- Home
- Investigative
- ข่าวทั่วไปศูนย์ข่าวสืบสวน
- โชว์ใบเบิกเบี้ยเลี้ยง ส.กีฬาฮอกกี้ฯ -นักกีฬาอ้างได้เงินไม่ครบยอดเกือบแสนรับจริง7หมื่น?
โชว์ใบเบิกเบี้ยเลี้ยง ส.กีฬาฮอกกี้ฯ -นักกีฬาอ้างได้เงินไม่ครบยอดเกือบแสนรับจริง7หมื่น?
"...ส่วนตัวแล้วเข้าใจว่าปัญหาอีกประการหนึ่งที่ทำให้มีการกล่าวหากันในประเด็นเรื่องการสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงในครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะเรื่องของตัวนักกีฬาเองที่เขาถูกตัดชื่อออกโดยโค้ชเพราะความสามารถไม่ถึง เขาก็เลยมาฟ้องร้องกัน เป็นคดีความไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ซึ่งเรื่องก็ยุติไปแล้ว..."
"ไม่มีปัญหาเรื่องการสวมสิทธิ์รับเงินตามที่มีการร้องเรียนกับสื่อ การดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย"
"ในกระบวนการขอเงินสนับสนุนจาก กกท. ทางสมาคมฯ จำเป็นต้องส่งรายชื่อนักกีฬาทั้งหมดที่มีไปให้กับ กกท. แต่ในเวลาต่อมา ทางสมาคมฯ ก็จะต้องคัดเลือกนักกีฬาที่ดีที่สุด 20 คน เพื่อเอาไปแข่งขัน แต่ถ้าหากทางสมาคมฯไม่ได้ส่งชื่อให้ กับ กกท.ไปตั้งแต่ต้น ก็หมายความว่าคนที่ไม่ถูกส่งชื่อไปจะหมดสิทธิ์การแข่งขัน หลังจากนั้นในช่วง 2 เดือนก่อนการไปแข่งขัน กกท. ก็จะต้องเอางบประมาณในการฝึกซ้อมมาดูว่าต้องทำอย่างไรบ้าง"
“สมมติว่ามีชื่ออยู่ 40 คน ส่งไปให้ กกท. เราก็ต้องตัดออกไปให้เหลือ 20 คน ซึ่งทุกสมาคมกีฬาทำแบบนี้กันหมด”
เมื่อถามว่า ถ้าหากมีการเสนอชื่อเบิกไปยัง กกท. แล้วปรากฏว่านักกีฬารายนั้นไม่ได้ไป แล้วเงินจะไปไหน สตาฟโค้ชรายนี้ กล่าวว่า "ก็ต้องมีการปรับแผน เงินก็จะไปเข้าค่าลานซ้อม มีการถัวเฉลี่ยมาเพื่อบริหารสมาคม หรือมาจัดแข่งลีกต่างๆ ยืนยันว่าไม่มีการนำไปเข้ากระเป๋าใครอย่างแน่นอน"
คือ คำชี้แจงจาก สตาฟโค้ชรายหนึ่ง ใน สมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย หลังสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นายณัฏฐ์ ธีรณัฐสุภานนท์ เลขาธิการสมาคมธรรมาภิบาลแห่งชาติ ว่า มีการร้องเรียนจากนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ใน 2 ประเด็น คือ 1. มีการสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาเกิดขึ้น โดยในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย และในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ฤดูหนาว ที่เมืองซัปโปโระ ประเทศญี่ปุ่น ที่ผ่านมา มีนักกีฬาบางส่วนไม่ได้ไปร่วมการแข่งขัน แต่ปรากฏข้อมูลว่าในการเบิกงบประมาณของสมาคมฯ จากการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายนักกีฬา ค่าเบี้ยเลี้ยงนักกีฬา มีการนำชื่อนักกีฬาที่ไม่ได้ไปร่วมการแข่งขัน เข้าไปอยู่ในใบเบิกด้วย และในท้ายที่สุดนักกีฬาที่ไม่ได้ไปร่วมการแข่งขันก็ไม่ได้รับเงินแต่อย่างใด
2. มีประเด็นเรื่องของการหักหัวคิวการจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงให้กับนักกีฬา โดยสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง ไปเบิกเงินจาก กกท.ให้เงินเบี้ยเลี้ยงกับนักกีฬาไม่ตรงตามยอดที่เบิกจาก กกท.
