2 บริษัทจ่ายเช็คคดีจำนำข้าว เครือข่ายเดียวผู้โอนเงินให้โรงสีเมีย“สมศักดิ์”
แกะรอย 2 บริษัทผู้จ่ายแคชเชียร์เช็คคดีจำนำข้าวจีทูจี“บุญทรง” ที่แท้เป็นเครือข่ายเดียวผู้โอนเงินเข้าบัญชีโรงสีวิเศษชัยชาญฯของ“เมีย”สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ในคดีแจ้งเท็จ ป.ป.ช.เมื่อ 2 ปีที่แล้ว
เอกชน 2 ใน 89 รายที่ถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ไต่สวนคดีรับจำนำข้าว เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2557 (คดีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ กับพวก กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการในคดีขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ) นั้นมีความเชื่อมโยงกับพ่อค้าข้าวในคดีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ส.ส.อ่างทอง พรรคชาติไทย (ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา)ปกปิดบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินเมื่อ 2 ที่แล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า บริษัท เกษตรพูลผล จำกัด ผู้โอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากโรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจของนางรวีวรรณ ปริศนานันทกุล ภรรยานายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล หลายครั้งๆละ1 ล้านบาท อ้างเป็นค่าซื้อขายข้าวระหว่างกัน (ปรากฏในคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองคดีแดงที่ อม.3/2555) นายไพศาล ควรทรงธรรม กรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัท เกษตรพูลผล จำกัด เป็นเครือญาติ นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม กรรมการและผู้ถือหุ้นของ บริษัท ข้าวไชยพร จํากัด และ บริษัทไชยพรไรซ์แอนด์ฟูดโปรดักส์ จํากัด
ทั้งสองบริษัทถูกคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ทุจริตโครงการจำนำข้าวไต่สวนในข้อหาจ่ายแคชเชียร์เช็คให้กรมการค้าต่างประเทศ โดยอ้างว่าเป็นการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ โดยนายไพบูลย์ ควรทรงธรรม ได้ถูกคณะอนุกรรมการไต่สวนฯตั้งข้อกล่าวหาร่วมกระทำผิดในฐานะส่วนตัวอีกด้วย
จากการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท เกษตรพูลผล จำกัด จดทะเบียนวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2520 ทุน 3 ล้านบาท ประกอบธุรกิจ นายหน้าขายข้าวที่ตั้งเลขที่ 194/18 ซอยพระยาภิรมย์ ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร มีกรรมการ 3 คนคือ นายไพศาล ควรทรงธรรม นายภูมิศักดิ์ เพิ่มพูนทรัพย์ และนางซิ้งจง ควรทรงธรรม เป็นกรรมการ ณ วันที่ 30 เมษายน 2548 มีผู้ถือหุ้น 17 คน มากที่สุดได้แก่ นางชิ้วจิง ควรทรงธรรม นายพิชัย เจียรภาคย์นายไพศาล ควรทรงธรรมนางสาวชลธิชา ควรทรงธรรม นางสาวพรทิพา ควรทรงธรรมนางสาวภัทรพร บุณยมานนท์นางสาวสวรัย บุญยมานนท์นายธนะชิต เพิ่มพูนทรัพย์นางสาวปรีณัน เพิ่มพูนทรัพย์นางสาวสมหญิง เพิ่มพูนทรัพย์ ได้จดทะเบียนเลิกกิจการวันที่ 2 กันยายน 2548
ขณะที่ บริษัท ข้าวไชยพร จํากัด จดทะเบียนวันที่ 3 เมษายน 2511 ทุนปัจจุบัน 400 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่ 613-615-617 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร นายสมบูรณ์ บุณยมานนท์ นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม ถือหุ้นใหญ่และเป็นกรรมการ
ส่วน บริษัทไชยพรไรซ์แอนด์ฟูดโปรดักส์ จํากัด จดทะเบียนวันที่ 5 กันยายน 2534 ทุน ปัจจุบัน 200 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่เดียวกัน นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม ถือหุ้นใหญ่และกรรมการ
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า ในคดีกล่าวหานายบุญทรงทุจริตโครงการรับจำนำข้าวแบบรัฐต่อรัฐนั้น เอกชนกลุ่มบริษัทข้าวไชยพร จำกัด ที่ถูก ป.ป.ช.ไต่สวน ได้แก่
