เจาะพิรุธคดีข้าวจีทูจีฉบับอัยการ!รัฐวิสาหกิจจีนไม่ได้เงิน-เช็คหมื่นล.จากก๊วน‘เสี่ยเปี๋ยง’

เขียนวันที่

วันอังคาร ที่ 22 สิงหาคม 2560 เวลา 20:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

การทำผิดของเอกชน | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน

Tags

คดีระบายข้าวจีทูจี | อัยการสูงสุด | ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง | ป.ป.ช.

“…หากกรมการค้าต่างประเทศที่ต้องกระทำการในนามของประเทศชาติได้เจรจาตกลงขายข้าวในนามของชาติมูลค่ามหาศาลให้แก่บริษัทค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา รัฐวิสาหกิจระดับมณฑลของประเทศจีน ซึ่งเสมอด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลแล้ว ประชาชนและลูกหลานที่ได้รู้ข้อเท็จจริงนี้จะไม่อาจให้อภัยได้เลย ชื่อเสียงของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกจารึก และสาปแช่งตลอดไป แต่หากข้าราชการคนใดได้ดำเนินการทักท้วงจนถึงที่สุดแล้ว ก็ย่อมจะพ้นมลทินความรับผิด และต้องถือเป็นภาระความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจหน้าที่ในระดับสูงขึ้นไปที่จะต้องรับผิดชอบในการพิจารณาดำเนินการ…”

PIC poom 22 8 60 7733

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานแล้วว่า คดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ที่อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ อดีตข้าราชการระดับสูงในกระทรวงพาณิชย์ กลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ ‘เสี่ยเปี๋ยง’ อดีตพ่อข้าวชื่อดัง รวมถึงกลุ่มเอกชนค้าข้าวอื่น ๆ รวม 28 ราย เป็นจำเลย ปัจจุบันศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค. 2560 ปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นการไต่สวนจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า แคชเชียร์เช็คที่นำมาชำระค่าข้าวนั้น มาจากกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และเอกชนค้าข้าวอื่น ๆ ในประเทศไทย ไม่ได้มาจากรัฐวิสาหกิจจีนที่ลงนามทำสัญญาซื้อขายข้าวจีทูจีแต่อย่างใดนั้น

ในคำแถลงปิดคดีฝ่ายพนักงานอัยการแบบลายลักษณ์อักษรที่ยื่นต่อองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯที่รับผิดชอบสำนวนคดีนี้ ได้หยิบยกข้อพิรุธชวนสงสัยในกระบวนการเจรจา อนุมัติราคา และทำสัญญาของนายภูมิ (จำเลยที่ 1) พ.ต.นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ (จำเลยที่ 3) นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (จำเลยที่ 4) นายฑิฆัมพร นาทวรทัต อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ (จำเลยที่ 5) และนายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง หรือทีปวัชระ อดีตเลขานุการกรมการค้าต่างประเทศ (จำเลยที่ 6) กับรัฐวิสาหกิจจีน 2 แห่ง ในการซื้อขายข้าวจีทูจีดังกล่าวด้วย

สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปให้สาธารณชนรับทราบ ดังนี้

ตามบันทึกข้อความ สำนักบริหารการค้าข้าว ลับ ด่วนที่สุด ที่ พณ 0307/141 ลงวันที่ 5 ต.ค. 2554 (2 วันก่อน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มดำเนินโครงการรับจำนำข้าว) เรื่องการเจรจาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี กับผู้แทนหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากประเทศจีน ถึง รมว.พาณิชย์ (นายภูมิ) ประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว โดยอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ (นายมนัส) เสนอข้อมูลเกี่ยวกับการทำสัญญาขายข้าวแบบจีทูจี 2 ฉบับแรก (กับกวางตุ้ง) มีมูลค่าเบื้องต้นอย่างน้อย 5 หมื่นล้านบาทเศษ แต่นายมนัส นายฑิฆัมพร และนายอัครพงศ์ ผู้เสนอข้อมูล และนายภูมิ ผู้อนุมัติการทำสัญญา กลับละเลยไม่ตรวจดูคุณสมบัติสำคัญในด้านต่าง ๆ ทั้งข้อมูลการจดทะเบียนนิติบุคคล วัตถุประสงค์ และทุนจดทะเบียนของรัฐวิสาหกิจจีนผู้ซื้อให้เห็นรายละเอียดชัดเจนว่า มีความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะเป็นคู่สัญญาซื้อขายแบบจีทูจีกับประเทศไทยได้

