เปิดตัว 'สจ.' ปุ๋ยบุรีรัมย์328 ล.! สตง.ชี้ส่วนต่าง240 บ./กระสอบ-เจ้าตัวปัดไม่รู้เห็น
โชว์หนังสือสตง. 2 ฉบับ! ขมวดปมโครงการแจกปุ๋ย อบจ.บุรีรัมย์ฉาว 328 ล้าน ชนวนเหตุ เมียเนวิน-ผู้ว่าฯ-พวก โดนยก จว.16 ราย ฟันส่วนต่างกระสอบละ 240 บาท ระบุ สจ.โกวิทย์ ตัวละครเอก ขณะที่ เจ้าตัวแจงไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
การดำเนินงานโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ ประจำปี 2555-2557 รวมวงเงินทั้งสิ้น 328 ล้านบาท ซึ่งมีลักษณะการตั้งงบประมาณอุดหนุนเงินให้กลุ่มหรือชุมชนที่เสนอโครงการขอรับเงินอุดหนุนเพื่อจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ เมื่อปรากฎข้อมูลว่าถูกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจสอบพบปัญหาความไม่โปร่งใสในการดำเนินงานและ ได้ทำหนังสือจำนวน 2 ฉบับ แจ้งให้หน่วยงานต้นสังกัด ดำเนินการกับผู้เกี่ยวข้อง 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโครงการของ อบจ.บุรีรัมย์ และ กลุ่มผู้บริหารระดับจังหวัด รวมจำนวนทั้งสิ้น 16 ราย ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำข้อมูลมาเสนอไปแล้ว
(อ่านประกอบ : ปุ๋ยอบจ.บุรีรัมย์ฉาวลามทั้งจังหวัด! สตง.จี้ ปลัดมท. ฟัน 'ผู้ว่าฯ-2รองฯ' ด้วย, ปลัดอบจ.บุรีรัมย์ แจ้งความ'เมียเนวิน' หลังถูกสตง.ชี้มูลคดีแจกปุ๋ย 328 ล้าน)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบข้อมูลในหนังสือ สตง.ทั้ง 2 ฉบับ สามารถสรุปประเด็นสำคัญของคดีนี้ ได้ออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ
1.การตั้งงบประมาณดำเนินงานโครงการโดยมิชอบ และมีการเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการโดยความร่วมมือระหว่าง นักการเมืองท้องถิ่น และข้าราชการใน อบจ.
2.การอนุมัติเบิกจ่ายเงินอุดหนุนของ อบจ.บุรีรัมย์ ไม่ถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการที่กำหนด ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
มีรายละเอียดและตัวละครที่เกี่ยวข้อง ดังต่อไปนี้
@ หนังสือฉบับแรก
สตง.แจ้งถึง อบจ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ดำเนินคดีอาญาและวินัย กับบุคคลต่อไปนี้
- ดำเนินการคดีอาญา
1.นางกรุณา ชิดชอบ นายก อบจ.บุรีรัมย์ 2. นายไตรเทพ งามกมล รองนายก อบจ.บุรีรัมย์ และ 3.นายโกวิทย์ นาวีสัมพันธ์ ส.อบจ.