1.บริษัทข้าวไชยพร จํากัด
2.นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม กรรมการบริษัทข้าวไชยพร จํากัด
3.นายสมชัย บุณยมานนท์ กรรมการบริษัทข้าวไชยพร จํากัด
4. นายสมบัติ บุณยมานนท์ กรรมการบริษัทข้าวไชยพร จํากัด
5.นางสาวอรพิน ควรทรงธรรม กรรมการบริษัทข้าวไชยพร จํากัด
กลุ่ม บริษัท ไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด ได้แก่
1.บริษัท ไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
2.นายไพบูลย์ ควรทรงธรรม กรรมการบริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
3.นายเสริมศักดิ์ ควรทรงธรรม กรรมการบริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
4.นางสาวสุนิสา ควรทรงธรรม กรรมการบริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
5.นายวิโรจน์ ควรทรงธรรม กรรมการบริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
6.นายสมชัย บุณยมานนท์ กรรมการบริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
7.นางสุดี อุทัยแสงชัย กรรมการบริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
8.นายวีระ ควรทรงธรรม กรรมการบริษัทไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด
ทั้งนี้ ในคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ปกปิดบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. (คดีแดงที่ อม.3/2555) เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2555 ระบุว่า นายไพโรจน์ ฉัตรบริรักษ์ (พี่ชายนางรวีวรรณ ปริศนานันทกุล) นายเกรียงศักดิ์ ฉัตรบริรักษ์ (พี่ชายนางรวีวรรณ) และนายไพศาล ควรทรงธรรม ให้การตรงกันว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด โรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจ ทำธุรกิจค้าข้าวกับ บริษัท เกษตรพูลผล จำกัด มานานแล้ว การติดต่อซื้อขายข้าวจะติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ เมื่อมีการตกลงปริมาณข้าวและราคากันแล้ว โรงสีฯจะส่งข้าวมาให้ บริษัทเกษตรพูลผล จำกัด และบริษัท เกษตรพูลผล จำกัด ก็จะโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารของโรงสีฯที่เปิดไว้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด และธนาคารกสิกรไทย จำกัด ซึ่งมีนายไพโรจน์และนายเกรียงศักดิ์เป็นเจ้าของบัญชีร่วมกันครั้งละ 1 ล้านบาท
คดีนี้ศาลฎีกาฯตัดสินว่า โรงสีวิเศษชัยชาญเจริญกิจ ผู้เป็นเจ้าของที่แท้จริงคือ นางรวีวรรณ ปริศนานันทกุล มิใช่นายไพโรจน์ และนายเกรียงศักดิ์ นายสมศักดิ์มิได้แสดงทรัพย์สินดังกล่าวต่อ ป.ป.ช.จึงมีความผิดปกปิดบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช . ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี อีกทั้งมีความผิดตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 119 จำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท แต่โทษจำคุกให้รอการลงอาญาเป็นเวลา 3 เดือน
(อ่านประกอบ:หนักกว่า“ชินณิชา”ศาลฎีกาฯเชือด“สมศักดิ์”ซุกบ้าน-เงินฝาก 30 ล้าน)
สำหรับ บริษัท ไชยพรไรซแอนด์ฟู้ดโปรดักส์ จํากัด จากการตรวจสอบพบเป็นคู่สัญญาในการซื้อขาวโครงการรับจำนำของรัฐบาลผ่านองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์) จำนวน 2 สัญญา รวม 1,051,420,882 บาท
1.การจัดซื้อข้าวขาว 5% ในสต็อกรัฐบาล โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 จำนวน 49,378.645257 ตัน วงเงิน 804,871,917.69 บาท เมื่อ 14 ก.ย. 55
2.ซื้อขายข้าวสารเพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักร วงเงิน 246,548,963.93 บาท เมื่อ 9 ส.ค. 56
น่าสังเกตว่า การจัดซื้อจัดจ้างดังกล่าวเกิดขึ้นในยุครัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาจากพรรคชาติไทยพัฒนา