ชะตากรรมประธานศาลปกครองสูงสุด
การที่นายหัสวุฒิไม่มาทำงานตามปกติ โดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริง ทำให้เกิดข่าวลือต่างๆนานาในสำนักงานศาลปกครองโดยเฉพาะชะตากรรมของประธานศาลปกครองที่ ก.ศป.อาจมีการชี้ขาดในเร็วๆนี้
แม้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ได้ให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง ในส่วนที่ว่าด้วยการคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง(ก.ศป.)ที่มีเนื้อหาเป็นไปตามความต้องการของตุลาการศาลปกครองส่วนใหญ่แล้วก็ตาม แต่ปัญหาความขัดแย้งในศาลปกครองระหว่างตุลาการกลุ่มใหญ่กับผู้บริหารศาลก็มิได้ยุติลง
ตรงกันข้ามความขัดแย้งดังกล่าวไปขมวดปมอยู่ที่ชะตากรรมของนายหัสวุฒิ วิทิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด กรณี ที่นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการศาลปกครอง ได้ส่ง"จดหมายน้อย"ไปยังรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้สนับสนุนนายตำรวจยศ พ.ต.ท.นายหนึ่งให้เป็น พ.ต.อ.โดยอ้างว่า เป็นความต้องการของประธานศาลปกครองสูงสุด ทำให้ ก.ศป.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง ขึ้นมา มีนายนพดล เฮงเจริญ ตุลาการหัวหน้าคณะในศาลปกครองสูงสุด เป็นประธานซึ่งสรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเรียบร้อยแล้ว รอนำเข้าพิจารณาใน ก.ศป.เพื่อดำเนินการต่อไป
แต่ เมื่อนายหัสวุฒิ ตั้งแง่ในเรื่องความคงอยู่ของ ก.ศป.หลังการฉีกรัฐธรรมนูญของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ(คสช.)ที่ยึดอำนาจการปกครองเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ทำให้ ก.ศป.บางคน(มีเหลือ 8 คน จากจำนวนทั้งหมด 13 คน-ปรธะานที่เป็นประธาน ก.ศป.โดยตำแหน่ง ไม่ยอมเข้าร่วมประชุม)เห็นว่า หากนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในขณะที่องค์ประกอบของ ก.ศป.ขาดผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอก 3 คน(จาก ครม. 1 คน วุฒิสภา 2คน)ไม่ให้สง่างาม จึงขอให้เลื่อนการพิจารณามาตั้งแต่เดือนกันยายนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ มีการตกลงกันว่า ถ้าจนถึงวันที่ 17 พฤศจิกายน ยังไม่สามารถสรรหา ก.ศป.ในส่วนที่ขาดให้ครบจำนวนได้ จะนำผลการสืบสวนข้อเท็จจริงการกล่าวหานายหัสวุฒิกรณี "จดหมายน้อย"เข้าพิจารณาทันที โดยผลการพิจารณาอาจออกมา 2 ทางคือ
หนึ่ง ถ้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเห็นว่า นายหัสวุฒิสมควรถูกกล่าวหาว่า มีความผิดทางวินัย ก.ศป.จะต้องแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนทางวินัย ถ้าเป็นความผิดวินัยร้ายแรง อาจมีการสั่งพักราชการซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงดุลอำนาจในศาลปกครองและสร้างผลสะเทือนต่อวงการตุลาการ
ประเด็นดังกล่าวทำให้ผู้บริหารระดับสูงในศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครองพยายามดิ้นรนอย่างเต็มที่เพื่อความอยู่รอด
สอง ถ้าคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเห็นว่า นายหัสวุฒิไม่มีความผิด หรืออาจผิดวินัยไม่ร้ายแรง ก็จะพ้นข้อกล่าวหา หรือลงโทษเพียงตักเตือน หรือภาคทัณฑ์
อย่างไรก็ตามจากวันที่มีการตกลงในเรื่องดังกล่าว สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไป กล่าวคือ สนช.ให้ความเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯซึ่งกำหนดให้มีการสรรหา ก.ศป.ทั้งในส่วนศาลปกครองสูงสุด 2 คนและผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก 3 คนให้เสร็จสิ้นภายใน 45 วันนับแต่กฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ถ้ามี ก.ศป.เพียงคนเดียวคัดค้านการนำผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเข้าพิจารณาโดยอ้างเหตุผลให้รอการสรรหา ก.ศป.ให้ครบตามจำนวนก็จะทำให้ไม่สามารถพิจารณาเรื่องดังกล่าวได้เพราะเสียงจะไม่ถึงกึ่งหนึ่งของจำนวน ก.ศป.13 คน
ในทางตรงกันข้าม ถ้ารอให้มีการสรรหา ก.ศป.ให้ครบตามจำนวน ยังไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าใดเพราะแม้ สนช.จะผ่านร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองฯแล้วก็ตาม แต่ยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษาเลยซึ่งมีการมองว่า การปล่อยให้เรื่องดังกล่าวค้างคาอยู่ไม่จัดการให้เสร็จสิ้นยิ่งเป็นการขยายความขัดแย้งที่มีอยู่ให้ขยายวงมากยิ่งขึ้น เพราะผู้มีอำนาจในศาลปกครองทุกวันนี้ต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อความอยู่รอด
ดังนั้นการปล่อยเรื่องนี้ให้ยืดเยื้อต่อไป อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชือถือและการบริหารของศาลปกครองมากขึ้น
ตุลาการศาลปกครองรายหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน 2557 ที่ผ่านมา นายหัสวุฒิ ไม่ได้มาทำงานที่ศาลปกครอง รวมถึงการประชุมสำคัญๆ เช่น การประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดไม่ได้เข้าร่วมประชุมมาแล้วถึง 3 นัด โดยคนใกล้ชิดอ้างว่า ไปผ่าฟันคุด และเกิดติดเชื้อ
อย่างไรก็ตามนายหัสวุฒิได้ไปร่วมประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้ตรวจการแผ่นดินเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ณ รัฐสภา โดยมีหน้ากากอนามัยปิดบริเวณใบหน้ามาประชุม และยังไปทอดกฐินพระราชทานของศาลปกครองด้วย
การที่นายหัสวุฒิไม่มาทำงานตามปกติ โดยที่ไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริง ทำให้เกิดข่าวลือต่างๆนานาในสำนักงานศาลปกครองโดยเฉพาะชะตากรรมของประธานศาลปกครองที่ ก.ศป.อาจมีการชี้ขาดในเร็วๆนี้
อ่านประกอบ :
สนช.มีมติยืนตามกมธ.ผ่านร่างพ.ร.บ. ศาลปค.-คงสภาพกศป.อยู่ต่อ
คกก.ข้อมูลข่าวสารฯ รับอุทธรณ์ "ผอ.อิศรา"ปมศาลปค.ปัดให้ผลสอบ"จม.น้อย"
คำต่อคำ! วิวาทะ“หัสวุฒิ” VS “ตุลาการ” ปมดันกม.ศาลปค.
ขรก.ระดับสูงฝ่าฝืนข้อห้ามจริยธรรม ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว
"ดิเรกฤทธิ์" ฟ้องแพ่ง"อิศรา"เพิ่ม!เรียกค่าเสียหาย 50 ล.-ขอคุ้มครองชั่วคราว
"ดิเรกฤทธิ์" ฟ้องอาญา "ประสงค์-อิศรา" เสนอข่าว “จม.น้อย”
“ตุลาการ” โวย สนง.ศาลปกครอง แถลงบิดเบือนผลสอบจม.น้อยฝาก "ตร."