ส.ส.ณัฐชา แฉปมโอนหุ้นบ.ตลาดคลองเตยให้นอมินี-'ธรรมนัส' โต้ไม่จริง 'วิภาดา' ผู้ร่วมก่อตั้ง
'ณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์' ส.ส.กทม. อดีตสังกัดพรรคอนาคตใหม่ งัดหลักฐานแฉ ธรรมนัส 3 ปมรวด 'ใช้วุฒิปริญญาเอกปลอม -สำแดงรายได้จากการขายสลากกินแบ่ง-โอนหุ้นบ.ตลาดคลองเตย' ถามรายได้ 36 ล้านต่อปี ทำไมแจ้ง ป.ป.ช. ไม่สอดคล้อง ภ.ง.ด.91 ยันขาดคุณสมบัติความเป็น รมต.- ส.ส. เหตุภริยาถือหุ้น บ.คู่สัมปทานรัฐ เผยตามตัว 'วิภาดา เมืองโคตร' ถึงโคราช สถานะส่อเป็นนอมินี ด้าน รมช.เกษตรฯ โต้ทุกประเด็น แจงปมวุฒิปลอมพร้อมแจ้งความเพราะเป็นเหยื่อ ยันเรียนทางไกล ทำวิจัยจริง แจงเช่าพื้นที่ท่าเรือไม่ใช่สัมปทาน ยันตลาดคลองเตยสร้างมากับมือ ขายหุ้นให้ผู้ร่วมก่อตั้ง
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า ในช่วงเวลาประมาณ 02.00 น. วันที่ 26 ก.พ.2563 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร อดีตส.ส.สังกัดพรรคอนาคตใหม่ ได้อภิปรายถึงประเด็นทั้งเรื่องวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในประเด็นการใช้วุฒิปริญญาเอกปลอม ประเด็นการสำแดงรายได้จากการขายสลากกินแบ่งและในประเด็นเรื่องการโอนหุ้นตลาดคลองเตย
@'ณัฐชา'ถามรายได้ 36 ล้านต่อปี 'ธรรมนัส' ทำไมแจ้ง ป.ป.ช. ไม่สอดคล้อง ภ.ง.ด.91
นายณัฐชา อภิปรายว่า ในประเด็นเรื่องรายได้ของ ร.อ.ธรรมนัส รวมประมาณ 36 ล้านบาทต่อปี ที่แจ้งไว้กับคณะกรรมการป้องกันและปรายปรามการทุจริตแห่งชาติ ในเดือน พ.ค. 2562 เฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านบาท หลังจากที่ ร.อ.ธรรมนัสยื่นแบบ ภ.ง.ด.91กับกรมสรรพากรเพียงแค่ 6 เดือน ได้เข้าไปดูแบบ ภ.ง.ด.90 ย้อนหลัง 3 ปีของ ร.อ.ธรรมนัส พบว่าในปี 2559 ร.อ.ธรรมนัส มีการสำแดงรายได้จากค่านายหน้า 1,237,113.36 บาท ปี 2560 ร.อ.ธรรมนัสสำแดงรายได้เป็นค่านายหน้า 1,237,113.36 บาท ปีล่าสุดคือปี 2562 ร.อ.ธรรมนัส มีรายได้จากดอกเบี้ย 3,531,887 บาท และผ่านไปอีก 6 เดือน พบว่า ร.อ.ธรรมนัสมีรายได้รวมต่อปีอีก 36 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วมีรายได้เดือนละ 3 ล้านบาทตามที่ ร.อ.ธรรมนัสได้แจ้งไว้
“แต่มีอยู่ 2 อย่าง คือ ถ้าท่านไม่แจ้ง ป.ป.ช.ผิด ก็แจ้งสรรพากรผิด ต้องผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง เพราะอยู่ดีๆมีรายได้มากกว่า 36 ล้าน ท่านได้มาได้อย่างไร ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยว่ารายได้ที่ท่านแจ้งว่าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้นขายไปอย่างไร และขายถูกต้องหรือไม่ ถึงได้รายได้ปีละกว่า 36 ล้านบาท เพราะประเด็นความสับสนวุ่นวายเรื่องรายได้นี้ ผม จึงไม่อาจไว้วางในตัว ร.อ.ธรรมนัสในฐานะรัฐมนตรีที่จะมาดูแลงบประมาณของประเทศได้อีกต่อไป”นายณัฐชาระบุ
@ยันขาดคุณสมบัติ รมต.- ส.ส.เพราะเป็นภริยาถือห้น บ.ตลาดคลองเตยคู่สัมปทานรัฐ
