เป็นหมอต้องไม่เห็นแก่ลาภ
“...แพทย์เป็นอาชีพที่มีต้นทุนทางสังคมสูง คนเฒ่าคนแก่เดินเข้าห้องตรวจต้องยกมือไหว้ท่วมหัว เช่นเดียวกับครู อาจารย์ และ พระ ซึ่ง 2 ประเภทหลัง ความเชื่อถือถดถอยลงมากโดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องเงินทอนพระ บ้าเสกผ้ายันต์ เข้ามาเกี่ยวข้อง แต่พอเข้าสู่การเมือง มีผลประโยชน์ บางคนก็เสียหมอ...”
โลกที่เต็มไปด้วยโลภ!
มีหนังสือขนาดกระทัดรัดเล่มหนึ่งกองเรียงราย ขวามือประตูทางเข้าด้านหลังอาคารสมาคมนักข่าวชื่อ คุณธรรม สำหรับคุณหมอ เรียบเรียงโดย ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย
พลิกอ่านน่าสนใจ เข้ากับยุคสมัย
บุคคลที่ปรากฎชื่อในหนังสือเล่มนี้ หน้า 41 บทที่ 6 หมอคง ถาวรเวช*
หมอคง ถาวรเวช เกิดเมื่อ พ.ศ.2396 เคยเป็นศิษย์ของพระยาประเสริฐศาสตร์ธำรง (หมอหนูวรกิจพิศาล) ซึ่งเป็นแพทย์ใหญ่ฝ่ายการแพทย์แผนไทยที่โรงศิริราชพยาบาล วันที่ 26 เม.ย.2431 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงพยาบาลศิริราช โปรดเกล้าฯให้พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์เป็นอธิบดีกรมพยาบาลและผู้จัดการโรงศิริราชพยาบาล พระองค์เจ้าศรีเสาวภางค์จึงเชิญพระยาประเสริฐศาสตร์ธำรง (หนู) มาเป็นแพทย์ใหญ่ โดยนำลูกศิษย์มาเป็นแพทย์รองสองคนคือ หมอคง และ หมอนิ่ม
ประมาณ พ.ศ.2436 หมอคงย้ายมาอยู่ที่โรงพยาบาลบูรพา และได้รับบรรดาศักดิ์ เป็นขุนประสารเวชสิทธิ์ ทำหน้าที่ทั้งเป็นหมอหลวง (รักษาในวังหลวง) หมอประจำโรงพยาบาล และหมอเชลยศักดิ์ (รักษาชาวบ้าน)
หมอคงใช้วิชาความรู้แพทย์สมัยใหม่ผสมผสานกับความรู้ตามตำรับไทยที่ได้ศึกษาเล่าเรียนมาแต่เดิมปรับปรุงแผนการใช้ยารักษาคนไข้จนเกิดผลดีทำให้หมอคงเป็นหมอที่มีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น
ต่อมาได้เลื่อนบรรดาศักดิ์โดยลำดับจนเป็นพระยาพิศณุประสาทเวช
พ.ศ.2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้หมอคงไปจัดการระงับโรคระบาดกาฬโรคแถบจังหวัดลพบุรีและนครราชสีมา
พระยาพิศณุประสาทเวชได้รวบรวมพระคัมภีร์แพทย์ พิมพ์เผยแพร่เมื่อปี พ.ศ.2450 ชื่อ “แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ฉบับหลวง” และได้พิมพ์ตำราเรียนวิชาแพทย์ชื่อ “ เวชศึกษา” เผยแพร่ปี พ.ศ.2451 เพื่อใช้สอนนักเรียนแพทย์ในขณะนั้น
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว พระยาพิศณุประสาทเวช ได้มีโอกาสรับราชการเป็นแพทย์หลวงประจำพระองค์ และได้รับพระราชทานนามสกุลให้เป็นต้นสกุล “ถาวรเวช”
ท่านถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2547 สิริรวมอายุ 61 ปี
