กต.เเจงตัวเลข 'ผีน้อย' เกาหลีใต้ กว่า 1.5 เเสนคน กลับไทยเเล้ว 4.7 พันคน
เปิดศูนย์ข้อมูล COVID-19 ภารกิจติดตามสถานการณ์ ทำสื่อประชาสัมพันธ์ เเถลงข่าวทุกวัน 14.00 น. ยกเว้นวันหยุดราชการ 'บิ๊กตู่' เเต่งตั้ง 'เทวัญ' รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการ-'ถนอม' เป็นโฆษก ด้านก.ต่างประเทศ เเจงตัวเลขเเรงงานไทยในเกาหลีใต้ผิดกม. กว่า 1.5 เเสนคน กลับไทยเเล้ว 4.7 พันคน
วันที่ 6 มี.ค. 2563 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จัดแถลงข่าวเปิดศูนย์ “ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” หรือศูนย์ข้อมูล COVID-19 ณ ศูนย์แถลงข่าว ทำเนียบรัฐบาล
นายเทวัญ เปิดเผยว่า เมื่อมีการจัดตั้ง “ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)” หรือศูนย์ข้อมูล COVID-19 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้งให้นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูล และนายถนอม อ่อนเกตุพล เป็นโฆษกประจำศูนย์ข้อมูล โดยมีภารกิจสรุปติดตามสถานการณ์จากศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข รวบรวมประสานข้อมูลการแพร่ระบาดทั้งในและต่างประเทศ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ จัดแถลงข่าว เชิญผู้เกี่ยวข้อง ผู้เชี่ยวชาญ ชี้แจงให้ข้อมูลที่ครบถ้วน ถูกต้อง เกี่ยวกับปัญหาการแพร่ระบาด เพื่อสร้างความมั่นใจแก่สาธารณชน
(อ่านประกอบ:'บิ๊กตู่' ตั้ง 'ศูนย์ข้อมูล COVID-19' ในทำเนียบ บูรณาการความช่วยเหลือทุกมิติ-รับบริจาคด้วย)
นอกจากนี้รับข้อมูลความเดือดร้อนของประชาชนในทุกมิติ อันเกี่ยวกับโรคติดเชื้อไวรัสฯ ตั้งแต่การใช้ชีวิตประจำวัน สาธารณสุข เศรษฐกิจ สังคม จนถึงการให้ความช่วยเหลือเยียวยาอย่างทันท่วงทีและเมื่อประชาชนเกิดความไม่มั่นใจว่าภาครัฐมีมาตรการให้ความช่วยเหลืออย่างไร ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จะเป็นตัวกลางช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ประสานข้อมูลจากหน่วยงานของรัฐมาชี้แจงทำความเข้าใจแก่ประชาชน ผ่านช่องทางเดินในการร้องทุกข์ร้องเรียนที่ประชาชนรับทราบแล้วนั้น สายด่วนบริการประชาชน 1111 และหมายเลข 0-2288-6070-4 ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่รวบรวมปัญหาตลอด 24 ชั่วโมง
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวต่อถึงภารกิจของศูนย์ข้อมูล COVID-19 ว่ารับบริจาค สนับสนุน การปฏิบัติภารกิจในการป้องกัน ยับย้ำ การแพร่ระบาดของโรค ทั้งนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบทางราชการ ซึ่งศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จะให้บริการที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล เปิดให้บริการประชาชนทุกวัน และแถลงข่าวในเวลา 14.00 น. ของทุกวัน ยกเว้นวันหยุดราชการ และหากมีสถานการณ์จำเป็นเร่งด่วน จะมีการแถลงข่าวในวันหยุดราชการด้วย
“ไวรัส COVID-19 ไม่ได้เป็นปัญหาของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นปัญหาของประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือร่วมใจกัน ทั้งรัฐ เอกชน และประชาชน หวังว่า การจัดศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จะเป็นพลังในการร่วมมือร่วมใจของคนไทยที่จะฝ่าฝันวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน” นายเทวัญ ระบุ
ด้านนายเชิดเกียรติ อัตถากร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงผู้ใช้แรงงานจากเกาหลีใต้ว่า จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ มีคนไทย/แรงงานไทยพำนักในเกาหลีใต้ 209,909 คน โดยพำนักอย่างถูกกฎหมาย 57,470 คน ผิดกฎหมาย 152,439 คน แสดงความประสงค์กลับไทยแล้ว 5,386 คน ในจำนวนนี้เดินทางกลับไปแล้ว4,727 คน (ตั้งแต่วันที่ 11 ธ.ค. 2562-1 มี.ค. 2563)
ทั้งนี้ ขั้นตอนการขอกลับ จะต้องรายงานตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีใต้ โดยใช้ระยะเวลา 3-15 วัน ในการพิจารณา เพราะต้องตรวจประวัติ อาชญากรรม หลังจากนั้นจะให้ใบอนุญาตให้ หลังจากนั้นไปสนามบินวันกำหนดเดินทาง โดยรายงานตัวที่ตม.อีกครั้ง เพื่อรับเอกสารอีกฉบับหนึ่งมายืนยันตรงกัน จึงนำไปเช็คอินที่เค้าท์เตอร์สายการบิน อย่างไรก็ตาม ก่อนไปดำเนินการได้นั้น จะมีขั้นตอนการคัดกรองจะขึ้นเครื่องบิน ซึ่งเป็นแรงผลักดันจากรัฐบาลไทยให้เกาหลีใต้เพิ่มมาตรการคัดกรองเข้มข้นมากขึ้น หากพบมีอาการป่วยจะไม่สามารถขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยได้
