INFO: 13 คดียักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯในมือดีเอสไอ-เบ็ดเสร็จ 2 หมื่นล.

เขียนวันที่

วันเสาร์ ที่ 18 มิถุนายน 2559 เวลา 20:00 น.

เขียนโดย

isranews

หมวดหมู่

ข่าวบุคคลดัง | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา | ข่าวเด่นสืบสวน | Infographic

Tags

คดียักยอกทรัพย์สินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น | คดีฟอกเงิน | ดีเอสไอ

INFOGRAPHIC : ดูกันชัด ๆ 13 คดียักยอกทรัพย์-ฟอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นในมือดีเอสไอ ยอดรวมความเสียหายเบ็ดเสร็จ 2 หมื่นล้านบาท สอบมาเกือบ 4 ปี จบแค่คดีเดียว ได้เงินคืนเมื่อไหร่ ?

PIC infoklongchun 18 6 59 1

สาธารณชนอาจทราบไปแล้วว่า คดียักยอกทรัพย์สินสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น มีบุคคลเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนักธุรกิจ พระสงฆ์ หรือแม้แต่อดีตนักการเมือง หน่วยงานของรัฐ รวมถึงบรรดาสหกรณ์ต่าง ๆ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ดำเนินการสอบสวนมาตั้งแต่ช่วงปี 2556 และมีการขยายผลไปสอบในประเด็นการฟอกเงิน-รับของโจร เพิ่มเติมด้วย

(อ่านประกอบ : เปิด 9 คดียักยอก-ฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่นฯ-เครือข่ายธรรมกายหมื่นล.ก่อนจับ'ธัมมชโย', 8 คดีฟอกเงิน 1.4 หมื่นล.! พันยักยอกสหกรณ์ฯในมือดีเอสไอก่อนบุกจับ‘ธัมมชโย’)

เพื่ออธิบายภาพให้ชัดเจนขึ้น สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สรุปคดีต่าง ๆ ทั้งหมด 13 คดี (เท่าที่ตรวจสอบพบ) ให้สังคมเข้าใจง่ายขึ้น ดังนี้

คดีเกี่ยวกับการยักยอกทรัพย์สิน-ฉ้อโกงประชาชน-เจ้าหน้าที่รัฐละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวม 4 คดี ได้แก่

หนึ่ง กรณีนายพิษณุ ชีวะสิทธิ์ กับพวก ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย น.ส.ศรัณยา มานหมัด นายลภัส โสมคำ และนายกฤษฎา บุญมาก (ทั้งหมดเป็นอดีตกรรมการ และอดีตสมาชิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น) ข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์สิน ทำให้เกิดความเสียหาย 13,334,158,975 บาท (ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท)

ปัจจุบันดีเอสไอได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นควรสั่งฟ้องให้กับอัยการไปแล้ว โดยอัยการมีความเห็นควรสั่งฟ้องบุคคล 4 ราย ได้แก่ นายศุภชัย น.ส.ศรัณยา นายลภัส และนายกฤษฎา และไม่สั่งฟ้องนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ ประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา และนายจิรเดช วรเพียลกุล อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง (สมัยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง)
พร้อมมีความเห็นควรดำเนินคดีฟอกเงินกับนายศุภชัย นายวัฒน์ชานนท์ และนายจิรเดช แทน (ปัจจุบันดีเอสไอสอบแล้ว)

สอง กรณีที่นายสมาน ครองเมืองกับพวก รวม 2,205 คน (สมาชิกสหกรณ์ฯ) และนายไพโรจน์ จำลองราษฎร์ ผู้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์ฯ (ชุดเก่า) ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย กับพวก ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ทำให้เกิดความเสียหาย 6,866,060,587 บาท (ประมาณ 6.8 พันล้านบาท)

ปัจจุบันดีเอสไอได้สรุปสำนวน และมีความเห็นสั่งฟ้องนายศุภชัย กับพวกรวม 12 คน ในข้อหาดังกล่าว และได้ส่งสำนวนให้พนักงานอัยการแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2558 นอกจากนี้ในระหว่างการสอบสวนได้อายัดที่ดินจำนวน 9 รายการไว้ด้วย

สาม กรณี น.ส.สุดาภรณ์ กองธรรม ผู้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์ฯ (ชุดชั่วคราว) ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับนายศุภชัย ในข้อหายักยอกทรัพย์สิน ทำให้เกิดความเสียหาย 27,642,000 บาท (ประมาณ 27 ล้านบาท)