ในที่สุดได้ปรากฏข้อเท็จจริงว่า Guangdong stationery & sporting goods imp. & exp. Corp. หรือ กวางตุ้ง นำเข้าและส่งออกสินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา ไม่มีวัตถุประสงค์ในการประกอบกิจการที่จะเกี่ยวกับสินค้าเกษตรเลย ใบสำคัญจดทะเบียนระบุแต่เพียงว่า เป็นนิติบุคคล รัฐวิสาหกิจ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน มีวัตถุประสงค์การทำธุรกิจดำเนินกิจการขายภายในประเทศสำหรับสินค้าส่งออก และการขายภายในประเทศสำหรับสินค้านำเข้า วัสดุโลหะ วัสดุก่อสร้าง การสื่อสาร การขนส่ง อุปกรณ์ (ไม่รวมรถยนต์) เฟอร์นิเจอร์ นิตติ้ง และผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ฮาร์ดแวร์ การสื่อสาร และอุปกรณ์ไฟฟ้า และแร่ (ไม่รวมทัสเตน ดีบุก และพลวง) ตามเอกสารหนังสือรับรองนิติบุคคลของกวางตุ้ง ค้าเครื่องเขียนฯ เป็นข้อความที่ชัดแจ้งอยู่แล้ว ย่อมไม่ต้องการคำอธิบาย

ตามที่นายมนัส อ้างว่า ข้อตกลงวิธีการส่งมอบหน้าคลังสินค้า แบบ Ex-Warehouse (ซื้อขายหน้าคลังสินค้า) เป็นความประสงค์ของรัฐวิสาหกิจกวางตุ้ง ก็ไม่มีหลักฐาน หรือข้อความใดในเอกสารยืนยันข้อมูลดังกล่าวว่า มีการร้องขอไว้เช่นนั้น แต่เห็นได้ชัดว่า ตัวแทนรัฐวิสาหกิจกวางตุ้ง เป็นเพียงหุ่นเชิดมาทำสัญญา โดยข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานในคดีนี้ปรากฏชัดว่า รัฐวิสาหกิจกวางตุ้ง ไม่เคยชำระค่าซื้อข้าว และรับมอบข้าวใด ๆ ตามสัญญาดังกล่าวเลย

ทั้งยังปรากฏหลักฐานแคชเชียร์เช็คที่นำไปเบิกข้าวในคดีนี้ชัดต่อไปอีกว่า ผู้ชำระราคาค่าซื้อข้าวมาโดยตลอด คือ กลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศ ทั้งที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กันไว้เป็นพยานในคดีนี้ และกลุ่มผู้ประกอบการค้าข้าวรายอื่นที่ไม่ได้รับการกันไว้เป็นพยาน (อ่านประกอบ : เอ็กซ์คลูซีฟ!เปิดครบเช็คเอกชน หมื่นล.ซื้อข้าวตรงกรมการค้าฯหลักฐานอัยการชี้ไม่ทำจีทูจีจีน)

กรณีนี้จึงเห็นได้ชัดว่า ข้อตกลงเงื่อนไขต่าง ๆ ว่ามีการร่วมกันเปิดช่องให้ทุจริตได้ จะต้องเป็นฝ่ายกำหนดเอาไว้ในขณะนั้น เพื่อให้การชำระค่าซื้อข้าวและรับมอบข้าว สามารถนำไปเวียนขายในประเทศได้ โดยไม่ต้องขนส่งลงเรือ ทำให้ไม่ต้องใช้ใบตราส่ง (Bill of Lading) เป็นหลักฐานนำไปใช้เรียกเก็บเงิน ตามสัญญาตราสารเครดิต (Letter of Credit : L/C) ในวิธีการส่งมอบสินค้าถึงกาบเรือแบบ F.O.B. (Free on Broad) นั่นเอง

ข้อพิรุธในสาระสำคัญของรัฐวิสาหกิจกวางตุ้ง อันปรากฏชัดดังกล่าว และผลการตรวจสอบสถานะนิติบุคคลที่ยังไม่ได้รับในขณะการเจรจา ข้าราชการทั่วไปสามารถนำเสนอความเห็นต่อผู้บังคับบัญชาได้โดยง่าย คือการระบุให้ชัดว่า กวางตุ้ง มีชื่อที่แปลเป็นภาษาไทยว่า ‘บริษัท กวางตุ้ง นำเข้าและส่งออกสินค้าเครื่องเขียน และอุปกรณ์กีฬา’ สื่อให้เห็นว่า มีกิจการในด้านการค้าเครื่องเขียน และอุปกรณ์กีฬา ไม่ปรากฏว่าเกี่ยวข้องกับการค้าข้าว และธัญพืชใด ๆ

