“บก.ลายจุด” วิพากษ์ขบวนการเสื้อแดง หลังวิกฤตนิรโทษเหมาเข่ง
“คุณต้องยึดหลักการ คุณจะยึดว่าใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์แบบนั้นไม่ได้ สังคมมันเพี้ยนไปเยอะ เรื่องทักษิณมันพาหลักของพวกนักเคลื่อนไหว นักการเมือง หรือยุคหลังลากไปถึงนักวิชาการ เพี้ยนไปหมด คุณยังติดบุคคลอยู่ ไม่ว่าโดยความชอบหรือความเกลียด ซึ่งไม่ถูกต้อง”
24 ชั่วโมง ก่อนกิจกรรม 10,000 UP ขอหนึ่งหมื่นคนไม่นิรโทษกรรมคนฆ่าประชาชน จะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2556 นี้ ที่สี่แยกราชประสงค์
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org มีโอกาสได้พูดคุยกับ “หนูหริ่ง-สมบัติ บุญงานอนงค์” หรือ บก.ลายจุด แกนนอนคนเสื้อแดง เจ้าของไอเดียกิจกรรมดังกล่าว ถึงผลกระทบจากร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับเหมาเข่ง-สุดซอย ที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย พยายามถูลู่ถูกังผลักดันอยู่ในห้วงเวลาหนึ่ง
ซึ่งไม่เพียงปลุกพลัง “คัดค้านล้างผิดคนโกง” ขึ้นมาทั่วประเทศ
ยังทำให้เกิดรอยร้าวขึ้นภายในขบวนการคนเสื้อแดง เมื่อฝ่ายหนึ่งต้องการนำฆาตกรผู้สั่งสลายการชุมนุม เมื่อปี 2553 มาลงโทษ แต่อีกฝ่ายต้องการเพียงให้ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ได้รับการปลดเปลื้องพันธนาการและกลับมานำทัพสู้ศึกอีกครั้ง
แม้สัปดาห์ที่ผ่านมา จะมีการภาพของการ “จูบปาก” ระหว่างแกนนำ นปช.กับรัฐบาล พท. เพื่อลดแรงเสียดทานจากมวลชน แต่จะมั่นใจได้อย่างไรว่า ร้อยร้าวดังกล่าวกลับมาประสานเช่นเดิมแล้ว?
“ต้องยึดหลักการ อย่าไปยึดว่าใครได้ประโยชน์ ...เรื่องของทักษิณ มันพาให้นักการเมือง นักเคลื่อนไหว และนักวิชาการ เพี้ยนกันไปหมด” !
เพียงประโยคเดียวของ บก.ลายจุด ดูเหมือนจะแทงเข้าไปตรงหัวใจของปรากฏการณ์ “แดงแบ่งเฉด” ได้ตรงประเด็นที่สุด
เหตุใดถึงเขาถึงลั่นวาจาเช่นนั้น เชิญติดตามหาคำตอบได้ ในบรรทัดถัดไป
-----
- ความรู้สึกแรกหลังจากรู้ว่ารายการประชาชน 3.0 ของตนเองหลุดจากสถานีโทรทัศน์เอเชีย อัพเดต หลังมีการปรับผังรายการใหม่
หลังจากรับโทรศัพท์ของทีมงาน ผมถามเลยว่าคุณมั่นใจว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ถูกต้องหรือ เขาบอกว่าตัดสินใจไปแล้ว คือผมรู้สึกประหลาดใจที่เขาคิดว่าการทำแบบนี้จะเป็นสิ่งที่แก้ปัญหาได้ตามวัตถุประสงค์ รู้สึกแปลกใจที่เขาใช้วิธีการนี้ ไม่เคยเจอ
- มองปรากฏการณ์คนเสื้อแดงออกมาค้านรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตรอย่างไร
มันมาจากเรื่องหลักการ มาจากจิตวิญญาณ และก็ 3 ปีที่ผ่านมา เราล่อกับคุณอภิสิทธิ์ (เวชชาชีวะ) กับคุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ) กันเต็มเต็ง เสื้อแดงไม่ใช่แค่มวลชนฝ่ายการเมือง หรือพวกเราชอบไปเรียกว่าเป็นพวกคะแนนเสียง หรือโหวตเตอร์ แต่ตอนนี้เป็นนักรบแล้ว มันผ่านสนามการต่อสู้ มีการตายเกิดขึ้น