ปัจจุบันคดีนี้ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาให้จำคุกนายศุภชัยแล้ว โดยมีความผิดหลายกรรมต่างกันรวม 8 กระทง จำคุกกระทงละระหว่าง 3-5 ปี รวมจำคุก 32 ปี อย่างไรก็ดีนายศุภชัยได้ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา (แต่ในชั้นการสอบสวนของดีเอสไอนายศุภชัยให้การปฏิเสธ) ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 16 ปี ไม่รอลงอาญา

สี่ กรณีนายอิสระ เอี่ยมดิลกวงศ์ ผู้รับมอบอำนาจจากสหกรณ์ฯ (ชุดปัจจุบัน) ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกรมส่งเสริมสหกรณ์และกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทำให้นายศุภชัย สามารถยักยอกทรัพย์สินได้

ปัจจุบันดีเอสไอพบว่า นายทะเบียนสหกรณ์เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และเป็นผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง มีพฤติการณ์ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จึงส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วตั้งแต่ปลายเดือน พ.ย. 2558

ส่วนคดีฟอกเงินมีทั้งหมด 9 คดี ได้แก่

หนึ่ง ดีเอสไอพบว่า มีการโอนเงินที่ยักยอกมาจากสหกรณ์ฯ โดยสั่งจ่ายเช็คให้แก่นายสถาพร วัฒนาศิรินุกูล (อดีตพระลูกวัดพระธรรมกาย) ต่อมานายสถาพร ได้นำเงินดังกล่าวไปซื้อทรัพย์สินซึ่งเป็นที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง และรถยนต์ รวมถึงปืน ในนามของตนเอง และในนามของบริษัท เอสดับบลิวโฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทในเครือ ทำให้เกิดความเสียหาย 250 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานร่วมกันฟอกเงิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างเรียกนายสถาพรมาแจ้งข้อกล่าวหา

จากการตรวจสอบเพิ่มเติม ปรากฏรายชื่อเอกชนที่เกี่ยวข้องรวม 5 ราย ได้แก่ 1.บริษัท เอส.ดับบลิว โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 2.บริษัท เอส.ดับบลิว.กมลา บีช กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 3.บริษัท เอส.ดับบลิว.ภูเก็ต กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 4.บริษัท อิมพีเรียล รีซอร์ส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด 5.บริษัท ซันไชน่า รีซอร์ส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด

(อ่านประกอบ : หลักฐานมัด"ศุภชัย"ขนเงินสด1.1 พันล.จ่ายบ.อดีตพระธรรมกาย ก่อนโดนอายัด, แกะรอย"อดีตพระธรรมกาย"เพิ่งสึกใหม่!ไฉนมีเงินสด3.8พันล.ตั้งบ.อสังหาฯ, 1.64 หมื่นล้าน! ขุมธุรกิจ "อดีตพระธรรมกาย" ขนเงินลงทุน7บริษัท, ข้อมูลลับปปง.! เส้นทางเงิน 100ล. อดีตพระธรรมกาย โผล่ลาว ตามคืนไม่ได้แล้ว?, ข้อมูลใหม่ อดีตพระธรรมกาย ซุกตัวแฟลตทหาร โผล่ตั้งบ.ในลาว คนแห่เรียก"บอส"))

สอง ดีเอสไอพบว่า นายศุภชัย ได้นำเงินจำนวนหนึ่งซึ่งเชื่อได้ว่าเป็นเงินที่ได้จากการยักยอกทรัพย์สินสหกรณ์ฯ ไปซื้อที่ดินใน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ในนามของตนเอง และได้ขายที่ดินจำนวน 8 แปลง ให้กับ น.ส.อลิสา อัศวโภคิน และอีก 1 แปลง ให้กับนางวรรณา จิรกิตติ ทำให้เกิดความเสียหาย 300 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างสรุปสำนวนการสอบสวน

(อ่านประกอบ : เปิดหลักฐาน"ศุภชัย"ชิงขายที่ให้ลูกสาว"อนันต์ อัศวโภคิน"298 ล.หลังเจอคดียักยอก, ซ้ำรอย"อัศวโภคิน"ศุภชัยชิงขายที่ให้น้องสาว"เสี่ยบุญชัย" 25ล.หลังเจอคดียักยอก )

