ลึกสุดใจ “สมโภชน์ โตรักษา” ทำไมถึง "กัด" ไม่ปล่อยคดีงบอุดหนุน “วัด” สมุทรปราการ

ลึกสุดใจ “สมโภชน์ โตรักษา” เหยี่ยวข่าวสายทุจริต ช่อง 7 สี "ทีวีเพื่อคุณ" ทำไมถึงเกาะติดข่าวปมใช้จ่ายงบอุดหนุนวัด อบจ.สมุทรปราการ แบบกัดไม่ปล่อย  และความหลังวันที่ต้องเผชิญหน้า กับ นายก อบจ.สมุทรปราการ  "ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม" ตั้งคำถามแบบตัวต่อตัว ก่อนถูกออกหมายเรียก ในฐานะ "ผู้ต้องหา" คดีหมิ่นประมาท 

"ผมไม่มีความกังวลใจอะไรกับเรื่องที่ถูกฟ้องหมิ่นประมาทครั้งนี้  เพราะผมทำงานไม่ได้มีนอกมีในกับใคร ผมทำงานไปตามหน้าที่ของสื่อมวลชนคนหนึ่งก็เท่านั้น "

นี่คือคำยืนยันจากปากของ  นายสมโภชน์ โตรักษา ผู้ช่วยหัวหน้ากองบก.ข่าวทีวีช่อง 7 ที่กล่าวยืนยันกับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เกี่ยวกับ "ข่าวร้าย" ที่ตนเองปรากฏชื่อเป็นผู้ต้องหาในคดีหมิ่นประมาณด้วยการโฆษณา

หลังถูกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการ  ที่ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม ดำรงตำแหน่งเป็น นายก อบจ.สมุทรปราการ  แจ้งความดำเนินคดีอาญาในข้อหาหมิ่นประมาท

จากการเกาะติดนำเสนอข่าวความไม่โปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณอุดหนุนวัด วงเงินหลายร้อยล้านบาท ในจังหวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา

“ตอนนี้สิ่งที่ผมต้องทำก็คือการเตรียมตัว ที่จะต่อสู้คดีดังกล่าว ทั้งในเรื่องของเอกสารและพยานต่างๆ ที่รวบรวมมาได้ในช่วงการทำข่าว เพื่อนำไปชี้แจงต่อเจ้าพนักงานสอบสวน ขั้นตอนก็คงมีประมาณนี้ ”

เมื่อถามว่า คิดว่าอะไรเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ถูกฟ้องหมิ่นครั้งนี้ นายสมโภชน์ ตอบว่า ทางฝ่าย อบจ.จังหวัดสมุทรปราการ อาจจะคิดว่าเขาได้รับความเสียหายจากเรื่องนี้ 

“แต่ผมยืนยันว่า การนำเสนอข่าวของผมในเรื่องนี้ เป็นไปตามข้อเท็จจริงและหลักฐาน ไม่มีเจตนาที่จะไปใส่ร้าย หรือกลั่นแกล้งใครแม้แต่น้อย และในขั้นตอนการทำงาน ไม่ใช่ได้อะไรมาก็นำเสนอไปทันที มันต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบก่อน”

สำหรับที่มาของข่าวชิ้นนี้ นายสมโภชน์ เล่าว่า  ตนได้รับการร้องเรียนมาจากคนในวัดแห่งหนึ่ง เกี่ยวกับปัญหางานก่อสร้าง อาคาร และเมรุ ที่ประสบความล่าช้ามาก

เมื่อได้รับข้อมูลเข้าไปตรวจสอบและพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้นจริง จึงเริ่มขุดคุ้ยปัญหาเรื่องนี้อย่างเต็มที่

จนกระทั่งพบข้อพิรุธในขั้นตอนการดำเนินงานจำนวนมาก โดยเฉพาะขั้นตอนการเข้ามารับงานก่อสร้างโครงการของผู้รับเหมาตามวัดต่างๆ ที่ปรากฎชื่อว่าได้รับงบอุดหนุนจากทางอบจ.  