- ดำเนินการทางวินัย
1.นายเศรษฐพร เบญจศรีรักษ์ อบจ.บุรีรัมย์ 2.นายประวิตร อุไรกุล รองปลัด อบจ.บุรีรัมย์ 3. นายอดุลย์ กองชะนะ ผอ.ส่งเสริมคุณภาพชีวิต 4. นายวีรชน เสงี่ยมศักดิ์ นักพัฒนาชุมชน 5. นายเทอดพงษ์ ปัญญากมลนักพัฒนาชุมชน 5 และ 6. นางจิมรี่ ชิดนอกเจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 5
สำหรับสาระสำคัญในหนังสือฉบับนี้ ระบุว่า ในช่วงปี 2555-2557 อบจ.บุรีรัมย์ ตั้งงบประมาณอุดหนุนเงินให้กลุ่มหรือชุมชนที่เสนอโครงการขอรับเงินอุดหนุนเพื่อจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ในโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ รวมเป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 328,120,000 บาท
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่า อบจ.บุรีรัมย์ ตั้งงบประมาณอุดหนุนเงินให้กลุ่มเกษตรกรบางกลุ่มไม่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งกลุ่ม หรือขอสนับสนุนงบประมาณในโครงการและกิจกรรมที่กลุ่มได้ดำเนินการอยู่แล้ว ซึ่งไม่เป็นการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มหรือชุมชนอันนำไปสู่การพัฒนาในโอกาสต่อไป ตามหลักเกณฑ์หนังสือกระทรวงมหาดไทย จำนวน 51 กลุ่ม ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการเป็นเงินจำนวน 24,301,000 บาท
ขณะที่ กลุ่มเกษตรกรที่ขอรับเงินอุดหนุนเพื่อจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ในโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ปีงบประมาณ 2555-2557 พบว่า กลุ่มเกษตรกรต่าง ๆ ไม่ได้ดำเนินการจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์เอง แต่ นายโกวิทย์ นาวีสัมพันธ์ สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ได้เข้ามามีส่วนได้เสียในโครงการดังกล่าว ดำเนินการจัดหาปุ๋ยอินทรีย์และเบิกถอนเงินแทนกลุ่มเกษตรกร และได้รับผลประโยชน์จากส่วนต่างของราคาปุ๋ยอินทรีย์ที่แพงกว่าท้องตลาด เป็นเงิน 240 บาท/กระสอบ
โดย นายไตรเทพ งามกมล รองนายก อบจ.บุรีรัมย์ ใช้อำนาจหน้าที่สั่งการเจ้าหน้าที่ อบจ.บุรีรัมย์ ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการหลักฐานมอบฉันทะและเบิกถอนเงินจากบัญชีของกลุ่มเกษตรกรที่รับเงินอุดหนุนมอบให้กับนายโกวิทย์ ทั้งที่ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือภารกิจของ อบจ.บุรีรัมย์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เป็นเงินจำนวน 157,497,600 บาท
เบื้องต้น สตง.ได้สั่งการให้ดำเนินการทางละเมิดกับ นายก อบจ.บุรีรัมย์ และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณี อบจ.บุรีรัมย์ อนุมัติงบประมาณให้กับกลุ่มหรือชุมชนในปีงบประมาณ 2555-2557 ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์หนังสือกระทรวงมหาดไทยดังกล่าว ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เป็นเงิน 24,301,000 บาท
รวมถึงดำเนินการหาผู้รับผิดทางละเมิดกับบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีนายก อบจ.บุรีรัมย์ รองนายก อบจ.บุรีรัมย์ สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ และเจ้าหน้าที่ อบจ.บุรีรัมย์ มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดหาปุ๋ยอินทรีย์ให้แก่กลุ่มเกษตรกร และดำเนินการเบิกถอนเงินในโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ ทำให้การจัดซื้อปุ๋ยอินทรีย์ไม่เป็นไปตามราคาท้องตลาด และเกิดผลประโยชน์ในส่วนต่างราคากับสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น157,497,000 บาท และหรือดำเนินการทางแพ่งกับนายโกวิทย์ ในจำนวนเงินที่ราชการได้รับความเสียหายดังกล่าว (ดูรายละเอียดในหนังสือฉบับแรก)