เมื่อกรมการค้าต่างประเทศ ยังไม่ได้รับผลการตรวจสอบวัตถุประสงค์ และรายละเอียดสถานะของรัฐวิสาหกิจกวางตุ้งแล้ว กรมการค้าต่างประเทศ ที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลไทยตามมติคณะรัฐมนตรีเป็นผู้กระทำแทนประเทศชาติ ย่อมไม่สมควรที่จะไปเจรจากับหน่วยงานท้องถิ่นของประเทศจีน ที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ในการซื้อขายข้าว และไม่ปรากฏว่า ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลกลางของประเทศจีนได้ เพราะนอกจากจะผิดประเพณีทางธุรกิจ และกรอบกฎหมายแล้ว กรมการค้าต่างประเทศจะต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีของประเทศชาติเป็นสำคัญด้วย

หากกรมการค้าต่างประเทศที่ต้องกระทำการในนามของประเทศชาติได้เจรจาตกลงขายข้าวในนามของชาติมูลค่ามหาศาลให้แก่บริษัทค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา รัฐวิสาหกิจระดับมณฑลของประเทศจีน ซึ่งเสมอด้วยองค์การบริหารส่วนตำบลแล้ว ประชาชนและลูกหลานที่ได้รู้ข้อเท็จจริงนี้จะไม่อาจให้อภัยได้เลย ชื่อเสียงของบุคคลที่เกี่ยวข้องจะต้องถูกจารึก และสาปแช่งตลอดไป แต่หากข้าราชการคนใดได้ดำเนินการทักท้วงจนถึงที่สุดแล้ว ก็ย่อมจะพ้นมลทินความรับผิด และต้องถือเป็นภาระความรับผิดชอบของผู้มีอำนาจหน้าที่ในระดับสูงขึ้นไปที่จะต้องรับผิดชอบในการพิจารณาดำเนินการ

ส่วนกรณีที่ปรากฏในการทุจริตเรื่องนี้ เห็นได้ว่า กระบวนงานทุกขั้นตอน ราบรื่น สอดประสานกันอย่างรวดเร็ว ข้อพิรุธผิดปกติชัดแจ้งใด ๆ กลับปล่อยให้ผ่านเลยไปทุกประการ ไม่มีการนำไปหารือ ปรับแก้ไขให้เหมาะสม พฤติการณ์ทั้งปวงไม่สมเหตุสมผลอันควรแก่การรับผิดชอบงานราชการในขั้นตอนสำคัญที่มีมูลค่าสูงมหาศาลแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีระบายข้าวแบบจีทูจีดังกล่าว ศาลฎีกาฯนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 25 ส.ค. 2560 ดังนั้นจำเลยทั้งหมดจึงยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

อ่านประกอบ :

พิพากษาคดีจีทูจีเก๊ 25 ส.ค.-ผู้สอบบัญชี ‘กวางตุ้ง-ไห่หนาน’ไม่รู้เซ็นในนาม รบ.จีนหรือไม่

ครบถ้วน! ไทม์ไลน์ขายข้าวจีทูจี‘มนัส’ ชง‘ภูมิ-บุญทรง’ไฟเขียวก่อนถูกเวียนขายใน ปท.

เปิดขบวนการเวียนข้าวคดีจีทูจีเก๊ในสำนวน ป.ป.ช.-‘สารวัตร’รุ่นเดียว ‘วีระวุฒิ’ร่วมเดินเรื่อง

พบ‘สารวัตร’พันคดีข้าวถุง ร่วมรับเช็ค ‘วีระวุฒิ’เวียนข้าวขายในประเทศคดีจีทูจีเก๊

บ.ค้าข้าวเข้าพบ-โทรคุย-จ่ายเงิน‘วีระวุฒิ’! ข้อมูลใหม่คดีระบายข้าวจีทูจี

เปิดพฤติการณ์เอกชน-โรงสีจ่ายเช็ค‘วีระวุฒิ’ก่อนเวียนข้าวขายใน ปท.คดีจีทูจีเก๊

นึกไม่ถึงว่าจะมีการเวียนข้าว! อดีตรองอธิบดีกรมการค้าฯแจงศาลคดีจีทูจีเก๊

ขายข้าวจีทูจีขรก.พาณิชย์รู้ดีสุด! ‘บุญทรง-ภูมิ’แจงศาล-ลั่นสอบแล้วไร้โกง

'เสี่ยเปี๋ยง'มาศาลแล้ว! เข้าไต่สวนคดีข้าวจีทูจีเก๊ หลังป่วยความดันนอน รพ.

เปิดคำสั่งศาลถอนประกัน‘เสี่ยเปี๋ยง’ เข้าเรือนจำฯ กทม.-ไฟเขียวไต่สวนคดีลับหลัง