ดังนั้นมันรับไม่ได้กับข้อเสนอนี้ และไม่เห็นเหรอว่าคนเสื้อแดงสามารถที่จะยืนหยัดหลักการที่เขาเชื่อได้จริงๆ แม้ว่าหลักการนั้นจะขัดต่อพรรคการเมืองหรือขัดกับคุณทักษิณ (ชินวัตร) ก็ตาม หรือที่ถูกกล่าวหาว่า คนเสื้อแดง มีความสัมพันธ์เคลื่อนไหวกับคุณทักษิณอย่างเดียว แต่ว่าเมื่อจุดหนึ่งมันมีความแตกต่าง เสื้อแดงก็กล้ายืนยันสิ่งเหล่านี้ เราก็ชนกันเลยนะ ไม่ใช่แค่ทำกันแบบแตกกัน ท้าชนกันเลย
- ถ้าเกิดการแตกหักคนเสื้อแดงที่สนับสนุนรัฐบาล จะต้องแยกออกไปอีกกลุ่มหรือไม่
ถ้าแตกหักก็มีโอกาส คือหลายวันที่แล้วบรรยากาศไม่ดีเอามากๆ โอกาสที่ถึงขนาดว่าจะแยกออกมาเสร็จ แล้วจะแยกออกไปเป็นพรรคการเมืองเสื้อแดงเนี่ย ส่วนตัวผมเห็นด้วย มันควรจะมีพรรคเสื้อแดง ถึงแม้จะเป็นพรรคเล็ก ๆ มี ส.ส.สัก 5 – 10 คน มันควรจะต้องมี
แต่ว่าศักยภาพของคนที่คุมพรรคเหล่านั้นก็คือ นปช. ไม่ใช่เสื้อแดงกลุ่มเล็กๆ ต้อง นปช.อย่างเดียว แต่เนื่องจากว่ามันมีสถานการณ์เฉพาะหน้าและต้องรักษาขบวนใหญ่ไว้ ทำให้ นปช.กลับมามีความสำคัญใกล้ชิด อย่างที่เห็นอยู่ว่าจี๋จ๋ากับเพื่อไทยอีกครั้ง แต่สิ่งนี้เกิดขึ้นจากสถานการณ์เฉพาะหน้า ไม่ใช่เกิดจากการเคลียร์ใจกันได้จริง ๆ
- ในงานเสวนา Thailand’s Redshirt a Turning Point คุณได้กล่าวถึงพรรคเสื้อแดง พรรคเสื้อขาว มันคืออะไร
กำลังบอกว่าในสังคม มันมีคนจำนวนหนึ่งโหวตเพราะเกลียดอีกฝ่ายหนึ่ง เขาไม่ได้โหวตเพราะชอบนักการเมืองนี้ ชอบฝ่ายนี้ ดังนั้นเราควรจะมีพรรคการเมืองทางเลือกให้มากกว่า 2 พรรคใหญ่ อย่างเช่นถ้ามีพรรคคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงก็จะไปโหวตให้พรรคนี้ เหมือนกับพรรคกรรมกร คุณเป็นกรรมกรก็ควรเลือกพรรคนี้ หรือพรรคกรีน ถ้าคุณรักสิ่งแวดล้อมก็ควรเลือกพรรคนี้
คุณเลือกพรรคการเมือง เพราะคุณรักพรรคการเมืองนั้น ไม่ได้เลือกเพราะจำนน เช่น ที่ไม่เลือกพรรคนู้นเพราะเกลียด หรือที่เลือกพรรคนี้เพราะห่วยน้อยกว่า ถึงแม้จะเป็นพรรคเล็กๆ ก็ต้องเกิด
ส่วนเสื้อขาวคือพวกที่ต้องกล้ำกลืนฝืนทน ที่ต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะไม่มีทางเลือกมาก และมันจะทำให้พวกที่ไม่ออกมา พวกไทยเฉยที่ไม่ออกมา 17 ล้านคน พรรคพวกนี้อาจจะไปทำการตลาดกับคนพวกนี้ เพื่อให้เขาออกมาเลือก และอาจได้พวกสวิงโหวตมาด้วย มันควรจะกำเนิดพรรคเสื้อขาว หรือพรรคอัลเทอร์เนทีฟ บ้าๆ บอๆ ออกมาด้วย
คุณอย่าไปคิดว่าพรรคการเมืองมันต้องซีเรียส คุณต้องทำการเมืองให้มันสนุก ให้มันมีชีวิต ไม่ใช่ทำการเมืองให้มีแต่เรื่องฆ่ากันตาย เรื่องคดีความ ผมชอบคุณชูวิทย์ (กมลวิศิษฎ์) ผมว่าคนทำการเมืองแบบนี้มันบ้าดี มันควรจะมีพรรคแบบชูวิทย์อะไรอย่างนี้ อย่างผมคุยเล่นๆ อยากให้มีพรรคชูนิ้ว ให้มันสนุกขึ้นมา
- ในทัศนคติคนไทยที่ยังยึดติดกับ 2 พรรคใหญ่ คือเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ แล้วพรรคทางเลือกจะเป็นไปได้หรือ
เป็นไปได้ ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พรรคของบิ๊กบัง (พรรคมาตุภูมิ – พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน) ยังได้ ส.ส. 1 ที่เลย เพียงแต่คุณต้องทำการตลาดดี ๆ คุณต้องใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กเผยแพร่ ถ้าคุณไม่มีเงินก็ส่งปาร์ตี้ลิสต์ หรือถ้าคุณคิดว่าพื้นที่ไหนฐานเสียงคุณดีก็ส่ง ส.ส. ลงไป มันทำได้อยู่แล้ว
- มีหลายคนออกมาคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษฯ เหมาเข่ง แต่ทำไมไม่มีใครคัดค้านเรื่องรัฐธรรมนูญ มาตรา 309 ทั้งที่เป็นการนิรโทษฯ เหมือนกัน
ก็มันไม่มีคนปลุก แล้วมาตรา 309 มันไปผูกกับทักษิณ คนพวกนี้ก็เลยไม่เอา ซึ่งจริงๆ เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด คิดว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง ไม่คิดว่าทำสิ่งนี้แล้วใครจะได้ประโยชน์
เช่น ถ้าทักษิณได้ประโยชน์จากมาตรา 309 เขามีสิทธิ์ที่จะได้ประโยชน์ เพราะเราทำสิ่งที่ถูกต้อง แล้วทักษิณค่อยกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม หรือถ้ามาตรา 309 เป็นประโยชน์กับอภิสิทธิ์ เพราะหลักการมันถูกต้อง เราก็ต้องยอม แต่ต้องกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเช่นกัน
คุณต้องยึดหลักการ คุณจะยึดว่าใครได้ประโยชน์ เสียประโยชน์แบบนั้นไม่ได้ สังคมมันเพี้ยนไปเยอะ เรื่องทักษิณมันพาหลักของพวกนักเคลื่อนไหว นักการเมือง หรือยุคหลังลากไปถึงนักวิชาการ เพี้ยนไปหมด คุณยังติดบุคคลอยู่ ไม่ว่าโดยความชอบหรือความเกลียด ซึ่งไม่ถูกต้อง
- ทำอย่างไรจึงจะสลายการยึดติดตัวบุคคลออกไปได้
ก็ต้องไปยึดหลักการ คุณควรจะเคารพตัวเองได้นะ คนที่ไม่ยึดหลักการเคารพตัวเองไม่ได้ คุณจะเคารพตัวเองได้ไงถ้าคุณไม่มีหลักการ วันนี้พวกนี้จะเอาอีกอย่าง พวกนั้นจะเอาอีกอย่าง แล้วจะทำอย่างไร
โอเค คนบางคนมันไม่ได้ แต่เราเป็นประชาชน ไม่ได้มีได้มีเสีย ทำไมไม่ยึดหลักการ อันนี้ผมไม่เข้าใจจริง ๆ
- หากเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้าระหว่างคนทั้งสองฝ่าย เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองรอบใหม่จะร้ายแรงขนาดไหน
สงครามการเมืองไง โมเดลนี้มันสงครามการเมือง ถ้าต่างฝ่ายต่างดึงดันไม่ยอม พอเกิดเหตุการณ์นี้มันจะยิ่งรุงรังบานปลายต่อเนื่องไปอีก แต่ไม่ถึงขนาดแบ่งประเทศ ผมยังเชื่อว่าเรายังมีภูมิปัญญาอยู่ แต่ว่ามันมีพวกฮาร์ดคอร์อยู่จริง ของทุกฝ่ายทุกกลุ่ม ฮาร์ดคอร์พวกนี้จะทำให้เกิดสิ่งเหล่านี้
เหมือนเวลาไปดูเกมฟุตบอล ฟุตบอลเขาก็เตะกันไป แต่แฟนบอลดันไปต่อยกัน มันน่าตลกนะ คุณไปดูฟุตบอลแล้วคุณไปต่อยกันทำไม มันมีคนบ้าๆ บอๆ แบบนี้อยู่จริง และลามปามแบบนี้ได้
ภาพประกอบ - สมบัติ บุญงามอนงค์ (เสื้อแดง) ขณะทำกิจกรรมผูกพ้าแดงที่สี่แยกราชประสงค์ จากสำนักข่าวรอยเตอร์