เปิดอกช้ำทายาท 'หัสวุฒิ' ยัน 'พ่อ' บริสุทธิ์ ถูกอ้างชื่อทำ จม.น้อย
"..ตลอดเวลาหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น คุณพ่อสู้อย่างเข้มแข็งมาตลอด เพื่อปกป้องชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลและเหนือสิ่งอื่นใดเพื่อความถูกต้องยุติธรรม คนที่เคยใกล้ชิดคุณพ่อ น่าจะทราบดีว่าคุณพ่อเป็นคนอย่างไร.."
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : นายวิท วิฑิตวิริยกุล ลูกชาย นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล อดีตประธานศาลปกครองสูงสุด ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อว่า Vit Vititviriyakul ยืนยันความบริสุทธิ์ของพ่อ ใช้ชื่อว่า "My super dad"
----------------------
"ผมขอยืนยันในความบริสุทธิ์และ ขอฝากให้คนไทยทุกคนจับตาดูความเป็นไปของศาลปกครองในคดีสำคัญๆระดับประเทศ"
หนึ่งในแถลงการณ์ของคุณพ่อ
ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ม.ป.ช., ม.ว.ม.
(อดีตประธานตุลาการศาลปกครองสูงสุด)
เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2559
ตลอดเวลาหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น คุณพ่อสู้อย่างเข้มแข็งมาตลอด เพื่อปกป้องชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลและเหนือสิ่งอื่นใดเพื่อความถูกต้องยุติธรรม คนที่เคยใกล้ชิดคุณพ่อ น่าจะทราบดีว่าคุณพ่อเป็นคนอย่างไร
ข่าวที่เผยแพร่สู่สาธารณชนถูกแสดงให้เห็นเพียงด้านเดียวมาตลอด สื่อทุกช่องทางที่มาทำข่าวตอนคุณพ่อแถลงการณ์และให้สัมภาษณ์โดนปิดเกือบทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ทุกช่อง หรือหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ
การที่คุณพ่อต่อสู้และออกแถลงการณ์ต่างๆหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น ไม่ได้เป็นการต่อสู้เพื่อตนเองเท่านั้น หากแต่เป็นการต่อสู้เพื่อแสดงให้สาธารณชนได้ตาสว่างและได้เห็นถึงความจริงที่เกิดขึ้นว่าแม้แต่วงการต่างๆซึ่งเป็นสถาบันหลักของประเทศก็อาจไม่ได้โปร่งใสและถูกอำนาจการเมืองเข้าแทรกแซงได้ แต่ก็น่าแปลกที่คนไทยส่วนใหญ่กลับไม่ได้ให้ความสำคัญ และมักจะออกมาเรียกร้องก็ตอนที่สายไปเสียแล้ว
สมัยที่คุณพ่อเป็นตุลาการมีคน/กลุ่มคนพยายามเข้ามาติดต่อเจรจาผลทางคดีต่างๆหลายครั้ง และเคยมีคนมาเสนอให้เงินถึง 250 ล้าน เพื่อจะพลิกคดี แต่คุณพ่อก็ปฏิเสธที่จะรับเงิน ทำให้เกิดเหตุไม่ปลอดภัยขึ้นหลายครั้ง เป็นเหตุนำไปสู่แนวคิดที่ทำให้คุณพ่อจัดตั้ง "ตำรวจศาล" ขึ้นเพื่อป้องกันการคุกคามตุลาการ*
จากปมคดีจดหมายน้อย ตามที่สื่อแจ้ง ถ้าสาวไปถึงญาติพี่น้องในตระกูล "วิฑิตวิริยกุล" ไม่มีใครรับราชการเป็นตำรวจเลยสักคนเดียว และก็คงจะไม่มีเพื่อนเป็นถึง พ.ต.ท.** ตามที่ข่าวว่าไว้
การทำจดหมายน้อยเป็นการอ้างชื่อคุณพ่อ โดยไม่มีลายมือหรือการลงลายลักษณ์อักษรของคุณพ่อเลยแม้แต่น้อย หากมีแต่ลายมือของคนที่เขียนขึ้นเองเพียงอย่างเดียว ซึ่งคุณพ่อมาทราบเรื่องจดหมายน้อยนี้ก็ในวันที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์นั่นเอง ช่างน่าขันที่เรื่องที่คุณพ่อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นเลยกลับกลายเป็นเรื่องราวกล่าวหาใหญ่โตจนถูกสั่งพักราชการในที่สุด
จากการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงมีมติเสียงข้างมาก 3 ต่อ 2 ว่าจากข้อเท็จจริง เอกสาร และพยานหลักฐานไม่อาจบ่งชี้ได้ว่าคุณพ่อมีความผิดตามที่มีการกล่าวหา ที่น่าแปลกใจคือ ก.ศป. กลับไม่ทำตามกระบวนการที่ควรจะเป็น แต่กลับพิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวนใหม่เสียเองและลงมติตามเสียงข้างน้อย** ประมาณว่ากูอยากให้ผิด ก็ต้องผิด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าสลดอย่างยิ่งสำหรับวงการศาลของไทย
“ผมมาครั้งนี้ไม่ได้มาขอความเป็นธรรมให้ตัวเอง แต่มาขอความเป็นธรรมให้สังคม เพราะในเหตุการณ์นี้ผมเป็นตุลาการ ถ้ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรนี้ ประชาชนก็คงไม่ได้รับความเป็นธรรมจากองค์กรต่างๆ เพราะคนที่เป็น ก.ศป.ล้วนแต่เป็นนักกฎหมายระดับสูงทั้งนั้น จึงอยากขอให้ทำเรื่องนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย”***
หนึ่งในแถลงการณ์ของคุณพ่อ
ดร.หัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ม.ป.ช., ม.ว.ม.
(อดีตประธานตุลาการศาลปกครองสูงสุด)
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2558
ณ ศาลปกครองสูงสุด
ถ้ามองย้อนกลับไปก่อนหน้านี้เคยมีความพยายามของบุคคลกลุ่มหนึ่งที่จะล้มศาลปกครองเพราะเห็นว่าการพิจารณาคดีอย่างตรงไปตรงมาของคุณพ่อ ไม่สามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้ ผลคดีย่อมไม่เป็นประโยชน์แก่พวกพ้องของตน แต่เมื่อความพยายามนั้นไม่สำเร็จ จึงนำไปสู่การเล่นงานโดยวิถีทางอื่นแทน ซึ่งเมื่อมองแล้วการเล่นงานนี้เกิดขึ้นจากคนกลุ่มหนึ่งและมีการเตรียมการมานานแล้ว
คุณพ่อเป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์ สุจริต ทำงานหนักด้วยความตั้งใจดีและมุ่งมั่นมาตลอดชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นแม้จะเลวร้ายเพียงใดก็ไม่มีวันเปลี่ยนความจริงและคุณงามความดีที่คุณพ่อสร้างไว้ได้
ก่อนที่คุณพ่อจะเสีย คุณพ่อเคยบอกว่าคุณพ่อจะไม่อาฆาตมาดร้ายกลุ่มคนที่เล่นงาน เพราะคุณพ่อเชื่อในเรื่องเวรกรรมมีจริง ในระหว่างการแถลงการณ์ครั้งหนึ่งคุณพ่อได้กล่าวไว้ว่า "ใครที่ก่อกรรมไว้ กรรมจะจัดสรรคนเหล่านั้นเอง"
* http://youtu.be/LrSXrPXyVhg
**http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9580000107746
***http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000102163