@ หนังสือฉบับสอง
สตง. แจ้งถึง ปลัดกระทรวงมหาดไทย ให้ดำเนินการตามสมควรแก่กรณีกับ
- นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์
- นายปรัชญา จินต์จันทรวงศ์ รองผู้ว่าราชการ จ.บุรีรัมย์
และคณะอนุกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่ อบจ.บุรีรัมย์ ประกอบไปด้วย
- นายไพศาล สำราญทรัพย์ รองผู้ว่าฯ บุรีรัมย์
- นายเลิศพันธุ์ สินบรรเลงเสนาะ จ่า จ.บุรีรัมย์
- นายแหลมทอง ประยงค์
- นายเศรษฐพร เบญจศรีรักษ์ ปลัด อบจ.บุรีรัมย์ (ปรากฎชื่อในหนังสือฉบับแรกด้วย)
- นายกิมฮ้อ เหลืองประภัสร์
- นายวีระชัย ประยูรเมธา
ทั้งนี้ ประเด็นการตรวจสอบสำคัญในหนังสือฉบับนี้ ระบุว่า บุคคลกลุ่มนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องในการอนุมัติการตั้งงบประมาณอุดหนุนเงินให้กลุ่มเกษตรกรดำเนินงานโครงการส่งเสริมอาชีพของคนบุรีรัมย์ ในปี 2556-2557 ซึ่งไม่เป็นไปตามหนังสือหลักเกณฑ์กระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท.0808.2/ว 74 ลงวันที่ 8 ม.ค.2553 ข้อ 3.3 (คลิกดูรายละเอียดที่นี่ http://www.slideshare.net/valrom/08082-74-8-53) ด้วย (ดูรายละเอียดในหนังสือฉบับสองประกอบ)
จากการตรวจสอบพบว่า ในหนังสือ สตง.ฉบับที่สอง มีการระบุถึง นักการเมืองท้องถิ่นที่เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์จากโครงการนี้ ด้วย
โดยระบุว่า "และการอุดหนุนเงินดังกล่าว มีสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ เนื่องจากการอุดหนุนเงินให้กลุ่มหรือ ชุมชนตามหลักเกณฑ์หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว 74 ลงวันที่ 8 ม.ค.2553 ไม่มีระเบียบแบบแผนของทางราชการ ควบคุมการใช้จ่ายเงินเหมือนเช่นส่วนราชการ ทำให้การอุดหนุนเงินตามหลักเกณฑ์หนังสือกระทรวงมหาดไทย ด่วนมาก ที่ มท 0808.2/ว 74 ลงวันที่ 8 ม.ค.2553 เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ และเป็นการใช้อำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอุดหนุนเงินอื่น นอกเหนือกว่าที่ประกาศคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เรื่องหลักเกณฑ์การสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ในการให้บริการสาธารณะลงวันที่ 23 พ.ย.2552 ให้อำนาจไว้"
ทั้งนี้ สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ที่ระบุว่าในหนังสือสตง.ฉบับที่สอง คือ นายโกวิทย์ นาวีสัมพันธ์ สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ซึ่งสตง.ระบุพฤติการณ์ในหนังสือฉบับแรก ว่า ได้เข้ามามีส่วนได้เสียในโครงการดังกล่าว ดำเนินการจัดหาปุ๋ยอินทรีย์และเบิกถอนเงินแทนกลุ่มเกษตรกร และได้รับผลประโยชน์จากส่วนต่างของราคาปุ๋ยอินทรีย์ที่แพงกว่าท้องตลาด เป็นเงิน 240 บาท/กระสอบ
ขณะที่ นายไตรเทพ งามกมล รองนายก อบจ.บุรีรัมย์ ที่ใช้อำนาจหน้าที่สั่งการเจ้าหน้าที่ อบจ.บุรีรัมย์ ให้ความช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกในการหลักฐานมอบฉันทะและเบิกถอนเงินจากบัญชีของกลุ่มเกษตรกรที่รับเงินอุดหนุนมอบให้กับนายโกวิทย์ ทั้งที่ ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่หรือภารกิจของ อบจ.บุรีรัมย์
เป็นเหตุทำให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เป็นเงินจำนวน 157,497,600 บาท
นายโกวิทย์ นาวี และ นายไตรเทพ งามกมล จึงน่าจะเป็น ตัวละครเอก ที่สำคัญสำหรับเรื่องนี้?
เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2559 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้ติดต่อไปยัง นายโกวิทย์ นาวีสัมพันธ์ สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ เพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีนี้
นายโกวิทย์ ยืนยันว่า "ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น"
พร้อมระบุว่า "ก่อนหน้านี้ ได้รับการประสานจากทาง สน.แค่ให้เข้าไปเป็นพยานเท่านั้น หนังสือ สตง. หรือ บันทึกแจ้งความอะไรไม่เคยทราบ"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดหาปุ๋ยให้เกษตรกรหรือไม่ นายโกวิทย์ ตอบว่า "ทุก สจ.ก็เข้าไปดำเนินการตามโควต้าของตนเอง บุรีรัมย์มีอยู่ 23 อำเภอ สจ.ก็มีหลายคน ส่วนของผมก็ดำเนินการตามขั้นตอน แต่ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องการซื้อขายอะไรด้วยเลย"
เมื่อถามย้ำว่า แต่ในหนังสือ สตง. ระบุชื่อ สจ.โกวิทย์ และพฤติการณ์ไว้ชัดเจน นายโกวิทย์ ตอบว่า "ผมไม่รู้อะไรด้วยเลย ไม่รู้มีใครวางแผน สับขาหลอกผมหรือเปล่า เพราะก่อนหน้านี้เห็นบอกว่าจะมีการสอบวินัยอะไรนิดหน่อยเท่านั้น"
เมื่อถามว่า ใครวางแผนอะไร นายโกวิทย์ ตอบว่า "ไม่รู้เหมือนกัน ตอนนี้ ผมยังไม่รู้เรื่องเลย ขอไปตรวจสอบข้อมูลก่อนแล้วจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง"
จากนั้น นายโกวิทย์ ได้ขอวางสายโทรศัพท์ไป
ต่อมาไม่นานนัก นายโกวิทย์ ได้ติดต่อกลับมา พร้อมระบุว่า ได้เห็นข่าวที่สำนักข่าวอิศรา ลงแล้ว และมีชื่อของตนเองปรากฎอยู่ด้วย และยืนยันว่า ไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนเหมือนเดิม
"เรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมถึงไม่มีใครแจ้งอะไรผมเลย และผมจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการขายปุ๋ยให้กับกลุ่มเกษตรกร ในโครงการนี้ หรือไม่
นายโกวิทย์ ตอบว่า "ถ้าจะเกี่ยวก็เกี่ยวกันทั้งหมด เพราะการดำเนินงานโครงการนี้เป็นไปตามนโยบายที่นายกอบจ.บุรีรัมย์ แถลงไว้ต่อสภา ตอนเข้ารับตำแหน่งว่าจะทำโครงการอะไรบ้าง"
เมื่อถามย้ำอีกครั้งว่า ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในการขายปุ๋ยให้กับกลุ่มเกษตรกร ในโครงการนี้ หรือไม่ นายโกวิทย์ ตอบว่า "ชื่อผมมักจะถูกดึงไปเกี่ยวข้องกับทุกโครงการนั้นแหละ ทั้ง หิน ดินทราย ใครมาคุย ผมก็แค่แนะนำไป ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย"
เมื่อถามว่า กรณีนี้จะชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสาธารณชนอย่างไร นายโกวิทย์ ระบุว่า "คงจะต้องขอไปตรวจสอบข้อมูลก่อน ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยืนยันว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย"
"เรื่องโครงการปุ๋ย เท่าที่ผมทราบตอนนี้ มันมีแค่โครงการปี 2558 ที่มีปัญหา และผู้ว่าฯ ก็สั่งชะลอเรื่องไว้ และก็มีการไปร้องเรียนกับทางทหารให้เข้ามาตรวจสอบ ส่วนเรื่องอื่น ผมไม่ทราบเรื่องด้วยจริงๆ" สจ.โกวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้พยายามติดต่อ นายไตรเทพ งามกมล ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงด้วยเช่นกัน แต่ไม่สามารถติดต่อได้
อ่านประกอบ :
ปลัดอบจ.บุรีรัมย์ แจ้งความ'เมียเนวิน' หลังถูกสตง.ชี้มูลคดีแจกปุ๋ย 328 ล้าน
ฉบับเต็ม!ผลสอบปุ๋ยอบจ.บุรีรัมย์ เสียหายยับ157ล. ชนวนเหตุ 'เมียเนวิน-พวก' ถูกแจ้งความ