เมื่อคุณประมนต์ตกเป็นเหยื่อ (อีกครั้ง)
"..กลุ่มคนที่ปล่อยข่าวสร้างกระแสประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง เราทราบดีว่านำโดยนายพลเอกเกษียณราชการสองนาย นายพันเอก และลูกทีมที่ทำธุรกิจนายหน้าส่งคนเป็นครูพิเศษตามสถานศึกษาทั่วประเทศ.."

ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณประมนต์ (สุธีวงศ์) ที่ได้รับเกียรติให้เป็นประธานกรรมการของบริษัทข้ามชาติระดับโลก ท่านได้พูดกับผมเสมอว่า
กรณีที่ตัวท่านโดนโจมตีเกี่ยวกับภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ พรีอุสนั้น ท่านไม่อยากให้ ACT ออกมาตอบโต้ แต่ปล่อยให้เป็นการชี้แจงของโตโยต้าเอง
เพราะแม้คุณประมนต์จะไม่มีอำนาจกระทำการแทนบริษัท แต่ท่านเชื่อว่า ด้วยนโยบายที่รับผิดชอบและมาตรฐานกลไกการตรวจสอบการทำธุรกิจทั่วโลกของบริษัท โตโยต้าจะไม่ทำการใดๆ ที่เป็นการทุจริตต่อรัฐที่ตนไปทำธุรกิจและจะเคารพกระบวนการยุติธรรมของประเทศนั้นๆ เสมอ
ทุกวันนี้เราจะเห็นข่าวเกี่ยวกับข้าราชการ ประชาชนหรือใครก็ตามที่ออกมาพูดเปิดโปงคอร์รัปชันมักจะโดนคุกคามเสมอ ล่าสุดคือกรณีครูวิไลวรรณ กองนันท์ ที่ จ.น่าน ได้ไปร้องเรียนเรื่องนมนักเรียนบูด จนทำให้วันนี้เธอกำลังถูกกดดันอย่างมาก จนต้องขอย้ายโรงเรียนถ้าไม่ให้ย้ายก็จะลาออกจากราชการ
คุณประมนต์และ ACT ก็โดนเช่นเดียวกัน
บ้านคุณประมนต์โดนคนร้ายยิงถล่มไปแล้วเมื่อต้นปี 57 บ้านผมเองก็มีคนมาก่อกวนจนต้องมีกำลังทหารมาคุ้มครองที่บ้านนานกว่าสามเดือน เชื่อว่าเป็นเพราะบทบาทและผลงานของ ACT ที่คุณประมนต์เป็นประธานฯ ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อกลุ่มผลประโยชน์จำนวนมาก ทำให้มีขบวนการที่ใช้วิชามารออกมาทำทุกวิถีทางเพื่อลดความน่าเชื่อถือ
พฤติกรรมเช่นนี้ยังเป็นการข่มขู่ให้ผู้คนรู้ว่าหากใครกล้าออกมายืนต่อสู้กับคอร์รัปชันก็จะต้องโดนเล่นงาน ต้องแปดเปื้อนโคลนตม
วันนี้เราปลุกพลังข้าราชการ นักธุรกิจและประชาชน คนตัวเล็กตัวน้อยให้ลุกออกมาแสดงพลังรับผิด ชอบต่อบ้านเมือง ลุกออกมาต่อต้านคอร์รัปชัน สิ่งที่ต้องทำไปพร้อมกันคือ
"ขอให้ทุกๆ คน ช่วยกันเป็นเกราะปกป้องคุ้มครองซึ่งกันและกัน อย่าปล่อยให้ขบวนการคนโกงออกมารังแกใครง่ายๆ"
เราได้ยินพลเอกประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีและพลเอกอนุพงษ์ รมว. มหาดไทย ประกาศว่าจะสนับสนุนและปกป้องพลังประชาชนทุกคน ที่ออกมาต่อต้านคอร์รัปชัน วันนี้ก็คงต้องดูว่าจะมีอะไรเป็นรูปธรรมบ้าง
กรณีรถพรีอุส มีข้อมูลดังนี้ครับ
1. หากดูตามเอกสารชี้แจงของโตโยต้า จะเห็นว่ามีการทำหนังสือขอคำปรึกษา/ชี้แจง/ตอบโต้กับกรมศุลกากร ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการมาจนปัจจุบันและได้เข้าสู่กระบวนการศาลภาษีอากร อย่างเปิดเผยมาตลอด
2. ปัญหาการตีความความที่แตกต่างกันระหว่างเอกชนที่อ้างเงื่อนไขตามข้อตกลงการค้า JTEPA (ไทย-ญี่ปุ่น) แต่ทางกรมศุลฯ อ้างว่าไม่เข้าข่ายข้อตกลงนี้ เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งระหว่างเอกชนผู้นำเข้า - ส่งออกสินค้ากับกรมศุลกากร และยากที่จะพูดว่าใครผิดถูก ทำให้ต้องมีการส่งเรื่องให้ศาลภาษีอากรเป็นผู้พิจารณาซึ่งจะใช้พิจารณาเวลาประมาณ 5-6 ปี
เรื่องแบบนี้เทียบกับกรณีที่บริษัท/ห้างร้านทั่วไป/ประชาชนที่เสียภาษีการค้า ภาษีเงินได้ ที่อาจมีการยื่นขาด ยื่นเกิน ยื่นเรื่องผิด ส่งผลให้มีการคืนภาษีหรือต้องชำระเพิ่มและเสียค่าปรับ ซึ่งต่างกับกรณีเจตนาปิดบังรายการ สำแดงเท็จหรือเจตนาโกงภาษี VAT หรือการติดสินบนเจ้าหน้าที่ให้ใช้ดุลยพินิจในทางมิชอบ
3. ผมเข้าใจว่ามีกรณีโต้แย้งเกี่ยวกับภาษีในแต่ละปีจำนวนมาก ทั้งกรณีที่หยิบยกขึ้นมาโดยเอกชนหรือราชการ
4. กลุ่มคนที่ปล่อยข่าวสร้างกระแสประเด็นนี้อย่างต่อเนื่อง เราทราบดีว่านำโดยนายพลเอกเกษียณราชการสองนาย นายพันเอก และลูกทีมที่ทำธุรกิจนายหน้าส่งคนเป็นครูพิเศษตามสถานศึกษาทั่วประเทศ
ผมทำงานใกล้ชิดคุณประมนต์ในหลายเรื่อง และได้ทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญประจำตัวท่าน ใน สปช. บ่อยครั้งที่ได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของคุณประมนต์ไปปฏิบัติภาระกิจต่างๆ รวมถึง คตช. และ ศอตช. ที่ท่านเป็นกรรมการอยู่
แต่ผมไม่เคยได้ยินท่านพูดขอความช่วยเหลือจากใครในเรื่องนี้เลย
คุณประมนต์มักบอกเสมอว่า “ต้องมั่นใจในสิ่งที่เราพูด รับผิดชอบในสิ่งที่เราทำ ท่านเป็นคนธรรมดาที่ไม่เคยมีอภิสิทธิ์หรือคิดจะปิดกั้นการตรวจสอบหรือวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริต”
ดร. มานะ นิมิตรมงคล
เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)
24/9/58
ภาพประกอบ :
1. ปกหนังสือ "กาลเวลาจารึกคน" ที่เขียนโดยคุณประมนต์ และผมเชื่อว่าความดีงามที่ท่านสร้างไว้จะคงอยู่ตลอดไป
2. ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน สัญญลักษณ์ที่ท่านภูมิใจ
