'นิวยอร์ก' ประกาศภาวะฉุกเฉินสู้ 'ไวรัสโคโรน่า' หลังพบยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง 89 ราย
'นิวยอร์ก' ประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจำนวนถึง 89 ราย เขตท้องที่เวสเชสเตอร์ ตรวจเจอจากทนายความ ภาพรวมทั่งปท.ติดเชื้อแล้วกว่า 400 ราย เสียชีวิต 19 ราย
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรน่าซึ่งเป็นสาเหตุของโรคโควิด 19 ว่า เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ตามเวลาที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นายแอนดรูว์ คูโอโม (Andrew Cuomo) ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ออกประกาศภาวะฉุกฉิน อันเนื่องมาจากพบผู้ติดเชื้อในรัฐนิวยอร์กเป็นจำนวนมาก
โดยมีรายงานข่าวจากสำนักผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ว่า มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเป็นผลบวกต่อไวรัสโคโรน่าเป็นจำนวนถึง 89 ราย โดยในจำนวนนี้ 11 ราย อาศัยอยู่ที่เมืองนิวยอร์ก และอีก 70 ราย อยู่ในเขตท้องที่เวสเชสเตอร์
สำนักผู้ว่าการฯ ยังได้รายงานถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่อง อันเนื้องมาจากการตรวจพบผู้ติดเชื้อทั้งในเขตซาราโตก้าจำนวน 2 ราย เขตร็อคแลนด์จำนวน 2 ราย และก่อนหน้านี้ก็ยังพบกรณีผู้ติดเชื้ออีก 4 รายในเขตท้องที่นัสเซา
ทั้งนี้ นายแอนดรูว์ กล่าวยืนยันว่า ผลจากการออกมาตรการฉุกเฉินนั้น จะทำให้ทางรัฐนิวยอร์กสามารถจะซื้อเสบียงและปัจจัยต่างๆ รวมไปถึงการว่าจ้างแรงงานได้อย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะสนับสนุนภารกิจของหน่วยงานด้านสาธารณสุขในการเฝ้าระวังให้ผู้ที่ติดเชื้ออยู่ในพื้นที่กักกัน
สำหรับกรณีการติดเชื้อที่เขตท้องที่เวสเชสเตอร์นั้น มีที่ไปที่มาจากทนายรายหนึ่งซึ่งมีที่อยู่อาศัยในท้องที่ดังกล่าว
“กรณีเขตเวสเชสเตอร์นั้น ถือได้ว่าเป็นปัญหาอย่างเด่นชัดสำหรับเรา ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีการระบาดของเชื้อที่แพร่กระจายจากกลุ่มหนึ่งไปสู่ผู้ติดเชื้อรายอื่นๆ แล้ว” นายแอนดรูว์กล่าว
อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา ทางการรัฐนิวยอร์กได้ออกประกาศการอบรมเจ้าหน้าที่มากกว่า 4,000 ราย ในรัฐ เพื่อที่กักตัวเองอยู่ที่บ้าน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่อย่างน้อย 10 ราย ที่อยู่ในภาวะเฝ้าดูอาการที่โรงพยาบาล
สำหรับสภาพรวมสถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกานั้น มีรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อแล้วจำนวนมากกว่า 400 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด 19 แล้วอย่างน้อย 19 ราย
เรียบเรียงจาก: https://www.cnbc.com/2020/03/07/new-york-governor-andrew-cuomo-declares-state-of-emergency-over-coronavirus-outbreak.html
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/