นรวิชญ์ :ระบายจีทูจียังไม่มีคำตัดสินว่าผิด จะบอกว่า"ยิ่งลักษณ์" ผิดไม่ได้

"..คดีระบายจีทูจี ป.ป.ช. ก็กำลังอยู่ระหว่างการไต่สวน ยังไม่ได้ตัดสินเป็นทางการเลยว่าใครทำผิด แล้วจะมาบอกว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นแล้ว นายกฯ ปล่อยให้มีการทุจริตไม่ได้.." 

“นายกไม่เคยหลบเลียงที่จะเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาอะไร เพียงแต่การที่ท่านจะเดินทางไปให้ปากคำต่อ ป.ป.ช. ต้องประเมินสถานการณ์ให้ดีก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะมีผู้สนับสนุนกลุ่มไหนไปอยู่ตรงนั้นบ้าง ไม่ใช่ท่านจะหลบเลียงไม่มาให้ปากคำอะไร ท่านพร้อมจะสู้ พร้อมจะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะท่านมั่นใจว่า ท่านบริสุทธิ์” 

นี่คือคำยืนยันจาก นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนายความผู้รับมอบอำนาจจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ที่กำลังถูกสังคมจับตามองอยู่ในขณะนี้

“ผมยืนยันว่าท่านนายกฯ ไม่มีความหนักใจอะไร ต่อคดีนี้ เพราะมั่นใจว่า ไม่ได้ทำอะไรผิดตามข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช.”

นายนรวิชญ์ กล่าวย้ำกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews,org ถึงท่าที่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ หลังจากก้าวพ้นออกจากห้องไต่สวนของ ป.ป.ช. ในช่วงบ่ายวันที่ 31 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา

หลังจากใช้เวลาชี้แจงข้อกล่าวเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น

นายนรวิชญ์ ยังระบุด้วยว่า ในการเข้าชี้แจงข้อกล่าวหาต่อ ป.ป.ช. ครั้งที่ผ่านมา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ชี้แจงข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษรแทนการชี้แจงด้วยวาจา ตามสิทธิที่สามารถทำได้ มีความยาวประมาณ 100 กว่าหน้า ครอบคลุมทุกประเด็นที่ถูก ป.ป.ช. กล่าวหาในคดีนี้

“ ในเนื้อหาคำชี้แจงที่ท่านนายกฯ ยื่นต่อ ป.ป.ช. มีทั้งประเด็นข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง ข้อกล่าวหาที่ ป.ป.ช.ให้มา ระบุว่ามีการปล่อยปละให้มีการทุจริต ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่พูดกัน ไม่ทุจริตเชิงนโยบายก็อยู่ในขั้นตอนการปฏิบัติงาน มีข้อสังเกตจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งของ ป.ป.ช. สตง. และรายงานผลการปิดบัญชีข้าว ของคณะทำงานชุดที่มี นางสาวสุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ไม่น่าห่วงเราสามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว”

นายนรวิชญ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า “ตัวอย่างเช่น ที่บอกว่าทุจริตเชิงนโยบาย อันนี้ต้องดูก่อนว่า โครงการนี้ใครได้ประโยชน์ เราขอยืนยันว่าชาวนาได้ประโยชน์แน่นอน เป็นการยกระดับรายได้ เป็นการช่วยเหลือคุณภาพชีวิตเขา รัฐบาลไม่ได้อะไรเลย ไม่มีนักการเมืองคนไหนที่ได้ประโยชน์ และเมื่อชาวนามีเงินมากขึ้น ก็นำเงินไปจับจ่ายใช้สอย ระบบเศรษฐกิจก็เกิดการหมุนเวียน จะมาบอกว่าเราทำโครงการอย่างนี้ รัฐบาลหรือฝ่ายบริหารผิด มันไม่ใช่”

“ส่วนเรื่องการขาดทุนจำนวนมากนั้น ขอเรียนว่า โครงการที่รัฐบาลทำลงไปเพื่อประชาชน เพื่อชาวนา มันต้องขาดทุนอยู่แล้ว ทำแล้วไม่ได้กำไรอะไรหรอก”

ส่วนประเด็นเรื่องการทุจริตนั้น นายนรวิชญ์ ยืนยันว่า ข้อมูลที่พูดกันในขณะนี้ เป็นข้อมูลจากฝ่ายค้าน ที่นำไปอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภาฯ ซึ่งใครก็รู้อยู่แล้วว่า ข้อมูลฝ่ายค้าน ไม่มีทางที่จะมองว่าการทำงานของรัฐบาลดีหรอก และที่สำคัญข้อมูลที่พูดกันมันก็ยังไม่มีการชี้มูลความผิดอะไรเลย 

"คดีระบายจีทูจี ป.ป.ช. ก็กำลังอยู่ระหว่างการไต่สวน ยังไม่ได้ตัดสินเป็นทางการเลยว่าใครทำผิด แล้วจะมา บอกว่า มีการทุจริตเกิดขึ้นแล้ว นายกฯ ปล่อยให้มีการทุจริตไม่ได้ ซึ่งในส่วนการตรวจสอบเรื่องการระบายจีทูจี คณะกรรมการที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งขึ้นเขาก็ชี้มูลแล้วว่า เป็นการทำจีทูจีจริง ไม่มีอะไรผิดเลย" 

