ฟัง“ยุทธนา”งัดหลักฐาน“มัด”ระบายข้าวถุง-ข้อมูลถึงตัว"นักการเมือง"จริงหรือ?
“ เกี่ยวกับเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ผมยืนยันว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบจะมองข้ามไปไม่ได้ เพราะมันเป็นข้อมูลที่มีผลกระทบถึงตัวรัฐบาลโดยตรง ..รัฐบาลจะอยู่หรือจะไปก็ขึ้นอยู่กับเรื่องข้าว ไม่ใช่เรื่องอื่น”
โครงการระบาย "ข้าวถุง" ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการระบายข้าวในสต็อกรัฐบาลที่ได้รับมาจากโครงการรับจำนำของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังถูกจับตามองอย่างมากในเรื่องความโปร่งใส
หลังจากคณะอนุกรรมาธิการติดตามตรวจสอบเรื่องการระบายข้าวในสต็อกของรัฐบาล จากโครงการรับจำนำข้าว ปี 2554/55 ในคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ตรวจสอบพบว่า การดำเนินงานเรื่องนี้ส่อว่าจะมีปัญหาความไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศักยภาพของบริษัท 3 ราย ที่เข้ามารับงาน คือ บริษัท สยามรักษ์ จำกัด ,บริษัท คอนไซน์ เทรดดิ้ง จำกัด และบริษัท ร่มทอง จำกัด ที่มีการตรวจพบข้อมูลว่า ไม่เคยทำธุรกิจเรื่องข้าวมาก่อน
รวมถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่าง "ผู้มีอำนาจ" ในการดูแลรับผิดชอบเรื่องการระบายข้าว กับหนึ่งในสามบริษัทที่เข้ามารับงานนี้?
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี” สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) สรรหา ในฐานะประธานคณะอนุกรรมาธิการฯชุดดังกล่าว เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข้อมูลการตรวจสอบโครงการระบายข้าวถุง ตั้งแต่จุดเริ่มต้น จนถึงขั้นตอนการสรุปผลการสอบสวนในปัจจุบัน เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นำไปใช้ขยายผลการสอบสวนต่อไป
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ติดตามได้จากบทสัมภาษณ์ชิ้นนี้
@ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้
เกิดจากการร้องเรียนเข้ามาในทำนองว่าข้าวที่ร้านถูกใจ ซึ่งเป็นโครงการของกรมการค้าภายใน มีจำนวนน้อย และร้านถูกใจไม่มีข้าวขาย ประชาชนก็อยากซื้อ เราก็เลยไปติดตามดูที่จังหวัดต่าง ๆ ช่วงประมาณเดือนมีนาคม – เมษายน 2556 ปรากฏว่าหลายๆจังหวัด รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดก็เพิ่งทราบว่ามีโครงการดังกล่าว
“เราเข้าไปตรวจสอบดูว่าเกิดปัญหาอะไรหรือไม่ ประชุมกับจังหวัด จังหวัดบอกว่าข้าวถูกใจมีน้อย ส่งช้า ทำให้ร้านค้าเบื่อในการรอคอย และมีปัญหาเรื่องสั่งสินค้ามาก เราก็ไปตามข้อมูลต่อ พบว่ามันมีปัญหาเกิดขึ้นมากจริง ไม่ว่าจะเป็นระบบ งาน ที่ล่าช้า รวมถึงการประสานงาน”