ขณะที่ รศ.ดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน) เปิดเผยเกี่ยวกับมาตรการรองรับแรงงานไทยจากเกาหลี ว่าตามข้อสั่งการของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ติดตามและดูแลคนงานไทยที่พำนักอยู่ในประเทศที่มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสฯ และประเทศที่เฝ้าระวังตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างใกล้ชิด โดยดำเนินการร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ
(อ่านประกอบ: 'อนุทิน' ลงนามประกาศ 4 ปท. 'เกาหลี- อิตาลี -อิหร่าน-จีน' เขตโรคติดต่ออันตราย 'โควิด-19')
ที่ปรึกษา รมว.แรงาน กล่าวว่า ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ห่วงใยแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศทุกคน โดยได้สั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในต่างประเทศทั้ง 13 แห่ง ประสานความร่วมมือกับนายจ้างในสถานประกอบการที่แรงงานไทยทำงานอยู่ เพื่อให้ขอความร่วมมือสถานประกอบการช่วยดูแลคนงาน เพื่อป้องกันการติดเชื้อ ขณะเดียวกันให้ประชาสัมพันธ์ข้อมูลแก่แรงงานผ่านสื่อออนไลน์ เช่น เฟซบุ๊ก ไลน์กลุ่ม วัดไทย ชุมชนไทย ร้านไทย อาสาสมัครแรงงาน ให้ทราบข้อมูลและมาตรการต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง
ส่วนในกรณีที่พบว่า มีแรงงานไทยมีอาการเข้าข่ายสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสฯ เช่น มีไข้สูง 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป หรือมีปัยหาทางระบบทางเดินหายใจนั้น รศ.ดร.จักษ์ ระบุว่า ทางอัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) สำนักงานแรงงานในต่างประเทศ จะเข้าไปดูแลแรงงานเพื่อประสานการส่งต่อให้สามารถเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล
สำหรับเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศให้เป็นท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีเชื้อไวรัส COVID-19 ซึ่งกระทรวงแรงงานได้บูรณาการประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ของเกาหลี ในการอำนวยความสะดวกให้แรงงานไทยเดินทางกลับประเทศ กรณีแรงงานไทยที่เจ็บป่วยหรือผลการตรวจออกมาเป็นบวก ทางการเกาหลีใต้จะส่งรถโรงพยาบาลมารับตัวผู้ป่วยไปเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่กำหนด โดยทางเกาหลีใต้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลให้กับผู้ติดเชื้อทั้งหมด โดยไม่จำกัดว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวพำนักอยู่ในเกาหลีใต้อย่างถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายและชาวไทยที่พำนักอยู่ในเกาหลีใต้อย่างผิดกฎหมายจะไม่ถูกจับกุมดำเนินคดีและไม่ถูกส่งตัวกลับประเทศ หากเข้ารับการตรวจทดสอบหาเชื้อไวรัสฯ
ที่ปรึกษา รมว.แรงงาน กล่าวต่อว่า เมื่อแรงงานไทยขึ้นเครื่องบินและเดินทางกลับถึงประเทศไทยแล้ว กระทรวงแรงงานจะร่วมบูรณาการส่งข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) โดยการดำเนินงานจะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ
1.กลุ่มที่เดินทางจากเมืองแทกูและคยองซังเหนือ ให้เฝ้าระวังอาการที่เกาหลีใต้ 14 วัน มีการคัดกรองก่อนขึ้นเครื่องและคัดกรองที่ด่านควบคุมโรคที่ท่าอากาศยาน หากตรวจพบว่ามีไข้ จะส่งตัวตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข แต่หากตรวจแล้วไม่มีไข้จะจัดส่งรถส่งตัวไปพื้นที่ควบคุมโรคที่รัฐกำหนด 14 วัน
2.กลุ่มที่เดินทางจากเมืองอื่น ๆ ในเกาหลีใต้ มีมาตรการ คือ เฝ้าระวังอาการที่เกาหลีใต้ 14 วัน คัดกรองก่อนขึ้นเครื่อง คัดกรองที่ด่านควบคุมโรคที่ท่าอากาศยาน หากตรวจพบว่ามีไข้ จะส่งตัวตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข หากตรวจแล้วไม่มีไข้ จัดรถส่งตัวไปสถานที่ควบคุมโรคตามภูมิลำเนา โดยกระทรวงมหาดไทยจัดหาสถานที่รองรับในลักษณะพื้นที่จำกัด 14 วัน
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/