- Home
- Investigative
- ร่ำรวยผิดปกติ
- ป.ป.ช.ชง ‘บิ๊กตู่’ไล่‘ธาริต’ออกราชการ! ถูกฟันรวยผิดปกติ-ไม่ได้เป็นผู้บริหารระดับสูง
ป.ป.ช.ชง ‘บิ๊กตู่’ไล่‘ธาริต’ออกราชการ! ถูกฟันรวยผิดปกติ-ไม่ได้เป็นผู้บริหารระดับสูง
ป.ป.ช.ชง ‘บิ๊กตู่’ ไล่ ‘ธาริต’ ออกจากราชการ หลังถูกชี้มูลรวยผิดปกติ 346 ล้าน เหตุไม่ได้เป็นผู้บริหารระดับสูงแล้ว แต่อยู่ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ เนื่องจากถูกคำสั่ง คสช. ย้ายเข้ากรุสำนักนายกฯ
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปัจจุบันปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ฐานร่ำรวยผิดปกติ โดยมีพฤติการณ์ให้ผู้อื่นถือทรัพย์สินแทนกว่า 346 ล้านบาทนั้น
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช. ชี้มูล 'ธาริต เพ็งดิษฐ' ร่ำรวยผิดปกติ346 ล. ส่งอัยการฟ้องยึดทรัพย์)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการยืนยืนจากแหล่งข่าวระดับสูงในสำนักงาน ป.ป.ช. ว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ส่งสำนวนการไต่สวน และรายงานความเห็นคดีดังกล่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ดำเนินการลงโทษไล่นายธาริตออกจากราชการ เนื่องจากตามมาตรา 80 (4) ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ระบุว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ไม่ใช่ นักการเมือง ประธานศาล และผู้บริหารระดับสูง ที่ถูกชี้มูลความผิดร่ำรวยผิดปกติ ให้ประธาน ป.ป.ช. แจ้งไปยังผู้บังคับบัญชา ซึ่งในที่นี้คือนายกรัฐมนตรีสั่งลงโทษ ดังนั้นปัจจุบันนายธาริตไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่อธิบดีดีเอสไอ ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารระดับสูงแล้ว แต่ปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี ที่ถูกนิยามว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐอื่น จึงเข้าข่ายมาตรา 80 (4) ดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ร.บ.ป.ป.ช. มาตรา 80 ระบุว่า ถ้าคณะกรรมการ ป.ป.ช.ไต่สวน ข้อเท็จจริงและมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหาร่ำรวยผิดปกติให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีเป็นผู้ถูกกล่าวหาตามมาตรา 66 ให้ประธานกรรมการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
(2) ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาล ปกครองสูงสุด กรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภาตุลาการรัฐธรรมนูญ กรรมการตรวจเงิน แผ่นดิน รองประธานศาลฎีกา รองประธานศาลปกครองสูงสุด หัวหน้าสำนักตุลาการทหาร รองอัยการสูงสุด หรือ ผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง ให้ประธานกรรมการส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณา พิพากษาคดีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
(3) ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด ให้ประธานกรรมการยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมี เขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน
(4) ในกรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มิใช่บุคคลตาม (1) (2) และ (3)ให้ประธานกรรมการส่ง เรื่องให้อัยการสูงสุดยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีเพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินตกเป็น ของแผ่นดิน และให้ประธานกรรมการแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนผู้ถูกกล่าวหาสั่งลงโทษ ไล่ออกหรือปลดออก โดยให้ถือว่ากระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่
เว้นแต่กรณีที่ผู้ถูกกล่าวหาเป็นข้าราชการ ตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการตุลาการศาลปกครองตามกฎหมายว่า ด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง หรือข้าราชการอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบ ข้าราชการฝ่ายอัยการ ให้ประธานกรรมการแจ้งไปยังประธานคณะกรรมการตุลาการ ประธานคณะกรรมการ ตุลาการศาลปกครอง หรือประธานคณะกรรมการอัยการ แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายว่า ด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ กฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง หรือ กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
ขณะที่ มาตรา 4 ของ พ.ร.บ.ป.ป.ช. นิยามคำว่า ‘เจ้าหน้าที่ของรัฐ’ หมายความว่า ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการหรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมี ตำแหน่ง หรือเงินเดือนประจำ พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่นและ สมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งมิใช่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เจ้าพนักงานตามกฎหมายว่าด้วยลักษณะปกครองท้องที่ และให้ หมายความรวมถึงกรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลหรือคณะ บุคคลซึ่งใช้อำนาจหรือได้รับมอบให้ใช้อำนาจทางการปกครองของรัฐในการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งตามกฎหมาย ไม่ ว่าจะเป็นการจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ
สำหรับนายธาริต ถูกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 8/2557 เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2557 โดยหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีคำสั่งให้นายธาริต มาปฏิบัติราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยให้ได้รับเงินเดือนทางสังกัดเดิมไปพลางก่อน และให้ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ขณะนั้น) มาปฏิบัติหน้าที่อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษอีกหน้าที่หนึ่งแทน
อ่านประกอบ :
'น้องเมียธาริต'ปัดแจงปมบริษัทพันคดีรวยผิดปกติ-อ้างไม่ได้ยุ่งนานแล้ว
ยลโฉมที่ดิน-บ้านปากช่อง‘ธาริต’! ถูก ป.ป.ช.ฟันรวยผิดปกติ-ส่งฟ้องยึดทรัพย์
ตามไปดู! บ.เมียธาริต บ้านเดี่ยว 2 ชั้น-ขายให้คนใต้ ไร้คนอยู่ตั้งแต่การเมืองร้อน
ลุยพิสูจน์ บ.อสังหาฯ'หลานธาริต'ที่แท้!โกดัง-เจ้าของขายวัสดุก่อสร้าง
เจาะรายได้ 4 ปี 2.7 ล.‘บ.เมียธาริต’เอาเงินจากไหนไปซื้อทอง 9.2 แสน
คลี่เงื่อนงำคำโต้แย้ง‘ธาริต’ทำไมไม่แจง ป.ป.ช.-รวยด้วยธุรกิจจริงหรือ?
บ.เมียธาริต ถอนเงินซื้อทอง 9.2 แสนพันคดีรวยผิดปกติ-เลิกกิจการปี’56
ชีวิตเปลี่ยนสี 'ธาริต เพ็งดิษฐ์' จากสูงสุดสู่โดนยึดทรัพย์ 346 ล.
เส้นทางเงิน‘ธาริต’ก่อน ป.ป.ช.เชือดรวยผิดปกติ 346 ล.ให้นอมินีถือแทน
อัพเดท ขรก.รวยผิดปกติ ‘ธาริต’รายที่ 13 ลุ้นอีก 2 ระดับบิ๊ก?
เจาะไส้ใน! บ.อสังหาฯ‘หลานธาริต’ไม่แจ้งงบการเงิน-ป.ป.ช.ฟันนอมินี