- Home
- Investigative
- จัดซื้อจัดจ้าง
- เปิดสัญญาลับ“ขายช่วง”บ.สยามรักษ์"จุดตาย"ระบายข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"
เปิดสัญญาลับ“ขายช่วง”บ.สยามรักษ์"จุดตาย"ระบายข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"
เผยโฉมสัญญาลับ “ขายช่วง” บ. สยามรักษ์ จุดตาย ระบายข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์" หลักฐานสำคัญในอุ้มมืออนุกมธ.ฯ วุฒิสภา ก่อนส่ง ถึง ป.ป.ช.
กรณี พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ส.ว.สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบเรื่องการระบายข้าวถุง รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ยืนยันว่า บริษัทเอกชน ที่ได้รับหมายมอบจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้เข้ามาทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายระบายข้าวถุง มิได้นำข้าวถุงไปกระจายต่อให้กับร้านค้าทั่วไป ตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ในโครงการ เนื่องจากนำสิทธิการระบายข้าวส่วนนี้ ไปขายต่อให้กับบริษัทเอกชนและโรงสีที่รับหน้าที่ในการปรับปรุงข้าว
(อ่านประกอบ:ฟัง"ยุทธนา"งัดหลักฐาน"มัด"ระบายข้าวถุง-ข้อมูลถึงตัว"นักการเมือง"จริงหรือ?)
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการระบายข้าวถุงในสต็อกรัฐบาลของ อคส. พบว่า เอกสารสำคัญที่คณะอนุกรรมาธิการฯ นำมาใช้ยืนยันข้อเท็จจริงเรื่องนี้ คือ เอกสารสัญญาซื้อขายฉบับหนึ่ง ที่บริษัท สยามรักษ์ จำกัด ในฐานะ "ผู้ขาย" ทำขึ้นกับนายศุภกร แซ่เฮ้ง ในฐานะ "ผู้ซื้อ" ลงวันที่ 14 สิงหาคม 2555 ระบุว่าทำขึ้น ณ องค์การคลังสินค้า
จากการตรวจสอบพบว่า สัญญาดังกล่าว ระบุข้อกำหนดไว้ 9 ข้อ ดังนี้
1. ในสัญญาฉบับนี้ “สินค้า” หมายความถึง ผลิตภัณฑ์ ข้าวสาร 5% ชนิดบรรจุถุง ตรา อคส. น้ำหนัก รวมถุงบรรจุ 5 กิโลกรัม ที่ อคส. ได้ทำการผลิตหรือจำหน่ายตามปกติ หรือตามความต้องการของลูกค้า
2. ผู้ขายตกลงแต่งตั้งผู้ซื้อเป็นลูกค้าประเภท “ผู้แทนจำหน่ายสินค้า” เพื่อการจำหน่ายหรือกระจายสินค้า ของ อคส. ในลักษณะของการซื้อสินค้าจาก อคส. และนำไปขายต่อ หรือจำหน่ายให้กับผู้บริโภค และบุคคลทั่วไป
3. ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงกันว่าในการจัดจำหน่ายสินค้านั้น ผู้ซื้อจะดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับผู้บริโภค และบุคคลทั่วไป เฉพาะในเขตพื้นที่ภาคกลางและปริมณฑล ภาคอีสาน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
4. ในการซื้อสินค้าตามสัญญาฉบับนี้ ผู้ซื้อจะซื้อสินค้าตามราคาที่ อคส.กำหนด โดยมีปริมาณ 3,000,000 ถุง หรือที่ผู้ขายจะได้กำหนดหรือเปลี่ยนแปลงต่อไปในภายหน้า โดยให้ถือว่าเงื่อนไขและข้อตกลงที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เป็นส่วนหนึ่งของสัญญาฉบับนี้ด้วย
5. ผู้ซื้อต้องชำระเงินค่าสินค้าให้ อคส. ล่วงหน้าก่อนรับมอบสินค้า เป็นเงินสด หรือเช็คธนาคาร ที่ออกโดยธนาคาร ที่ตั้งอยู่ในเขตกรุงเทพมหานครหรือปริมณฑล โดยสั่งจ่ายในนามองค์การคลังสินค้า
6. ผู้ซื้อให้ความรับรองว่าจะจัดให้มีสินค้าไว้จำหน่ายอย่างทั่วถึงภายในเขตพื้นที่ที่กำหนดไว้ในข้อ 3 และในกรณีที่ทางราชการได้กำหนดราคาขายปลีก หรือได้กำหนดให้ผู้ซื้อจะต้องดำเนินการอย่างไร ต่อสินค้าของ อคส. ผู้ซื้อจะต้องกระทำตามมาตรฐานที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
