นริศร ทองธิราช : จะเสียบบัตรแก้กม.ส.ว.หรือเงินกู้ 2 ล้านล. ผมคือเหยื่อ?
“..เรื่องอนาคตการเมืองผมไม่ซีเรียสอะไร เพราะตั้งใจจะหยุดอยู่แล้ว การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ลงสมัครอะไรด้วย แต่ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ ถ้าในอนาคตพรรคยังเห็นว่าผมมีประโยชน์ เรียกมาใช้งานอีก ผมก็พร้อม..”
“เขาบอกว่าเห็นเสื้อสูท แล้วก็มายืนยันว่าเป็นผม ผมถามหน่อยเถอะว่า แค่เห็นเสื้อสูท หน้าก็เห็นไม่ชัด แล้ว มาบอกว่าเป็นผมเลย มันใช้ได้ไหมกับคดีอาญา มันถูกหรือเปล่า คนใส่สูท เป็นใครก็ไม่มีใครรู้ ไม่เห็นหน้า"
นายนริศร ทองธิราช อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ. สกลนคร พรรคเพื่อไทย เคยยืนยันคำพูดประโยคนี่กับสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา
หลังถูกระบุชื่อในคำวินิจฉัยเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาและคุณสมบัติของ สว.เป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 และล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามมาตรา 68 ของ ศาลรัฐธรรมนูญ
ว่าเป็น ส.ส. "ผู้รับหน้าที่เสียบบัตรแทนส.ส.คนอื่น" ในการแสดงตนลงคะแนนเสียงพิจารณาแก้ไขกม.ดังกล่าว
ล่าสุดในช่วงบ่ายวันที่ 12 มีนาคม 2557 ที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญระบุชื่อ "นายนริศร"
ในฐานะ ส.ส. "ผู้รับหน้าที่เสียบบัตรแทนส.ส.คนอื่น" เช่นเดิม
แต่เปลี่ยนเรื่องเป็นการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจ กระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ….พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน แทน
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า “การลงคะแนนเสียงแทนกันในการพิจารณา ร่าง พรบ. นี้ ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 และ 126 วรรค 3 ศาลรัฐฐธรรมนูญ โดยมติเสียงข้างมาก เห็นว่า ร่าง พรบ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พศ.. ตราขึ้นโดยไม่ถูกต้อง ตามบทบัญญัติ แห่งรัฐธรรมนูญนี้"
หลังสิ้นเสียงคำวินิจฉัยของ ศาลรัฐธรรมนูญจบลง...
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้ติดต่อไปยัง นายนริศร เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องการเสียบบัตรแทน ส.ส.คนอื่น ทันที
ประโยคคำตอบแรกที่ได้รับกลับมา คือ
"ผมไม่ได้วิตกกังวลอะไรกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาแบบนี้หรอก เพราะคาดว่าก่อนล่วงหน้าแล้วว่า ผลการพิจารณาจะต้องออกเป็นแบบนี้อยู่แล้ว"
เมื่อถามย้ำว่า กังวลใจหรือไม่ ที่ปรากฎชื่ออยู่ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญสองครั้งแล้ว
นายนริศร ตอบว่า "ผมยืนยันเลยนะ ว่าไม่คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ มานั่งคิดที ก็ดีเหมือนกัน ตอนนี้ผมกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงขี้นมาทันทีเลย"
"เหมือนที่เขาพูดกันนะ ข่าวร้ายลงฟรีข่าวดีเสียเงิน ตอนนี้ ข่าวเรื่องผมมันดังใหญ่แล้ว ดังไปทั่วโลกเลย"
เมื่อถามว่า ถูกตรวจสอบพบว่าเสียบบัตรแทน ส.ส.คนอื่น ในการพิจารณาพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน นายนริศร ตอบว่า “ก็ผมบอกไปแล้วว่า ไม่มีอะไร เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ ผมเป็นเหยื่อทางการเมือง ถูกดึงเข้ามายุ่งเกี่ยว กับเรื่องนี้ซึ่งเป็นเรื่องการเมือง”
เมื่อถามย้ำว่า ได้เสียบบัตร แทน ส.ส.คนอื่นหรือไม่ นายนริศร ตอบว่า "ไม่จริงๆๆ ระบบการแสดงตนในปัจจุบันเขาใช้วิธีการวางนิ้วมือทาบเพื่อแสดงตัว คนอื่นทำแทนไม่ได้ ต่อให้ผมมีบัตรคนอื่นหลายสิบใบ แล้วจะทำอะไรได้"
“บ้านนี้เมืองนี้ มันก็เป็นแบบนี้แหละคุณ อำนาจคนบางคน คนบางกลุ่มมันใหญ่ล้นฟ้าล้มมือ เมื่อผลมันออกมาเป็นแบบนี้ ผมก็ยินดีด้วยกับคนไทย ที่บ้านเมืองนี้มันเป็นแบบนี้ ดีใจด้วยจริงๆ ”
เมื่อถามว่า แต่มีหลักฐานปรากฎชัดเจนว่า เสียบบัตรแทนคนอื่น นายนริศร ตอบว่า "รูปถ่ายผมเกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเป็นหมื่นรูป ส่งไปทั่วทุกมุมโลก แต่ไม่รู้ใครถ่าย เจ้าหน้าที่คนไหนทำก็ไม่รู้ เสื้อสูท ผมก็มีหลายตัว ไม่ใช่แค่ตัวเดียว ผมเคยชี้แจงไปหลายหนแล้ว ตอนแรกถ่ายแค่ด้านหลัง ตอนหลังมีด้านหน้า แต่ใครถ่ายก็ไม่รู้"
เมื่อถามว่า ได้คุยกับทางพรรคเพื่อไทยบ้างหรือยัง นายนริศร ตอบว่า "ไม่ได้คุยอะไร ผมก็สู้ของผมคนเดียว ผมเล่นการเมืองมา30 ปี ตั้งแต่ปี 2544 ไม่ได้มีอคติกับใคร ที่ผ่านมามีคนพยายามจะจุดหลายเรื่องให้เป็นประเด็นการเมือง แต่มันบังเอิญมาจุดติดกับเรื่องนี้เท่านั้นเอง"
เมื่อถามว่า เคยระบุว่าจะวางมือทางการเมือง นายนริศร ตอบว่า “เรื่องอนาคตการเมืองผมไม่ซีเรียสอะไร เพราะผมตั้งใจจะหยุดอยู่แล้ว เลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็ไม่ได้ลงสมัครอะไรด้วย"
"แต่ตอนนี้ยังเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยอยู่ ถ้าในอนาคตพรรคยังเห็นว่าผมมีประโยชน์ เรียกมาใช้งานอีก ผมก็พร้อม”นายนริศร กล่าวทิ้งท้าย
(อ่านประกอบ : เปิดละเอียด! คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เสียงเอกฉันท์ ตีตกพรบ.กู้ 2 ล้านล.!)