"จากนั้นเราเริ่มย้อนกลับไปดูข้อมูลต่างๆ พบว่า มีการระบุตัวเลขข้าวในสต็อกรัฐ ที่จะระบายออกมา จำนวน 2.5 ล้านตัน แต่จริงๆ มันไม่ถึง มีบางส่วนขาดหายไป มันจึงเป็นที่มาของคำถามว่า เขาระบายกันช่องทางไหนบ้าง แล้วทำไม่ข้าวบางส่วนถึงหายไป ทำไมข้าวไม่ไปถึงมือประชาชน”
เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีข้าวส่วนหนึ่งไปทำร้านธงฟ้า ที่ภาคใต้ แต่จำนวนก็มีไม่มาก ถามองค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์ บอกว่าเบิกข้าวไปแล้วกว่า 1 ล้านตัน แล้วทำได้ไม่ถึง 50,000 ตัน เมื่อตรวจสอบข้อมูลลึกขึ้นก็พบว่า มีการระบุเรื่องการระบายข้าวในส่วนของร้านทั่วไป ปรากฏอยู่ในมติคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ด้วย โดยอ้างหัวข้อเรื่องว่าเพื่อช่วยเหลือชาวมุสลิมใน 3 จังหวัดภาคใต้ และติดว่าให้จำหน่ายร้านทั่วไปเพื่อช่วยลดค่าครองชีพด้วย เราก็ไปตามต่อว่า ร้านทั่วไปว่ามีหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มี ขนาดผู้ว่าฯ ยังไม่รู้ว่ามีข้าวตามร้านทั่วไปขาย
@ ในขั้นตอนการตรวจสอบพบข้อมูลสำคัญอะไรบ้าง
หลังจากทราบว่า มีการระบุช่องทางการระบายข้าวตามร้านค้าทั่วไป เราตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีการเปิดให้เอกชนจำนวน 3 ราย คือ 1.บริษัท สยามรักษ์ บริษัท คอนไซน์ เทรดดิ้ง จำกัด และ 3.บริษัท ร่มทอง เข้ามาเป็นผู้แทนจำนวนให้ร้านทั่วไป มีการทำสัญญากับ อคส.เป็นทางการ
เราก็เลยตามไปดูข้อมูลสัญญาของบริษัททั้ง 3 แห่ง โดยในส่วนของบริษัท สยามรักษ์ ระบุว่ามีแผนการตลาดในการจำหน่ายให้แก่ร้านอะไรบ้าง เขาอ้างว่ามี 1,400 กว่าร้าน และก็มีร้านใหญ่ 12 อีกจังหวัด เราก็ไปตรวจตามร้าน ได้รับการยืนยันข้อมูลว่า บริษัทสยามรักษ์ไม่ได้ส่งข้าวให้ และเขาไม่รู้จัก ไม่เคยเป็นลูกค้าสยามรักษ์ เราจึงตั้งข้อสังเกตว่า สยามรักษ์ อาจจะไม่ได้ส่งข้าวจริง
คำถามสำคัญ จึงตามมาว่า เมื่อไม่ได้นำข้าวไปส่ง แล้ว ข้าวมันหายไปไหน?
“จากการตรวจสอบข้อมูลในส่วนของบริษัทที่ได้รับว่าจ้างปรับปรุงข้าว เราพบข้อมูลสำคัญว่า มีการนำข้าวส่วนนี้ ออกไประบายต่อเอง ตั้งราคาขายสูงกว่าราคาที่กำหนดไว้ในโครงการ มีหลักฐานเป็นใบเสร็จยืนยันชัดเจน และในระหว่างการตรวจสอบข้อมูลส่วนนี้ มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในสามบริษัท ที่เข้ามาเป็นตัวแทนจำนวน มาติดต่อขอพบกับผม พร้อมสารภาพว่า ไม่ได้นำข้าวไปจำหน่าย แต่อย่างใด เพราะหลังจากได้รับข้าวจากรัฐบาลมาแล้ว ก็นำข้าวไปขายต่อให้กับบริษัท ที่มีหน้าที่รับปรับปรุงข้าว”
@ หมายความว่า บริษัททั้ง 3 แห่ง ไม่ได้นำข้าวไปกระจายตามร้านค้าทั่วไป แต่นำมาขายต่อให้กับบริษัท ที่รับหน้าที่ปรับปรุงข้าวแทน
