- Home
- Isranews
- เวทีทัศน์
- "ไม่หลงเชื่อใครไปทำงานมาเลย์อีกแล้ว..." ความรู้สึก 21 หญิงไทยหลังกลับบ้าน 17 คน
"ไม่หลงเชื่อใครไปทำงานมาเลย์อีกแล้ว..." ความรู้สึก 21 หญิงไทยหลังกลับบ้าน 17 คน
การช่วยเหลือหญิงสูงอายุจากชายแดนใต้ที่ตกเป็นเหยื่อถูกลวงไปค้ามนุษย์ ไปขอทานด้วยการขายข้าวเกรียบบังหน้าที่ประเทศมาเลเซีย ยังคงได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่มีการนำเสนอข่าวสารผ่านสื่อกระแสหลักแล้วก็ตาม
เมื่อปลายเดือนมีนาคม หญิงจากชายแดนใต้อีก 5 คนได้เดินทางกลับบ้านเกิด โดยพวกเธออยู่ในกลุ่ม 21 หญิงไทยจากชายแดนใต้ที่ถูกลวงไปขายแรงงานผิดกฎหมายในมาเลเซีย จนถูกกักตัวไว้ในบ้านพักสตรีรัฐยะโฮร์ เพื่อรอขึ้นศาลเป็นพยานในค้ามนุษย์ที่ทางการมาเลเซียดำเนินการฟ้องร้องกลุ่มนายหน้าตั้งแต่เดือนกันยายนปีทีแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้หน่วยงานที่รับผิดชอบ ทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้ร่วมกันติดต่อประสานงาน เดินทางไปเยี่ยม มอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น และช่วยเหลือเดินทางกลับบ้านเกิดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับหญิงสูงอายุ 5 คนที่กลับมาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม เดินทางด้วยเครื่องบิน เนื่องจาก นายศุภรัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต.มองว่าเพื่อการเดินทางที่รวดเร็ว เพราะหากต้องรอเจ้าหน้าที่มาเลเซียมาส่ง อาจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน ทั้งนี้ หญิงทั้ง 54 คน อายุอยู่ในช่วงระหว่าง 44-61 ปี มีภูมิลำนาอยู่ใน อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี 2 คน ส่วนอีก 3 คนอยู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
หญิงกลุ่มนี้คือกลุ่มที่ 2 จากจำนวน 21 คนที่ถูกส่งกลับบ้าน โดยกลุ่มแรก 12 คนกลับถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 19 มกราคม รวม 2 กลุ่ม 17 คน เหลือกลุ่มสุดท้ายอีก 4 คนเท่านั้น
นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศ ศอ.บต. บอกว่า หญิงไทยอีก 4 คนสุดท้ายต้องขึ้นศาลช่วงก่อนสงกรานต์ และน่าจะได้กลับบ้านในเร็ววันนี้
"ภาพที่เห็น และความรู้สึกตอนไปรับหญิงไทยกลับบ้าน รู้สึกตื้นตันมาก ทันทีที่เครื่องบินแตะรันเวย์ คนที่นั่งอยู่ข้างๆ ร้องไห้ และส่งเสียงบอกว่าพวกเราถึงบ้านแล้ว เขาร้องไห้ดีใจน้ำตาไหลกัน เราก็ดีใจไปด้วยที่สามารถสร้างความสุขให้ชาวบ้านได้ สิ่งที่ทำไม่ได้รู้สึกว่าเป็นงาน แต่รู้สึกว่าเราไปช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน เขาทุกข์เราก็ทุกข์ด้วย พยายามเต็มที่เพื่อให้เขาได้กลับบ้าน เขาสุขเราก็ดีใจ" นายธีรุตม์ เล่าถึงบรรยากาศที่สนามบินหาดใหญ่
หนึ่งใน 5 หญิงไทยที่ได้กลับบ้าน บอกว่า ขอขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ นายศุภณัฐ สิรันทวิเนติ เลขาธิการ ศอ.บต.ที่ห่วงใยและคอยให้ความช่วยเหลือ ดูแลตนเองและเพื่อนๆ เมื่อตอนถูกจับตัวอยู่ในประเทศมาเลเซียนานกว่า 6 เดือน ตนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ คิดถึงบ้าน ร้องไห้ทุกวัน จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลไทยเข้ามาช่วยเหลือ ทำให้สามารถกลับมาประเทศไทยได้ หลังจากนี้ไปตนจะไม่เชื่อใครอีกแล้ว และฝากถึงคนไทยทุกคนอย่าไปหลงเชื่อ ถ้าใครชวนไปทำงานต่างประเทศ อยากให้ทุกคนสอบถามข้อมูลผ่าน ศอ.บต. หรือหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ให้ชัดเจนก่อนไปทำงานจริง
ด้าน นายมะสุกรี เจะเหาะ ชาว ต.ตันหยงดาลอ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี ซึ่งเป็นสามีของหนึ่งใน 21 หญิงไทยที่ไปถูกจับในมาเลเซีย กล่าวกับ "ทีมข่าวอิศรา" ว่า ดีใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้ภรรยากลับมา และ ศอ.บต.ก็ดูแลเต็มที่ พากลับมาด้วยเครื่องบิน ดีใจมาก และขอบคุณทุกคนจากใจจริงๆ ขอบคุณ นายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้อำนวยการกองกิจการต่างประเทศ ที่ดูแลทุกคนอย่างดีมาตลอด ไม่รู้จะตอบแทน ศอ.บต.อย่างไร
"เพื่อนที่โคกโพธิ์ ที่ภรรยาเขาถูกจับ เขาบอกว่า ถ้าภรรยาเขากลับมาเขาจะเลี้ยงแพะ พอเขาไปรับภรรยามาจากสนามบิน กลับมาเขาเชือดแพะตามที่บอกไว้ทันที ทุกคนดีใจ ไม่รู้จะบอกอย่างไร พอกลับมาหน่วยงานในพื้นที่ทุกหน่วยก็มาเยี่ยมตลอด ภรรยาบอกกับทุกคนว่าต่อไปจะไม่ไปมาเลเซียแล้ว ถ้าไปก็คงไปแค่เทียว ไปทำงานพอแล้ว เขาไม่เอาแล้ว" นายมะสุกรี กล่าว
กรณี 21 หญิงไทย ศูนย์ข่าวอิศราเปิดประเด็นตังแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว หลังจากพบว่ามีหญิงไทย 21 คนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในวัยชรา หายไปจากบ้านที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเดินทางไปพร้อมกับนายหน้าที่ชักชวนไปทำงานขายข้าวเกรียบที่ประเทศมาเลเซีย ต่อมาเมื่อแกะรอยหาตัวจึงพบว่าเป็นการเดินทางไปแบบทำงานผิดกฎหมายและพวกเธอถูกหลอกให้ไปเป็นขอทาน กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่มาเลเซียจับกุมและกันตัวไปเป็นพยานเพื่อเอาผิดกับนายหน้า หรือผู้นำพาตัวจริง ซึ่งปัจจุบันทางการไทยก็ได้จับกุมและออกหมายจับเครือข่ายนายหน้าซึ่งพำนักอยู่ใน อ.จะนะ จ.สงขลา แล้ว
------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : หญิงไทยโผเข้ากอดกับครอบครัวทันทีที่เดินทางถึงสนามบินหาดใหญ่ หลังต้องถูกกักตัวเป็นพยานในคดีค้ามนุษย์นานกว่า 6 เดือนในมาเลเซีย จากการถูกนายหน้าชักชวนไปทำงานผิดกฎหมาย
ขอบคุณ : ภาพจาก ศอ.บต.