ฟังจากปาก! “สมชัย สุวรรณบรรณ”ไฉนถูกปลดพ้นเก้าอี้ ผอ.ไทยพีบีเอส
“…คณะกรรมการนโยบายฯเองได้ทักท้วงเรื่องนี้ตอนต้นปี และมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีการเชิญนักกฎหมายชื่อดังมาเป็นกรรมการด้วย เพื่อสอบทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร และจนถึงปัจจุบันมีการประชุมคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว 3 ครั้ง แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจง เพิ่งได้รับหนังสือชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับถูกปลดออกเสียก่อน เรื่องนี้จึงยังไม่มีข้อยุติชัดเจน…”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : นายสมชัย สุวรรณบรรณ อดีต ผอ.องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) หรือสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ “เข้มข่าวค่ำ” สถานีโทรทัศน์ PPTV กรณีถูกคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. เลิกสัญญาจ้าง (ดูประกอบ : http://www.pptvthailand.com/news/16262)
-----
@ข้อกล่าวหาต่าง ๆ ที่ถูกคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. ระบุไว้ในประกาศเลิกจ้าง เช่น กรณีอนุมัติโครงการเน็ตเวิร์คดิจิตัล หรือ “มัค” ที่มีวงเงินเกิน 50 ล้านบาท มองอย่างไร
สมชัย : สำหรับกรณีมัค ยืนยันว่า ทำตามระเบียบขั้นตอน อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่ผิดพลาด แต่ว่ามีการนำเสนอในวาระการประชุมคณะกรรมการนโยบาย ส.ส.ท. มาโดยตลอด เพื่อให้ที่ประชุมมีมติรับทราบ และที่ประชุมก็รับทราบมาโดยตลอด กี่ครั้งจำไม่ได้ ซึ่งเป็นกระบวนการปกติ ฉะนั้นเหตุการณ์ที่มีปัญหาตั้งแต่ปี 2556-2558 ยาวมาขณะนี้ทำไมถึงเป็นประเด็น ตอนรายงานทุกครั้งทำไมไม่ท้วงติง
@การรายงานดังกล่าวมีบันทึกการประชุมไว้ทุกครั้งหรือไม่
สมชัย : เป็นรายงานประจำเดือน คือรายงานเพื่อทราบ ต้องไปตรวจดูบันทึกการประชุม เพราะโครงการใหญ่ขนาดนี้ ถ้าไม่รายงานก็คงเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งนี้ในปี 2556-2557 คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ตรวจสอบบัญชีของเรา ก็ไม่มีเรื่องท้วงติงในประเด็นนี้ คงเป็นเรื่องต้องถกเถียงกันต่อไป
อย่างไรก็ดีคณะกรรมการนโยบายฯเองได้ทักท้วงเรื่องนี้ตอนต้นปี และมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง มีการเชิญนักกฎหมายชื่อดังมาเป็นกรรมการด้วย เพื่อสอบทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร และจนถึงปัจจุบันมีการประชุมคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว 3 ครั้ง แต่ผมยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจง เพิ่งได้รับหนังสือชี้แจงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่กลับถูกปลดออกเสียก่อน เรื่องนี้จึงยังไม่มีข้อยุติชัดเจน
@การถูกเลิกสัญญาจ้างในครั้งนี้ มองว่าเกี่ยวกับกรณี “มัค” หมดเลยใช่หรือไม่
สมชัย : ใช่ เกี่ยวกับกรณี “มัค” ที่ไทยพีบีเอสทำกับ กสทช. ที่ให้บริการพื้นที่ถ่ายทอดติดตั้งอุปกรณ์คลื่นสัญญาณโทรทัศน์ดิจิตัล และขั้นตอนการอำนวยความสะดวก ซึ่งกระบวนการนี้ยังไม่จบ ทำไมถึงเป็นประเด็นในการเลิกจ้าง นี่เป็นคำถาม เพราะผมยังไม่มีโอกาสได้ชี้แจง
@หลังจากนี้จะทำอย่างไรต่อ
สมชัย : ได้แจ้งคณะกรรมการนโยบายฯ รวมถึงทำบันทึกถึงประธานคณะกรรมการนโยบายฯแล้ว เพื่อใช้สิทธิ์ปกป้องตัวเอง
@นอกจากกรณี “มัค” แล้ว มีประเด็นอื่นอีกหรือไม่ที่คิดว่าเป็นสาเหตุที่ถูกปลดออก เช่น ไม่ให้ความสำคัญข้อเสนอแนะของคณะกรรมการนโยบายฯ
สมชัย : ในแง่หลักการแล้ว คณะกรรมการนโยบายฯ มีสิทธิ์ให้คำแนะนำ ควบคุมตามนโยบาย ถ้าหากว่าเรื่องนั้นเป็นนโยบายและเป็นการทำตามขั้นตอน อย่างไรก็ดีหากเป็นข้อติติง แสดงความเห็น หรือทักท้วงของคณะกรรมการนโยบายฯ เราถือว่าไม่ใช่นโยบาย เป็นเพียงข้อติติงเท่านั้น ถ้าหากว่าข้อติติงดังกล่าวไม่สอดคล้องกับกระบวนการทำงานหรือบริหารจัดการ หรือเอกสิทธิ์ในความเป็นอิสระของกองบรรณาธิการ ข้อทักท้วงก็เป็นแค่ข้อทักท้วง ไม่ใช่นโยบาย
@กระแสข่าวว่าที่ถูกเลิกจ้าง เป็นเพราะผลการประเมินประสิทธิภาพของ ผอ. โดยพนักงานไทยพีบีเอส
สมชัย : คณะกรรมการนโยบายฯ บอกว่าไม่เกี่ยว แต่ถ้าพูดถึงผลการประเมิน คะแนนเสียงโหวตผมได้ถล่มทลาย 70-80 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนผมให้ทำงาน มีสัก 10-20 เปอร์เซ็นต์ที่ไม่สนับสนุน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติในองค์กร การเป็น ผอ. ที่มีหน้าทีต้องตัดสินใจต้องมีคนชอบ คนไม่ชอบ มีผลได้ผลเสียอยู่แล้ว
@การเลิกจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ไม่จ่ายค่าสินไหมทดแทน ถือว่ากระทบเครดิตหรือไม่
สมชัย : เป็นการใช้อำนาจของคณะกรรมการนโยบาย ที่อ้างระเบียบข้อบังคับ อ้างสัญญาจ้าง เป็นไปตามขั้นตอน ไม่มีอะไรสงสัย
อ่านประกอบ : ตั้ง“พวงรัตน์”รักษาการ ผอ.ไทยพีบีเอส-มติเอกฉันท์ปลด“สมชัย”พ้นเก้าอี้