“ใช่ๆๆ เรามีข้อมูลหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเป็นแบบนั้น บริษัททั้ง 3 แห่ง นำสิทธิ์การระบายข้าว มาขายต่อให้กับบริษัทโรงสีที่รับปรับปรุงข้าว ส่วนบริษัทที่รับข้าวต่อมาจะนำไปทำข้าวถุงหรือไม่เราไม่รู้ แต่จากการตรวจสอบพบว่าสัญญาก็เปิดช่องให้เขาเหมือนกันว่า ขายปลีกหรือขายส่งก็ได้ ทั้ง 3 บริษัทก็เลยขายคืนให้โรงสี ซึ่งก็คือขายส่ง”
@ บริษัท สยามรักษ์ บริษัท คอนไซน์ฯ และบริษัทร่มทอง ไม่มีศักยภาพพอที่จะเข้ามารับงานได้
“ไม่มีเลย บริษัทเหล่านี้ทำพวกดอกไม้ประดิษฐ์ ทำจัดสรรบ้าน ไม่มีความรู้เรื่องนี้เลย บริษัทรายหนึ่ง ในจำนวนนี้ มารับสารภาพกับเรา และนำสัญญาขายคืนมาให้ผมดู พร้อมบอกว่าไม่ได้ทำข้าวส่งเลย"
"นั้นจึงเป็นการไขปริศนา ว่า มีการนำข้าวออกไป แต่ข้าวไม่ได้ เป็นข้าวถุง กระจายไปตามร้านทั่วไป และข้าวมันไปอยู่ในมือของคนบางกลุ่มแทน”
@จำนวนข้าว และความเสียหายเกิดขึ้นเท่าไร
“จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ข้าวส่วนนี้ที่เบิกออกไปแล้ว เป็นจำนวน 5 แสนตัน วงเงินรวมประมาณ 6,000 กว่าล้านบาท แต่ในข้อเท็จจริงแล้ว ภายหลังจากที่บริษัทเอกชนทั้ง 3 แห่งนี้ เข้ามาทำสัญญาซื้อข้าวจากองค์การคลังสินค้า (อคส. ) ไม่นานนัก บริษัทเอกชนเหล่านี้ ก็ไปทำสัญญาขายสิทธิการระบายข้าวส่วนนี้ให้กับโรงสีและเอกชน กลุ่มหนึ่ง ก่อนที่จะมีนำข้าวไปขายต่อในราคาแพง ทำให้รัฐเสียหายจำนวนมหาศาล"
"โชคดีที่เราเข้าไปเจอก่อน เขาก็เลยหยุด ไม่เช่นนั้น ประเทศคงเสียหายมากกว่านี้”
@ช่วงเวลาที่ 3 บริษัทไปรับและขายคืนให้โรงสี ใช้เวลานานขนาดไหน
“น่าจะคิดเป็นระยะเวลาแค่ 4 วัน ซึ่งมันชี้ให้เห็นว่า ไม่มีทางที่จะทำงานกันได้ เรื่องนี้เรามีหลักฐานยืนยันได้”
@ทั้ง 3 บริษัท บอกหรือไม่ว่าใครเป็นผู้ชักชวนเข้ามา และรู้ช่องทางได้อย่างไร
“ เขาไม่ได้บอกเรา..บริษัท คอนไซน์ กับร่มทองเราไม่รู้ แต่ผมจะโยงว่าสยามรักษ์ที่เราจับได้ มีที่มาที่ไปอย่างไรให้ ป.ป.ช.ดู”
“สยามรักษ์นั้นมีเลขา รมว.พาณิชย์ รัฐบาลนี้ ซึ่งรับงานเรื่องข้าวหลายเรื่อง เป็นอดีตกรรมการบริษัท เป็นลูกจ้างเขา ขณะที่กรรมการบริษัท คนหนึ่ง เป็นน้องชาย บอร์ด อคส. (ลาออกช่วงปี 55) ขณะที่รัฐมนตรี ก็เป็นคนเชิญบอร์ด อคส. และบอร์ด อคส. ก็เป็นคนดำเนินการทั้งหมด มันเชื่อมโยงกันหมด ”
@ ฝั่งเลขาฯ รมว.พาณิชย์ ยืนยันว่า ลาออกมานานแล้ว ไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
“เป็นเรื่องที่เขาจะต้องไปชี้แจงกับ ป.ป.ช. เรามีหน้าที่แค่หาข้อเท็จจริง และจากหลักฐานที่ปรากฏออกมา ข้าวถุง ไม่ไปถึงมือประชาชน ข้าวมันหายไป อยู่ในมือคนบางกลุ่ม เขาต้องไปตอบคำถามตรงนี้ด้วยว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น”
