“ผู้รับเหมา” ก่อสร้างศูนย์จำหน่ายตั๋วสภาฯ ยันไร้สัมพันธ์ลึกคนสกุล “เทพกาญจนา”
กรรมการ บ.เก้าพีเคฯ ยันไร้สัมพันธ์ลึกคนสกุล “เทพกาญจนา” เข้ารับงาน ก่อสร้างศูนย์จำหน่ายตั๋วเดินทางสภาผู้แทนฯ 2.6 ล้าน -ระบุไม่เคยทำธุรกิจด้วย แค่คนชื่อ-นามสกุลเหมือน แต่ยอมรับจดทะเบียนตั้งบริษัทเข้ารับงานโดยวิธีพิเศษแค่ 15 วันจริง
กรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำสัญญาว่าจ้าง บริษัท เก้า พีเค กรุ๊ป จำกัด รับเหมาโครงการก่อสร้างศูนย์บริการจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน รถไฟ และรถ บขส. วงเงิน 2,649,615 บาท เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2556 ขณะที่บริษัทเอกชนแห่งนี้ เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2556 หรือคิดเป็นระยะเวลาก่อนทำสัญญา 15 วัน
ขณะที่ นายพงษ์ศักดิ์ สระแก้ว หนึ่งในกรรมการบริษัท เก้าพีเคฯ ยังปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้น บริษัท มหาชัยพลาซ่า ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ซึ่งบริษัทดังกล่าวมี นายชัยพจน์ เทพกาญจนา(นามสกุลเดียวกับนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี) เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นด้วยนั้น
(อ่านประกอบ : พบบริษัทเหมาสร้างศูนย์ขายตั๋วเครื่องบิน สภาฯ เพิ่งก่อตั้งก่อนเซ็นสัญญา 15 วัน)
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 นายพงษ์ศักดิ์ สระแก้ว กรรมการบริษัท เก้า พีเคกรุ๊ป จำกัด ให้สัมภาษณ์ยืนยัน สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า บริษัท เก้าพีเคกรุ๊ป จำกัด ได้รับว่าจ้างงานก่อสร้างโครงการดังกล่าว จากสภาผู้แทนราษฎรจริง โดยเข้าร่วมประมูลงานวิธีพิเศษ
“โครงการก่อสร้างนี้เป็นงานแรกที่ผมเข้าไปรับงานจากสภาฯ และยืนยันว่าไม่ได้มีเส้นสายทางการเมืองหนุนหลังถึงทำให้ได้รับงานนี้ เราเข้าไปร่วมการประมูลงานตามขั้นตอนปกติ ”
เมื่อถามว่า ทำไมบริษัทที่เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งแค่ 15 วัน ถึงได้รับงาน นายพงษ์ศักดิ์ ชี้แจงว่า “ผมเป็นผู้รับเหมาคนหนึ่ง เคยได้รับงานว่าจ้างจากเอกชน และหน่วยงานราชการมาหลายโครงการ เมื่อได้รับหนังสือเชิญชวนเข้ามา เลยตัดสินใจไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเพื่อเข้าร่วมงานนี้โดยตรง"
"ตอนนี้ผมก็ไม่คิดว่าจะได้งานหรอก เขาเชิญมาเราก็ไปร่วม และก็อ้างอิงผลงานเดิมที่เคยทำไปเสนอ เมื่อถึงเวลาตัดสิน ก็ได้รับแจ้งว่าได้รับงานนี้ เราก็เข้าไปทำงาน”
เมื่อถามว่า ทำไมถึงได้รับหนังสือเชิญให้เข้าร่วมประมูลงานโึครงการ นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า “ผมก็ไม่ทราบว่าทางหน่วยงานเขาเอาข้อมูลผมมาจากไหน ถึงได้ทำหนังสือเชิญมาให้เข้าร่วม ซึ่งหลังจากพิจารณาเนื้องานแล้ว ก็เห็นว่าเรามีศักยภาพทำได้ ตอนแรกก็นั่งคิดอยู่ว่าจะเข้าไปยื่นเสนองานในนามบุคคลหรือนิติบุคคลดี แต่หลังจากที่ตัดสินได้ว่า ทำในนามนิติบุคคลน่าจะดีกว่า เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่องาน ผมจึงไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทขึ้นมา และก็เข้าไปยื่นประมูลงานตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ เรื่องก็มีเท่านี้”
นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีที่มีการเชื่อมโยงข้อมูลว่าตนมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ คนนามสกุล เทพกาญจนา นั้น ยอมรับว่าตอนแรกที่เห็นข่าวก็ตกใจเหมือนกัน เพราะโดยส่วนตัวไม่เคยไปทำธุรกิจอะไรกับคนนามสกุลเดียวกับนักการเมืองเลย
“ จากการตรวจสอบข้อมูลของผม พบว่า มีคนชื่อ และนามสกุลเดียวกับผม ไปนั่งเป็นกรรมการในบริษัท มหาชัยพลาซ่า ดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ที่มีคนชื่อว่า นายชัยพจน์ เทพกาญจนา อยู่จริง แต่คนๆนั้น ไม่ใช่ผม เขาอายุประมาณ 50 ปี รุ่นแม่ผมแล้ว เป็นคนละคนกันกับผม ซึ่งผมก็ยังงงอยู่ว่า ทำไมถึงมีชื่อและนามสกุลเหมือนกันได้ และยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี”
เมื่อถามว่า ยืนยันว่า การเข้ามารับงานก่อสร้างจากสภาฯ ครั้งนี้ ไม่มีเส้นสายทางการเมือง ช่วยเหลือ นายพงศ์ศักดิ์ กล่าวว่า “ผมไม่มีเส้นสายอะไรเลย ไม่เคยรู้จักนักการเมืองคนไหน เข้ามาทำงานตามขั้นตอนปกติ ถ้ารู้จักใครจริงหรือมีเส้นสายใหญ่โต ชีวิตรับเหมาที่ทำอยู่ก็คงดีกว่านี้ไปแล้ว"