เปิดแผนประทุษกรรมดักถล่มปิคอัพสายตรวจที่ศรีสาคร ปาระเบิดเพลิงซ้ำ
ช่วงเย็นของวันเสาร์ที่ 7 มี.ค.63 เป็นอีกครั้งหนึ่งที่วัดพุทธภูมิ พระอารามหลวง ซึ่งตั้งอยู่ใน อ.เมือง จ.ยะลา ถูกใช้เป็นสถานที่ทำพิธีรดน้ำศพเจ้าหน้าที่ผู้สละชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้
คราวนี้ผู้ตายเป็นตำรวจ นามว่า ส.ต.อ.บุญจรัล สงทิพย์ ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม (ผบ.หมู่ ป.) สภ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส
พิธีรดน้ำศพเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีครอบครัว ญาติมิตรไปร่วมพิธี โดยมี "บิ๊กแหมว" พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นประธาน และมี "บิ๊กเดฟ" พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ตลอดจนข้าราชการระดับสูงในพื้นที่ไปร่วมแสดงความอาลัย
ส.ต.อ.บุญจรัล เป็นคนพัทลุง หลังเสร็จพิธีรดน้ำศพ และวางพวงมาลาพระราชทานหน้าหีบศพแล้ว ครอบครัวจึงได้เคลื่อนศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลต่อที่วัดสมหวัง ต.สมหวัง อ.กงหรา จ.พัทลุง
ส.ต.อ.บุญจรัล เสียชีวิตในเหตุการณ์คนร้ายลอบโจมตีรถตำรวจ ขณะออกลาดตระเวนและเซ็นชื่อที่ตู้แดงในพื้นที่รับผิดชอบ คือในตัวอำเภอศรีสาคร ซึ่งถือว่าเป็นรูปแบบการก่อเหตุที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักในสถานการณ์ความไม่สงบจังหวัดชายแดนภาคใต้
หนำซ้ำเหตุการณ์ยังเกิดขึ้นกลางดึก คือเวลาก่อนเที่ยงคืนเล็กน้อยของวันศุกร์ที่ 6 มี.ค. ต่อเนื่องวันเสาร์ที่ 7 มี.ค.
เจ้าหน้าที่ตำรวจไปกัน 3 นาย ประกอบด้วย ร.ต.ต.ประมวล แก้วกุ้ง ส.ต.ท.ชิษณุพงศ์ ชุมสุวรรณ และ ส.ต.อ.บุญจรัล สงทิพย์ โดย ส.ต.อ.บุญจรัล เสียชีวิต ส่วนเพื่อนตำรวจอีก 2 นายได้รับบาดเจ็บ
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.นรินทร์ บูสะมัญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส รุดไปตรวจสถานที่เกิดเหตุทันที แม้เป็นช่วงกลางดึก เพราะถือว่าเป็นความสูญเสียที่มิอาจมองข้ามได้ ขณะเดียวกันก็เข้าเยี่ยมให้กำลังใจตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บด้วย
ต่อมาในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 7 มี.ค. จึงมีการส่งทีมพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจที่เกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยคนร้ายเลือกใช้ถนนสาย 4060 ซึ่งเป็นทางหลวงชนบท ในท้องที่บ้านตะโล๊ะ หมู่ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร เป็นจุดลงมือ ถนนเส้นนี้มุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลศรีสาคร ซึ่งมีตู้แดงที่ตำรวจทั้ง 3 นายต้องไปเซ็นเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยตามรอบเวลาที่กำหนด
รถกระบะสายตรวจเป็นรถปิคอัพ 4 ประตู ยี่ห้ออีซูซุ มี ส.ต.ท.ชิษณุพงศ์ เป็นพลขับ ร.ต.ต.ประมวล นั่งหน้าคู่กับ ส.ต.ท.ชิษณุพงศ์ ส่วน ส.ต.อ.บุญจรัล นั่งเบาะหลัง ทั้งหมดปฏิบัติภารกิจที่โรงพยาบาลศรีสาครเสร็จสิ้น จึงเดินทางกลับโรงพัก โดยใช้ถนนสาย 4060 คาดว่าคนร้ายซุ่มดูพฤติการณ์อยู่ตั้งแต่ขาไปแล้ว และอาจมีสายแฝงตัวอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาล เพื่อคอยแจ้งความเคลื่อนไหวช่วงรถสายตรวจออกจากโรงพยาบาล และส่งซิกให้ทีมโจมตีเตรียมพร้อม
เมื่อรถแล่นออกจากโรงพยาบาลมาได้ราวๆ 1 กิโลเมตร ก็โดนซุ่มโจมตี โดยกลุ่มคนร้ายวางกำลังเอาไว้ 2 จุด จุดละ 3-5 คน ทั้งสองจุดอยู่ฝั่งเดียวกัน ห่างกันประมาณ 50 เมตร คนร้ายใช้อาวุธสงครามทั้งเอ็ม 16 อาก้า ยิงใส่รถตำรวจที่แล่นผ่านมา แต่ละจุดเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนไม่ต่ำกว่า 30-40 ปลอก
นอกจากนั้น เยื้องกับจุดโจมตีที่ 2 ยังมีคนร้ายอีกชุดหนึ่งรอขว้างระเบิดเพลิงใส่รถตำรวจ โดยเมื่อรถถูกซุ่มยิงจากคนร้ายทั้ง 2 จุดแรก ยังโดนปาระเบิดเพลิงซ้ำ ทำให้รถเสียหลักตกข้างทาง ไฟไหม้รถจนวอดเกือบหมดทั้งคัน หนำซ้ำเพลิงยังลามไปเผาเพิงขายของริมทางของชาวบ้านวอดไปด้วย
จังหวะนั้นเองตำรวจ 2 นายที่นั่งเบาะหน้าได้ตัดสินใจเปิดประตูรถวิ่งหนีออกมา และใช้อาวุธปืนประจำกายยิงป้องกันไม่ให้คนร้ายเข้ามาก่อเหตุซ้ำ ส่วน ส.ต.อ.บุญจรัล เสียชีวิตคารถ
สำหรับ ส.ต.ท.ชิษณุพงศ์ ถูกกระสุนปืนของคนร้ายหลายจุด หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่นำส่งโรงพยาบาลศรีสาคร แพทย์ได้ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้น แล้วส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยใช้เฮลิปคอปเตอร์ลำเลียงไปส่ง ขณะที่ ร.ต.ต.ประมวล อาการไม่สาหัส จึงให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลศรีสาคร
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือว่าอุกอาจ และเลือกล็อคเป้าตำรวจ คนร้ายระดมกำลังมาเป็นสิบคน ใช้การโจมตีต่อเนื่องด้วยอาวุธสงคราม จากจุดแรกมาต่อยังจุดที่ 2 แล้วจบด้วยระเบิดเพลิง ถือเป็นแผนประทุษกรรมที่ฝ่ายความมั่นคงต้องถอดรหัสกันต่อไปเพื่อไล่ล่าคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และต้องระวังป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นอีก
โดยเฉพาะกับตำรวจสายตรวจที่ต้องออกตรวจตามวงรอบเป็นกิจวัตรทุกวัน!