"หลังจากที่เราเข้าไปตรวจสอบ พอเขารู้ตัวว่าเราเข้ามาตรวจสอบ เขาก็หยุด และผมก็เป็นคนไปบอกให้ อคส.หยุดทำเรื่องแบบนี้ ผมไปบอกเขาเลยว่า คุณรู้ไหมว่าทำแบบนี้ข้าวไปไม่ถึงมือประชาชน ข้าวหาย ให้หยุดซะ เอาข้าวคืนผม ถ้ายังทำอย่างนี้ต่อไปประเทศชาติพังแน่ เพราะถ้าทำ 2.5 ล้านตัน ประเทศเสียหายกว่า 30,000 ล้าน และตอนนี้เฉพาะข้าวที่หายไปหลายพันล้านแล้ว"
@ตัวละครหลัก ๆ ในเรื่องนี้ ที่วุฒิสภา จะเสนอไปยัง ป.ป.ช. มีอะไรบ้าง
กรรมการทุกกรรมการ กขช. อนุกรรมาธิการระบายข้าวฯ บอร์ด อคส. โรงสีทั้ง 3 โรง แล้วก็บริษัทจำหน่าย 3 บริษัท คือตัวละครที่เข้ามาเกี่ยวข้องทั้งหมด
@ ตอนที่รัฐบาล ระบุว่า จะระบายเป็นข้าวถุง ทำให้บริษัทหรือโรงสี ที่ปรากฎชื่อเป็นผู้รับปรับปรุงข้าว ไม่เข้าไปดำเนินการเอง ทำไมจะต้องหาตัวบริษัท ไม่มีศักยภาพแบบนี้เข้ามาทำงาน
“ผมไม่ทราบ แต่มีความเป็นไปได้ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ อาจจะไม่ไว้วางใจบริษัทปรับปรุงข้าว ก็เลยต้องส่งบริษัทของตนเอง เข้าไปคุมอีกทีหนึ่ง แต่เขาอาจจะไม่รู้ว่า เรามีข้อมูลอยู่ นั้นคือจุดที่ผิดพลาด”
@ที่ผ่านมาเคยเชิญผู้เกี่ยวข้องในส่วนของกระทรวงพาณิชย์มาชี้แจงหรือไม่
“เราเคยเชิญ รัฐมนตรี แต่ก็ไม่มา เชิญอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศก็ไม่มา เชิญอธิบดีกรมการค้าภายในก็ไม่มา สั่งแต่เจ้าหน้าที่มาให้ข้อมูลเรา เชิญ อคส. ตัว ผอ.อคส. ก็ไม่มา แต่พอถูกปลดแล้วถึงมา เราถึงรู้ เขามาให้ข้อมูลเรา ถึงเรื่องไม่ชอบมาพากลใน อคส. บ้าง เราก็เลยรู้ลึกขึ้นไปอีกว่าเป็นการทะเลาะกันใน อคส. มีการแย่งหน้าที่กันในบอร์ด อคส.
@ผลงานชิ้นนี้ถือเป็นชิ้นโบว์แดงของวุฒิสภาเลยหรือไม่
ไม่รู้เหมือนกัน แต่ไม่เคยมีใครทำเรื่องอย่างนี้ ถึงขนาดที่มาจับได้ถึงขนาดนี้ ถาม รมต. ก็ตอบไม่ได้ว่าข้าวหายไปไหน มันโยงกันหมด
@ ฝ่ายค้านเคยมาประสานงานขอข้อมูลหรือเปล่า
“ก็เคยมาคุยนะ พยายามมาขอข้อมูลบางส่วน แต่มันอยู่ระหว่างการตรวจสอบ และข้อมูลบางส่วนก็เป็นความลับมาก ผมไม่สามารถให้ได้”
"อย่างไรก็ตาม เกี่ยวกับเรื่องโครงการรับจำนำข้าว ผมยืนยันว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกฝ่ายที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ จะมองข้ามไปไม่ได้ เพราะมันเป็นข้อมูลที่มีผลกระทบถึงตัวรัฐบาลโดยตรง รัฐบาลจะอยู่หรือจะไปก็ขึ้นอยู่กับเรื่องข้าว ไม่ใช่เรื่องอื่น"
"และจากเอกสารหลักฐานที่คณะอนุกรรมาธิการฯ มีอยู่ในมือขณะนี้ คิืดว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะสรุปว่า การระบายข้าวถุงของรัฐบาล มีความไม่โปร่งใสเกิดขึ้นอย่างมาก และมีนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแน่นอน"
----
อ่านประกอบ:เอ็กซ์คลูซีฟ:แผนผังความเชื่อมโยงเครือข่ายระบายข้าวถุงรัฐบาล"ยิ่งลักษณ์"