สาม ดีเอสไอพบว่า นายศุภชัย นำเงินจำนวน 321.4 ล้านบาท โดยสั่งจ่ายเป็นเช็ค 10 ฉบับ ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาจากการยักยอกทรัพย์สินสหกรณ์ฯ ไปซื้อหุ้นบริษัท เอ็มโฮมเอสพีวี 2 จำกัด ทำให้เกิดความเสียหาย 320 ล้านบาท ซึ่งเข้าข่ายเป็นความผิดฐานฟอกเงิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน โดยกรณีนี้ดีเอสไอได้อายัดที่ดินจำนวน 10 รายการด้วย

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบเอกชนที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 2 ราย ได้แก่ บริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จำกัด และบริษัท เอ็ม-โฮม เอสพีวี 3 จำกัด

(อ่านประกอบ :บ.เอ็มโฮมฯ 2 เพิ่งย้ายมาแถววัดธรรมกาย! ช่วง‘ศุภชัย’หอบเงิน 320 ล.ถือหุ้นใหญ่ปี’55, เปิดตัว!บ.เอ็มโฮมฯ2 ‘ศุภชัย’หอบเงิน 320 ล.ซื้อหุ้น-พันฟอกเงินสหกรณ์คลองจั่น)

สี่ ดีเอสไอพบว่า มีเครือข่ายรัฐ-เอกชนรวม 19 แห่ง ได้รับเช็คจากนายศุภชัย จำนวน 78 ฉบับ โดยทั้ง 19 แห่งดังกล่าวได้รับโดยไม่มีมูลหนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเป็นผู้รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน อาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฟอกเงินได้ รวมความเสียหาย 2,296,675,718 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับรายชื่อรัฐ-เอกชนทั้ง 19 แห่ง ได้แก่ 1.บริษัท รัฐประชา จำกัด 2.บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด 3.บริษัท ยูเนี่ยน-อินเตอร์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) 4.บริษัท อนันตศิลาบารมี จำกัด 5.บริษัท พนมไพรโพนทรายธุรกิจ จำกัด 6.บริษัท สหประกันชีวิต จำกัด 7.บริษัท แสนสิริสุข จำกัด 8.บริษัท เอ็ม โฮม เอสพีวี จำกัด 9.บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย 10.บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด 11.บริษัท บริหารสินทรัพย์ทวี จำกัด 12.บริษัท บริหารสินทรัพย์เพทาย จำกัด 13.กองทุนเพื่อความมั่นคง 14.โรงเรียนชุมชนบ้านคลองเตียน (เงินอุดหนุนโรงเรียน) 15.บริษัท บริหารสินทรัพย์ สุขุมวิท จำกัด 16.การเคหะแห่งชาติ 17.มหาวิทยาลัยรามคำแหง 18.บริษัท สรีธร จำกัด 19.บริษัท อินเทรนด์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด

ห้า ดีเอสไอพบว่า มีกลุ่มบุคคลรวม 93 ราย ได้รับเช็คจากนายศุภชัย จำนวน 211 ฉบับ โดยทั้ง 93 รายดังกล่าว เป็นบุคคลหลายกลุ่ม ได้รับโดยไม่มีมูลหนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเป็นผู้รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน อาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฟอกเงินได้ รวมความเสียหาย 1,754,500,943 บาท ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับกรณีที่ หก และเจ็ด เป็นความเกี่ยวเนื่องกัน และมีมูลค่าความเสียหายรวมกันคือ 2,993,141,973 บาท (ประมาณ 2.9 พันล้านบาท) แบ่งผู้กล่าวหาเป็น 2 ชุด คือ ชุดแรก นายศุภชัย น.ส.ศรัณยา นางทองพิน กันล้อม อดีตเหรัญญิกสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย นางศศิธร โชคประสิทธิ์ ปัจจุบันได้ส่งสำนวนพร้อมความเห็นให้อัยการสั่งฟ้อง ซึ่งพนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 อยู่ระหว่างพิจารณาในวันที่ 13 ก.ค. 2559 นอกจากนี้ยังส่งเรื่องให้กับ ปปง. ดำเนินการด้วย

ชุดสอง คือ วัดพระธรรมกาย มูลนิธิรัตนคีรี วัดบ้านขุน วัดพระพุทธบาท วัดแม่สะนาม วัดสามพระยา สมาคมพุทธศาสตร์ล้านนา สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี

