาย และจะต้องแจ้งเหตุผลซึ่งประกอบด้วย ข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญ ข้อกฎหมายที่อ้างอิง และข้อพิจารณาและสนับสนุนการใช้ดุลพินิจ
ดังนั้น หากมีการออกคำสั่งทางปกครองให้คุณยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้ค่าเสียหาย และลดลงให้เหลือเพียงร้อยละ 20 โดยอาศัยหลักเกณฑ์ตามหนังสือกระทรวงการคลังดังกล่าว จึงมิใช่เป็นการอาศัยอำนาจตามกฎหมายและมิใช่ข้อกฎหมายที่อ้างอิงตามมาตรา 5 และมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ดังกล่าว
3. การที่คณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดชุดของจิรชัย มูลทองโร่ย ได้ทำการสอบสวนและกำหนดค่าเสียหายสำหรับคุณยิ่งลักษณ์นั้นเป็นการกำหนดความเสียหายที่คุณยิ่งลักษณ์ต้องรับผิดเป็นการเฉพาะตัวในฐานะนายกรัฐมนตรี มิใช่เป็นการสอบความรับผิดของบุคคลหลายคนที่จะต้องแบ่งแยกความรับผิดกัน เมื่อเป็นการสอบสวนสำหรับคุณยิ่งลักษณ์คนเดียวตามการชี้มูลของ ปปช. และไม่ได้สอบสวนถึงบุคคลอื่นที่จะต้องรับผิดด้วย จึงไม่อาจนำหลักเกณฑ์ในหนังสือกระทรวงการคลังดังกล่าวมาปรับใช้ได้ การที่คณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งชุดของมนัสไปปรับให้เองดังกล่าว จึงเป็นการกระทำนอกเหนือจากที่คณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดชุดของจิรชัยได้สอบสวนไว้ มีลักษณะที่เป็นการกระทำโดยมีเจตนาที่จะให้ยิ่งลักษณ์ได้รับประโยชน์ ซึ่งไม่สามารถที่จะนำหลักเกณฑ์ตามหนังสือกระทรวงการคลังมาปรับใช้ได้
ดังนั้น จึงถือว่าคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่งของมนัสได้ร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายให้คุณยิ่งลักษณ์ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่รัฐน้อยลง ถือว่ามีมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และถ้านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้ความเห็นชอบ รวมทั้งข้าราชการคนใดที่ร่วมให้ความเห็นชอบหรือสนับสนุนตามความเห็นของคณะกรรมการชุดของมนัส ก็อาจเข้าข่ายเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิดนั้นด้วย เข้าใจว่าพลเอกประยุทธ์และอภิศักดิ์รวมทั้งบุคคลอื่นไม่น่าจะมีความคิดที่จะกระทำเช่นนี้
4. การลดค่าเสียหายให้ในชั้นนี้ไม่มีเหตุผลใด ๆ ที่จะทำให้สังคมยอมรับได้ นอกจากจะคิดว่าเป็นการกระทำเพื่อช่วยเหลือยิ่งลักษณ์เพียงอย่างเดียว เพราะไม่ว่าจะลดหรือไม่ลดค่าเสียหายให้ ท้ายที่สุดเมื่อมีการออกคำสั่งให้ยิ่งลักษณ์ชดใช้แล้ว ยิ่งลักษณ์และผู้เกี่ยวข้องก็คงต้องใช้สิทธิฟ้องร้องต่อศาลอยู่ดี ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดคือควรให้ศาลเป็นผู้วินิจฉัยต่อไป มิใช่มาลดให้แก่กันในชั้นนี้ทั้งที่ไม่มีเหตุที่จะกระทำได้โดยชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวแล้ว จึงขอเตือนผู้ที่เกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้ด้วยว่า คิดดีแล้วหรือที่จะมาแบกรับความเสี่ยงในการที่จะช่วยเหลือคุณยิ่งลักษณ์ในเวลานี้
เรื่องทั้งหมดนี้เมื่อย้อนกลับไปดูจะเห็นว่าเครือข่ายของขั้วอำนาจเก่ายังมีอยู่มากมายในวงการราชการ ลองตรวจสอบกลับไปดูซิว่าข้าราชการระดับสูงในกระทรวงการคลังหลายคนเป็นเพื่อนร่วมรุ่น วปอ. กับยิ่งลักษณ์ ก็ไม่น่าแปลกใจที่จะหาทางช่วยยิ่งลักษณ์จนสุดเหวี่ยง แต่กำลังจะโยนบาปไปให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วย
หวังว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจะไม่เห็นดีเห็นงามกับข้อเสนอของกลุ่มบุคคลนี้ เพื่อให้แผ่นดินไทยของเราจะได้ยกระดับให้สูงขึ้น
อ่านประกอบ :
ไม่มีข้าวถูกสวมสิทธิ์! ‘วราเทพ’ให้การคดี'ปู'-เลขขาดทุน 5 แสนล.ไม่ถูกต้อง
‘อัยการ’ซัก‘ยิ่งลักษณ์’ตอบ! ท่าที‘นารีขี่ม้าขาว’แจงคดีข้าว-ไฉนสอบไม่เจอทุจริต?
ปัญหาเกิดจากฝ่ายปฏิบัติ! ‘ยิ่งลักษณ์’ แจงศาลคดีข้าว-ลั่นสอบทุจริตแล้วไม่เจอ
สารพัดเรื่องไม่โปร่งใส-ส่อทุจริต! ‘สุภา’เข้าให้ถ้อยคำคดีข้าว‘ยิ่งลักษณ์’
มติ 7-0 เสียง ป.ป.ช.ฟัน“ยิ่งลักษณ์”คดีจำนำข้าว ชงวุฒิถอด-"สถาพร"ถอนตัว
อวสาน"ยิ่งลักษณ์" มติสนช. 190:18 ตัดสิทธิ์การเมือง 5 ปี "นิคม-สมศักดิ์" รอด
โชว์ชัดค่าเสียหายจำนำข้าว 1.7 แสนล. ‘ปู’จ่ายแค่ 20%-วิจารณ์ขรมคำนวณผิด?