นายสมโภชน์ ยังระบุด้วยว่า แม้ว่าจะพบข้อพิรุธ จำนวนมาก แต่เพื่อให้เกิดความถูกต้องของข้อมูลให้มากที่สุด ตนได้นำเรื่องไปหารือกับ สตง. เพื่อทำงานตรวจสอบเรื่องนี้ร่วมกัน

เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกับ  นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ.สมุทรปราการ เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างหรือไม่ 

นายสมโภชน์ ตอบว่า เขาได้คุยกับ นายชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม นายก อบจ.สมุทรปราการ อย่างเป็นทางการ หลังจากที่นำเสนอข่าวนี้ไปสักประมาณ 2-3 ตอน

“หลังจากที่เราออกข่าวเรื่องนี้ ไปได้ไม่นาน ก็มีผู้ชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาหาผม มาต่อว่าผม ถึงการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ ว่าทำให้เขาได้รับความเสียหาย  ผมกำลังพิพากษาชีวิตเขา ผมจำเสียงได้ว่าเป็น คุณชนม์สวัสดิ์ ผมก็เลยยืนยันกับเขาไปว่า การทำงานของผมในเรื่องนี้ ไม่มีนอกมีในอะไรกับใคร ผมทำงานตามหน้าที่ และก็พยายามติดต่อคุณชนม์สวัสดิ์ ให้ชี้แจงข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถติดต่อได้เลย ”

นายสมโภชน์ ยังเล่าด้วยว่า “ตอนแรกคุณชนม์สวัสดิ์ บอกจะมาหาผมที่ช่อง 7 เลยด้วยซ้ำ แต่ผมบอกว่า ไม่ต้องมาที่นนี้หรอก เมื่อผมกล้าที่จะนำเสนอข่าวเรื่องนี้ ผมก็กล้าที่จะเดินทางไปพบคุณชนม์สวัสดิ์ ณ ที่ทำงานของเขา เพื่อฟังคำชี้แจงจากเขาด้วยตัวเอง”

เมื่อได้วันนัดหมายสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว  นายสมโภชน์ เล่าว่า เขากับทีมงานไปพบนายชนม์สวัสดิ์ ที่ทำงาน และได้เปิดโอกาสให้นายชนม์สวัสดิ์ ได้ชี้แจงข้อมูลเต็มที่ ซึ่งนายชนม์สวัสดิ์ ก็ยืนยันว่า ไม่เคยมีส่วนได้ส่วนเสียหรือรู้จักกับ ผู้รับเหมา ที่เข้าไปรับงานก่อสร้างตามวัดต่างๆ แต่อย่างใด 

“หลังจากที่คุณชนม์สวัสดิ์ ชี้แจงข้อมูลมาแล้ว ผมก็นำเสนอข่าวทันที เพื่อเปิดโอกาสให้เขาได้มีพื้นที่ชี้แจงข้อมูลอย่างเต็มที่ ตามหลักการนำเสนอข่าวทั่วไป”

เมื่อถามว่า ล่าสุดได้มีโอกาสพูดคุยกับ นายชนม์สวัสดิ์ อีกหรือไม่ นายสมโภชน์ระบุว่า ไม่ได้เจอ หรือคุยอะไรกันอีกเลย และเท่าที่ตนสอบถามข้อมูลจากเจ้าพนักงานสอบสวนที่ออกหมายเรียกมา ก็ได้รับการยืนยันว่า บุคคลที่ไปแจ้งความดำเนินคดีกับตน ในฐานะตัวแทน อบจ.สมุทรปราการ ไม่ใช่ นายชนม์สวัสดิ์ แต่เป็นรองนายกอบจ.คนหนึ่ง ซึ่งระบุว่า ดำเนินการในฐานะรักษาการแทน นายก อบจ.

ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงไม่เป็นคุณชนม์สวัสดิ์ เอง ผมก็ไม่ทราบ

นายสมโภชน์ ยังมั่นใจด้วยว่า การทำหน้าที่สื่อมวลชน ของเขา ในการเกาะติดนำเสนอข่าวเรื่องนี้ เป็นผลดีต่อการใช้จ่ายงบอุดหนุนวัด ของอบจ.สมุทรปราการ เสียด้วยซ้ำ

เพราะล่าสุด อบจ.สมุทรปราการ ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน ล่าสุดพบว่า งานก่อสร้างในวัดบางแห่ง ที่เคยประสบปัญหาล่าช้า ก็ได้รับการแก้ไขให้ดีขึ้น

เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ ที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีครั้งนี้ นายสมโภชน์ กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีความกังวลใจอะไร เพราะมั่นใจว่า ทำงานตามหน้าที่ ที่สื่อมวลชนที่ดีควรเพิ่งปฏิบัติ

ส่วนผลจากการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในครั้งนี้ จะเป็นอย่างไร คงเป็นเรื่องที่ขึ้นอยู่กับอนาคต

แต่เขาก็ยังมั่นใจ ว่า เขาไม่ได้ทำอะไรผิด

โดยเฉพาะการขุดคุ้ยปัญหาการทุจริต ขึ้นมาให้สังคมรับรู้ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของคนส่วนร่วม ไม่ให้ใครมาแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัวได้

(ดูหมายเรียกประกอบ)