โผล่อีกคดี! ป่าไม้แจ้งจับ ผู้บริหาร อบต. ใช้งบฯหลวงตัดถนนเข้าป่าสงวนฯ จ.พังงา
จนท.กรมป่าไม้แจ้งจับ 2 ผู้บริหาร อบต. ในอ.ท้ายเมือง จ.พังงา ร่ ส่งเครื่องจักรตัดถนนผ่านป่าสงวนแห่งชาติบางทอง คาด จนท.ในพื้นที่รู้เห็น
ปัญหาการบุกรุกป่ายังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง กรณีในพื้นที่ภาคใต้ นอกจาก จ.กระบี่ ภูเก็ต ตามที่สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
ทั้งนี้ สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 พ.ต.ท.เสน่ห์ อุโครต พนักงานสอบสวน สภ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ได้รับแจ้งจาก นายกฤษฎา สุตนพัฒน์ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้ท้ายเหมือง ให้ดำเนินคดีกับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บางทอง และรองนายก อบต. ร่วมกันนำเงินหลวงไปทำถนนผ่านป่าสงวนแห่งชาติบางทอง อยู่ในพื้นที่ ม.2 ต.บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งป่ายังมีสภาพสมบูรณ์ โดย ผู้ร้องแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ป่าไม้น่าจะมีส่วนรู้เห็นกับการทำถนนในป่าสงวนแห่งชาติ
หนังสือของ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 12 สาขากระบี่ ที่ ทส.1635.1/77ลงวันที่ 3 มีนาคม 2563 ระบุบว่า คณะเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันเดินทางเข้าพื้นที่พบร่องรอยการใช้เครื่องจักรกลหนักขุดตัดหน้าดินเลียบเขาข้างลำห้วยและมีร่องรอยการใช้รถบดอัดถนนมีความกว้าง ประมาณ 4 เมตร ยาว ประมาณ 1,743 เมตร และจากการสอบสวน นายนุกุล ทองสกุล ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.บางทอง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ให้การยืนยันว่า ผู้ที่ดำเนินการในการตัดถนนในครั้งนี้ คือ รองนายก อบต.บางทอง นอกจากนั้นยังสอบสวน ชาวบ้านในพื้นที่เจ้าของสวนยางพารา ก็ยืนยันว่า ผู้ที่ดำเนินการตัดถนนเข้าป่าในครั้งนี้ คือรองนายก อบต.บางทอง
ในบันทึกการร้องทุกข์ของ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ยังระบุอีกว่า พบการทำไม้ ห่วงห้าม จำนวน 2 ต้น คือ ไม้หลุมพอ และ ไม้คอแห้ง และได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง และตีตรา ต.8342 และ ย.1239 และระบุว่า ผู้ที่กระทำความผิดในครั้งนี้ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ฐาน ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้ผู้ใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่นสร้างแผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา 54 ฐาน ห้ามมิให้ผู้ใด ก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำการใดๆอันเป็นการทำลายป่า หรือเข้ายึดถือหรือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ มาตรา 11ทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ มาตรา69 ผู้ใดมีไว้ในครอบครองซึ่งไม้หวงห้ามอันมิได้แปรรูป โดยไม่มีรอยตราค่าภาคหลวง หรือรอยตรารัฐบาลขาย
แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ระบุว่า การตัดถนนเข้าป่าสงวนแห่งชาติป่าพานพอ นั้น มีความกว้าง มากกว่า 4 เมตร ซึ่งส่วนใหญ่ กว้างประมาณ 6 เมตร และบางแห่งบางช่วง ทำลายป่ากว่า ถึง 8-10 เมตร และ มีความยาวประมาณ 2,000 เมตร บางช่วงผ่านต้นไม้ขนาดใหญ่ลำต้นสูงประมาณ 50 เมตร ประมาณค่าเนื้อไม้ เป็นเงินหลายแสนบาท ทำให้ตั้งข้อสังเกตว่า เมื่อต้นไม้มีค่าสูงอยู่ใกล้ถนนที่มีความสะดวกและอยู่ในพื้นที่ลับตา การตัดถนนในครั้งนี้อาจจะเป้าหมายเพื่อการทำไม้มีค่าออกจากป่าอีกในอนาคตต่อไป
กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage
อ่านเรื่องประกอบ:
‘สมศักดิ์’ สั่งดีเอสไอลุยสอบปมร้องนักการเมืองรุกป่า-ตัดไม้-สร้างบ้านพัก 200 ไร่ ภูเก็ต
แจ้งจับนักการมืองท้องถิ่นกับพวก ใช้รถแบ็คโฮ เครื่องมือหนัก บุกรุกป่า จ.พังงา