เมื่อถามว่า แต่ข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมาระบุว่า ไม่ใช่การซื้อขายจีทูจีจริง และมีคนใกล้ชิดฝ่ายการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย นายนรวิชญ์ ยืนยันคำเดิมว่า “ก็อย่างที่ผมบอกไปว่า เรื่องอยู่ระหว่างการไต่สวน ป.ป.ช. ยังไม่ได้ชี้มูลความผิดอะไรเลย จะมาบอกว่าท่านนายกฯผิดแล้วได้หรือ”

นายนรวิชญ์ ยังกล่าวยอมรับว่า ข้อมูลที่ระบุว่า มีการทุจริตอยู่ในส่วนไหนบ้าง เป็นสิ่งที่ทีมทนายความต้องการรับทราบจาก ป.ป.ช. มาก เพราะไม่รู้เลยว่า ป.ป.ช.มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง

“ถ้า ป.ป.ช. มีข้อมูลว่ามีการทุจริตจริง นายกฯเข้าไปเกี่ยวข้อง เราอยากดูว่า มันอยู่ตรงไหนบ้าง เราจะได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ถูก เป็นไปตามหลักการไต่สวนคดี ซึ่งเรื่องนี้ เรามีสิทธิที่จะรับรู้ แต่เขาไม่บอกอะไรส่วนนี้เลย บอกแค่ว่ามีการทุจริตนายกฯเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยเท่านั้น”

นายนรวิชญ์ ยังระบุด้วยว่า ป.ป.ช. ไม่ควรใช้มุมมองของตนเอง ในการตัดสินคดีนี้ เช่นที่ระบุว่า การทำโครงการประกันรายได้ ของรัฐบาลชุดที่แล้วดีกว่า เพราะรัฐบาลแต่ละชุดมีนโยบายการบริหารงานไม่เหมือนกัน

"โครงการประกันรายได้ จ่ายเงินไปเหมือนกัน แต่ไม่มีข้าวปรากฎให้เห็นเลย ส่วนโครงการจำนำข้าว เราจ่ายเงินไปมีข้าวกลับมาให้เห็น และในทางบัญชีในอนาคตถ้ารัฐบาลสามารถขายข้าวได้ในราคาสูง ถามว่า ข้าวในโกดัง ที่มีอยู่มันจะถือว่าขาดทุนได้หรือไม่ และเวลาที่มีข่าวว่ามีการทุจริตตรงไหน ก็มีการสั่งการให้เข้าไปตรวจสอบดูแลอยู่ตลอด ตรงนี้อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมด้วย" 

เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ มีประเด็นอะไรที่ทางฝ่ายนายกฯ ยังหนักใจอยู่หรือไม่ นายนรวิชญ์ ตอบว่า "ถ้าข้อมูลที่ ป.ป.ช. ให้เราดูมีแค่นี้ เราไม่หนักใจอะไรเลย เราชี้แจงได้ แต่เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ป.ป.ช.เขายังมีข้อมูลอะไรที่เป็นไม้ตายอีกหรือเปล่า โดยเฉพาะเรื่องที่บอกว่าเราปล่อยปละทุจริตและเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ตรงนี้เราอยากรู้มาก จะได้แก้ข้อกล่าวหาได้ถูกต้อง”

เมื่อถามว่า นายกฯ กังวลใจอะไรหรือไม่ นายนรวิชญ์ ตอบว่า "ไม่มีความกังวลใจ เพราะท่านเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของตนเอง ไม่เครียด หลังจากที่ชี้แจงข้อกล่าวหาเรียบร้อย ก็บอกให้ทีมทนายความเตรียมความพร้อมในการชี้แจงข้อมูลต่อ ป.ป.ช.ให้เต็มที่" 

“อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ผมอยากฝ่ายให้ ป.ป.ช. ตระหนักให้ดีเกี่ยวกับคดีนี้ คือ บุคคลที่อยู่ระหว่างการไต่สวน ไม่ใช่ตำแหน่งข้าราชการธรรมดา แต่มีตำแหน่งเป็นถึงนายกฯ เป็นผู้นำประเทศ ถ้าในท้ายที่สุดผู้นำประเทศต้อง ถูกชี้มูลความผิด นายกฯ ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ได้ ประเทศก็จะมีปัญหาในการบริหารงานเกิดขึ้นทันที ในขณะที่ประชาชน ยังต้องเพิ่งพาการบริหารงานของรัฐบาลอยู่ ตรงนี้ เป็นเรื่องที่ผมมองอยู่นะ มองด้วยใจที่เป็นกลาง ไม่ได้มองในมุมของคนที่ยื่นอยู่ฝั่งตรงข้ามกับ ป.ป.ช. หรือคนของพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด ”

(อ่านประกอบ : “ปู" ให้การ ป.ป.ช. ลุยจำนำข้าวเพื่อชาวนาไม่มี "นักการเมือง"ได้ประโยชน์)