งานเขียนชิ้นเอกชิ้นหนึ่งของหมอคง ชื่อว่า แพทยาลังการ:คุณธรรมสำหรับแพทย์ เป็นหลักในการครองตนเองและหลักปฏิบัติของแพทย์ต่อผู้ป่วย มีทั้งสิ้น 12 ข้อ และ 1 ใน 12 ข้อ คือ ไม่เห็นแก่ลาภ (ข้อ 2 )
ท่านอธิบายว่า
ถ้าหมอเป็นคนมีความโลภเห็นแก่ลาภ ไข้พอจะหายได้ในไม่ช้า แกล้งหน่วงเหนี่ยวไวให้หายช้า
หรือ ไข้เป็นอย่างไม่น่าตกอกตกใจ ก็บอกเสียอย่างหนึ่ง เพื่อให้เจ้าของไข้ตกใจ
หรือคิดอุบาย แต่จะได้ค่ายา ค่าป่วยการให้มากด้วยประการใดๆ
เล่ห์ประการหนึ่งว่าจะทำนาค้าขายบนหลังผู้ป่วย เอามั่งมีเสียทีเดียว ไม่คิดเผื่อที่จะให้ความสุขแก่เพื่อนบ้านฐานถิ่น ฉะนั้นแล้วใครเล่าจะเคารพนับถือ
เพราะฉะนั้น หมอจึงเป็นควรเป็นคนไม่เห็นแก่ลาภ
อ่านเรื่องของหมอคงทำให้เห็นถึงคุณประโยชน์ของท่านต่อวงการแพทย์
แพทย์เป็นอาชีพที่มีต้นทุนทางสังคมสูง ในสังคมชนบทคนเฒ่าคนแก่เดินเข้าห้องตรวจต้องยกมือไหว้ท่วมหัว บางคนอายุคราวลูก เช่นเดียวกับครู อาจารย์ และ พระ ซึ่ง 2 ประเภทหลัง ความเชื่อถือทางสังคมถดถอยลงมากโดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องเงินทอนพระ บ้าเสกผ้ายันต์ เข้ามาเกี่ยวข้อง
แต่พอเข้าสู่การเมือง มีผลประโยชน์ บางคนก็เสียหมอ
หมอประพฤติดีมีอุดมการณ์จำนวนมาก เช่น ปรากฎข่าว หมอรักษาคนไข้ด้วยเงินไม่กี่บาท
ขณะเดียวกันทำให้นึกถึงพฤติกรรมอีกด้าน
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) เสนอมาตราการ ในการป้องกันการทุจริตในกระบวนการเบิกจ่ายยาตามสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ ต่อคณะรัฐมนตรี เนื่องจากพบพฤติกรรมการกระทำความผิด 3 ประเภท คือ การสวมสิทธิ การยิงยา และการช้อปปิ้งยา แลกกับผลประโยชน์ ค่าคอมมิชชัน หรือไปเที่ยวต่างประเทศ ของ แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์
กรณีโรงพยาบาลระยองที่ถูกร้องเรียนรับเงินจากบริษัทยา และการจัดซื้อจัดจ้าง (เงินทอน?)
กรณีหอพักแพทย์ร้าง โรงพยายาบาลนครชัยศรี จ.นครปฐม ที่ใช้เงินเกือบ 10 ล้านสร้างเสร็จเมื่อปี 2554 แต่ปล่อยทิ้งร้างมา 7 ปี กลายสภาพเป็นห้องเก็บเอกสาร
กรณีนักศึกษาแพทย์วางยาสุนัขเอาเงินประกัน
คำกล่าว แพทย์พาณิชย์บางคนใช้เวลาเปิดคลินิกมากกว่าอยู่โรงพยาบาล ,ไปตีกอล์ฟกับเจ้าของบริษัทยาและเวชภัณฑ์ มีผลประโยชน์ทับซ้อน
อดีตนายแพทย์สาธารณสุขในจังหวัดหนึ่ง ถือครองที่ดิน ภบท.5 น.ส.3 ก. และโฉนด รวมของเมีย เกือบ 200 แปลง หลายร้อยไร่ บ้าน 16 หลัง หุ้นหลายสิบแห่ง เงินฝาก 23 บัญชี เงินปล่อยกู้ 7 ราย รถยนต์ 7 คัน รวมทรัพย์สินเกือบ 200 ล้านบาท โชว์อยู่ในบัญชีทรัพย์สินใน ป.ป.ช. เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือ อีกหลายคน
ฯลฯ
‘เป็นหมอต้องไม่เห็นแก่ลาภ’ ท่านบอกไว้เมื่อร้อยปีก่อนดั่งทำนายอนาคต ก่อนหลับตานอน คิดข้อนี้ไว้บ้างก็ดี
ข้าพเจ้ามิได้พูดเอง และ มิบังอาจยกตน