7. ผู้ซื้อมีหน้าที่จะต้องส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การใช้สินค้ารวมถึงรักษาประโยชน์ในด้านการค้าและกระทำการอื่นใด เพื่อประโยชน์ของ อคส. รวมทั้งให้ความร่วมมือช่วยเหลือผู้บริโภคหรือผู้ใช้สินค้า โดยมุ่งหมายให้จำหน่ายสินค้าเป็นไปด้วยดี มีประสิทธิภาพ และสามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ของผู้อื่นได้
8. ถ้าผู้ซื้อลูกค้าละเลยหรือจงใจไม่ปฏิบัติตามสัญญา หรือปฏิบัติผิดสัญญาฉบับนี้ไม่ว่าข้อหนึ่งข้อใด หรือทั้งหมด ผู้ขาย มีสิทธิงดเว้นค่าส่วนลดหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ผู้ซื้อพึ่งได้รับตามสัญญา และหรือบอกเลิกสัญญาได้ทันที ในกรณีนี้ ผู้ขายไม่ต้องรับผิดชอบความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น หรืออาจเกิดขึ้นแก่ผู้ซื้อ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม
9. สัญญาฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ผู้ซื้อและผู้ขาย ได้ลงนามในสัญญาฉบับนี้เป็นต้นไป จนกว่าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะบอกเลิกสัญญา โดยการบอกแจ้งไว้เป็นลายลักษณ์อักษรให้อีกฝ่ายหนึ่งรับทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน
แหล่งข่าวจากคณะอนุกมธฯติดตามตรวจสอบเรื่องการระบายข้าวถุง วุฒิสภา เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า จากการตรวจสอบข้อมูลของคณะอนุกรรมาธิการฯ พบว่า นายศุภกร แซ่เฮ้ง มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทเจียเม้ง ที่รับหน้าที่เป็นผู้ปรับปรุงข้าวให้กับ อคส. และมีข้อมูลยืนยันว่า แหล่งเงินที่นำมาใช้ในการซื้อข้าวของ นายศุภกร ไม่ได้มาจากตัวนายศุภกรเองด้วย
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา นายศุภกร แซ่เฮ้ง ได้เข้าชี้แจงข้อมูลกับคณะอนุกรรมาธิการฯ เกี่ยวกับการเข้ามารับช่วงซื้อข้าวจากบริษัท สยามรักษ์ ว่า ตนทำธุรกิจเป็นนายหน้ารับซื้อข้าว หรือ หยง เพื่อขายต่อให้กับผู้ส่งออก สาเหตุที่รับเป็นตัวแทนขายช่วงต่อ เพราะบริษัท สยามรักษ์ ไม่รู้จักใครในธุรกิจค้าข้าว และไม่มีลูกค้าในมือเลย ตนเป็นนายหน้า ใครเอาข้าวมาให้ขายก็ขาย
โดยบริษัทเจียเม้ง ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าเป็นผู้ชักชวนให้มาทำสัญญากับบริษัท สยามรักษ์ โดยจะได้รับรายได้จากการจำหน่ายข้าวถุงละ 2 บาท หากมีลูกค้าสนใจติดต่อสั่งซื้อข้าว ทางบริษัทจะให้ผู้ซื้อติดต่อโดยตรงไปที่ บ.เจียเม้ง พร้อมกับให้ผู้ซื้อโอนเงินให้กับ บ.เจียเม้งโดยตรง ดังนั้นเงินจำนวนดังกล่าวจะไม่ผ่านบริษัท จึงไม่ทราบปริมาณที่ชัดเจนว่าข้าวขายไปแล้วจำนวนเท่าไร
ทั้งนี้ นายศุภกร ยังยืนยันกับสื่อมวลชนว่า ไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกับ นางรัตนา แซ่เฮ้ง กรรมการผู้จัดการบริษัทสยามอินดิก้า จำกัด แม้ว่าจะมีนามสกุลพ้องกันก็ตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อขอสัมภาษณ์บริษัทเจียเม้ง แต่ไม่สามารถติดต่อได้
(อ่านประกอบ :เปิดบ้าน“เจ๊รัตน์”คนสนิท“เสี่ยเปี๋ยง”อยู่ตึกแถว 3 ชั้น ถือหุ้นเกือบ 200 ล้าน)