โดยทั้งหมดดีเอสไอพบว่า มีเส้นทางการเงินไปยังกลุ่มบุคคลข้างต้น มีปลายทางถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนหลายกลุ่ม ซึ่งกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเงินปลายทางนั้น เป็นผู้มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการเป็นผู้โอนหรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สิน อาจเข้าข่ายกระทำความผิดฐานฟอกเงินได้

(อ่านประกอบ : ยันแจ้งข้อหา‘ธัมมชโย’นอกสถานที่ได้! ดีเอสไอชงอัยการฟ้อง‘ศุภชัย-พวก’คดีฟอกเงิน)

แปด ดีเอสไอตรวจสอบตามคำแนะนำของพนักงานอัยการ พบว่า นายวัฒน์ชานนท์ และนายจิรเดช มีพฤติการณ์เข้าข่ายฟอกเงิน เนื่องจากได้รับเช็คของนายศุภชัย โดยดีเอสไอได้รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ เมื่อช่วงเดือน มี.ค. 2559 ที่ผ่านมา จากการสอบสวนเบื้องต้นพบมูลค่าความเสียหายประมาณ 6,866,060,587 บาท (ประมาณ 6.8 พันล้านบาท) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง

(อ่านประกอบ : โชว์หนังสืออัยการชงสอบเพิ่ม! เบื้องหลัง‘ศุภชัย-วัฒน์ชานนท์-อดีตผช.รมต.’ โดนคดีฟอกเงิน, ‘วัฒน์ชานนท์-อดีต ผช.รมต.คลัง’โดนแล้ว! ดีเอสไอสอบคดีฟอกเงิน6.8พันล.)

เก้า กรณีนายศุภชัย ขายที่ดิน 1,838 ไร่ วงเงินกว่า 477 ล้านบาท ให้กับบริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด อาจเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงินหรือไม่ เพราะจากการตรวจสอบของสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ที่นำเสนอมาอย่างต่อเนื่อง พบข้อพิรุธ และข้อขัดแย้งในคำสั่งต่าง ๆ มากมาย และมีเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอ และจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

จากการตรวจสอบล่าสุดของดีเอสไอ พบว่า มีเส้นทางการเงินไปสิ้นสุดอยู่กับกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนหลายกลุ่ม เป็นกลุ่มนายหน้าที่ดิน จำนวน 12 ราย (ปรากฏชื่อบริษัท อินเตอร์อลายแอนซ์กฎหมายฯ) รวมถึงบริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด พบความเสียหาย 1,634,702,875 บาท (ประมาณ 1.6 พันล้านบาท) ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวน

(อ่านประกอบ : บ.นายหน้า'ณฐพร'โดนด้วย! ดีเอสไอสอบฟอกเงิน 1.6 พันล.ปมขายที่‘ศุภชัย’ ,ขมวดเงื่อนปมซับซ้อน! การขายที่ดิน‘ศุภชัย’ 477 ล.ชดใช้หนี้คดีคลองจั่น)

อย่างไรก็ดียังคงมีเส้นทางเงินที่ค่อนข้างซับซ้อน และมีมูลค่าความเสียหายตรงกันอยู่ เช่น กรณีที่มีผู้ร้องทุกข์ให้สอบนายศุภชัย กับพวก คดีฉ้อโกงประชาชน วงเงิน 6.8 พันล้านบาท ต่อมาดีเอสไอได้ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า มีการนำเงินส่วนนี้โอนกระจายไปให้กับนายวัฒน์ชานนท์ นายจิรเดช และบุคคลอื่น ๆ เช่นกัน หรือกรณีเส้นทางเงินที่กระจายไปยังเครือข่ายวัดพระธรรมกายอย่างที่อธิบายแล้วข้างต้น

รวมมูลค่าความเสียหายทั้งหมดทั้งคดียักยอกทรัพย์และคดีฟอกเงินประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ใน 13 คดีดังกล่าว มีบทสรุปแล้วแค่ 1 คดี คือกรณีนายศุภชัยยักยอกทรัพย์สินสหกรณ์ฯ 27 ล้านบาท ที่ศาลอาญาพิพากษาจำคุก 16 ปี

ส่วนคดีอื่น ๆ จะเสร็จเมื่อไหร่ แล้วจะได้เงินคืนครบหรือไม่ ต้องติดตามกันต่อไปอย่างใกล้ชิด !

ดูอินโฟกราฟฟิคประกอบ

PIC อนโฟภาพรวมคดคลองจน 1