สตาฟโค้ชรายนี้ รายนี้ ยังระบุว่า ส่วนตัวแล้วเข้าใจว่าปัญหาอีกประการหนึ่งที่ทำให้มีการกล่าวหากันในประเด็นเรื่องการสวมสิทธิ์รับเบี้ยเลี้ยงในครั้งนี้ น่าจะเป็นเพราะเรื่องของตัวนักกีฬาเองที่เขาถูกตัดชื่อออกโดยโค้ชเพราะความสามารถไม่ถึง เขาก็เลยมาฟ้องร้องกัน เป็นคดีความไปเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ซึ่งเรื่องก็ยุติไปแล้ว" (อ่านประกอบ : เปิดปม! สวมสิทธิ์หักหัวคิวเบี้ยเลี้ยงส.กีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง-โค้ชแจงไม่จริงแค่ปรับแผนใช้งบ)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ได้รับการเปิดเผยข้อมูลจาก นักกีฬาฮอกกีน้ำแข็งรายหนึ่ง เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเรื่องการเซ็นชื่อรับเงินเบี้ยเลี้ยงดังกล่าว ได้รับการยืนยันว่า กระบวนการจ่ายเงินของสมาคมฯ จะเรียกให้นักกีฬาเข้าไปเอาเงินสดจำนวนหนึ่งในห้องของทางสมาคมในช่วงก่อนจะไปร่วมมหกรรมแข่งกีฬา พร้อมกับให้เซ็นเอกสารซึ่งเป็นคำยืนยันว่าได้รับเงินแล้ว โดยเป็นเอกสารชุดเดียวไม่มีตัวสำเนาให้ทางนักกีฬาเก็บเงินไว้แต่อย่างใด
นักกีฬารายนี้ ยังระบุด้วยว่า สาเหตุที่มาตั้งข้อสังเกตเรื่องการเบิกจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยง เป็นเพราะว่า มีเพื่อนนักกีฬาที่ออกไปทำงานในสมาคมการกีฬาอื่นๆ เขามาเห็นข้อมูลว่ายอดเงินเบิกที่สมาคมฮอกกี้น้ำแข็งเบิกกับ กกท.นั้น ไม่ตรงกัน กับที่มาการจ่ายเงินจริง"
“ยอดเงินของผม ถ้าดูตามเอกสารควรจะได้รับเงินจำนวน 90,000 บาท จากค่าฝึกซ้อม แต่ปรากฎว่าพอเขาเรียกเข้าไปในห้องเขาจ่ายเงินจริงแค่70,000 บาทเท่านั้น” นักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งกล่าวอ้าง
นักกีฬารายนี้ ยังได้นำหลักฐานใบเบิกเงินค่าเบี้ยเลี้ยงบางส่วนมาให้สำนักข่าวอิศราดู พร้อมระบุขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย โดยหลักฐานบางส่วนเป็นใบเบิกเบี้ยเลี้ยงกับ กกท. พร้อมรายชื่อนักกีฬา และจำนวนเงินที่ทางสมาคมฯได้รับจาก กกท. ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่า มีนักกีฬาบางราย ไม่ได้ร่วมเดินทางไปแข่งกีฬาด้วย อาทิ นาย ณ (ชื่อย่อ )มีชื่อเบิกทั้งการแข่งขันเอเชียนเกมส์ และการแข่งขันซีเกมส์ แต่ไม่ได้ไปร่วมการแข่งขันทั้ง 2 รายการและไม่ได้เงิน นาย พ. มีชื่อเบิกว่าไปร่วมการแข่งขันเอเชียนเกมส์ แต่ได้เงินไม่ครบ
ส่วนข้อมูลการฟ้องร้องดำเนินคดีกันในสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ในวันที่ 24 ธ.ค.ที่จะถึงนี้ ศาลอาญาเกี่ยวเนื่องคดีทางแพ่ง มีนัดสืบพยาน ไต่สวนมูลฟ้อง ในคดีผู้บริหารสมาคมฯ ถูกฟ้องร้องในข้อหาปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอม ยักยอกทรัพย์ ด้วย (ดูเอกสารประกอบ)
เบื้องต้น สำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยังสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งฯ เพื่อขอให้ผู้บริหารฯ ซึ่งปัจจุบันยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีฟ้องร้องดังกล่าว
โดยเจ้าหน้าที่สมาคมฯ รายหนึ่ง ได้ให้สำนักข่าวทิ้งเรื่องเอาไว้ พร้อมระบุว่า ทางสมาคมฯจะติดต่อกลับมายังสำนักข่าวอิศรา เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้ง
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
เปิดปม! สวมสิทธิ์หักหัวคิวเบี้ยเลี้ยงส.กีฬาฮอกกี้น้ำแข็ง-โค้ชแจงไม่จริงแค่ปรับแผนใช้งบ