นายณัฐชา อภิปรายต่อว่า อีกประเด็นก็คือ ร.อ.ธรรมนัสนั้นขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส.เพราะว่าภรรยาของ ร.อ.ธรรมนัสนั้นถือหุ้นอยู่ในบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับรัฐ หรือสัมปทานของรัฐ ประเด็นถัดมา ร.อ.ธรรมนัสไม่มีคุณสมบัติรัฐมนตรี เพราะภายหลังที่ ร.อ.ธรรมนัสรู้ว่าภรรยาถือหุ้นอยู่ ร.อ.ธรรมนัสก็ไปยักย้ายถ่ายโอนหุ้นทั้งหมดให้กับนอมินี หรือผู้ถือประโยชน์แทนจากบริษัท ตลาดคลองเตย2551 จำกัด หรือชื่อเดิม บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล ซึ่งกรณีดังกล่าวนั้นผิดต่อกฎหมายรัฐธรรมนูญ 2560 ตามมาตรา 184 เรื่องคุณสมบัติของ ส.ส. และมาตรา 187 ในประเด็นเรื่องลักษณะต้องห้ามของรัฐมนตรี อันเนื่องมาจากการถือหุ้นในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัท
นายณัฐชา อภิปรายว่า ข้อมูลของบริษัทตลาดคลองเตยฯหรือบริษัทลีเกิ้ลฯแห่งนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2543 ทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท ร.อ.ธรรมนัส เข้ามาถือหุ้นบริษัทลิเกิ้ลฯต่อจากคู่สมรสในปี 2548 และปี 2551 เข้าทำสัญญาเช่าพื้นที่ตลาดคลองเตยจากการท่าเรือแห่งประเทศไทยเป็นระยะเวลา 10 ปี ได้สัมปทานทั้งสิ้นตั้งแต่ปี 2551-2561 และตั้งแต่ปี 2561 บริษัทลีเกิ้ลได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัทตลาดคลองเตยฯ และต่อสัญญากับการท่าเรือแห่งประเทศไทย โดยงบการเงินของบริษัทตลาดคลองเตยฯในปี 2561 นั้น พบว่าบริษัทแห่งนี้ยังมีสัญญาเช่าจากการท่าเรือต่อไปอีกจนถึงปี 2571 โดยมีหลักประกันความเสียหายเป็นเงิน 40,897,368 บาท ในปี 2561 และปี 2560 บริษัทได้จ่ายเงินค่าเช่าไปแล้ว 69.91 ล้านบาท ปีถัดมาก็ได้จ่ายเงินไปอีก 69.15 ล้านบาทตามลำดับ
“ผมขอย้ำว่าการท่าเรือแห่งประเทศไทยถือเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในหน่วยงานของรัฐสังกัดกระทรวงคมนาคม จัดตั้งขึ้นมาตาม พ.ร.บ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย ปี 2497 ดังนั้นถ้ารัฐมนตรีหรือ ส.ส.เข้าถือหุ้นในบริษัทที่เป็นคู่สัญญากับการท่าเรือก็เข้าข่ายว่าขัดคุณสมบัติตามมาตรา 184”นายณัฐชาระบุ
@ตามตัว 'วิภาดา เมืองโคตร' ถึงโคราช สถานะส่อเป็นนอมินีตลาดคลองเตย ยันข้อมูลจากเฟซบุ๊กเป็นแค่พนักงาน
นายณัฐชา อภิปรายกล่าวต่อว่า จากข้อมูลการถือหุ้นของบริษัทฯ ตามเอกสาร บอจ.5 ปรากฏชื่อผู้ถือหุ้น 4 รายคือ ร.อ.ธรรมนัส 330,000 หุ้น 55 เปอร์เซ็นต์ นางอริสรา พรหมเผ่า 180,000 หุ้น 30 เปอร์เซ็นต์ และอีก 2 ชื่อเป็นคนในตระกุลพงษ์เพียรชอบอีก 15 เปอร์เซ็นต์ ต่อมาวันที่ 18 ม.ค. 2562 ร.อ.ธรรมนัสได้โอนหุ้นให้กับนางอริสรา ภรรยา จึงทำให้นางอริสราถือหุ้น 510,000 หุ้น คิดเป็น 85 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตามพบว่าเมื่อ ร.อ.ธรรมนัสได้รับการเลือกตั้งแล้วก็ยังมีชื่อภรรยาถือหุ้นจำนวน 85 เปอร์เซ็นต์เช่นเดิม ดังนั้นหลังจากวันที่ 24 มี.ค.2562 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง จึงถือว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน
นายณัฐชา อภิปรายต่อว่า คุณสมบัติของรัฐมนตรีก็ยังไปมีลักษณะขัดกันต่อการถือหุ้นอีกประเด็น เพราะว่าแม้ในเวลาต่อมา คู่สมรสของ ร.อ.ธรรมนัสจะโอนหุ้นให้ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร ซึ่งส่วนตัวก็สงสัยว่า น.ส.วิภาดานั้นเป็นลูกน้องคนสนิทที่ถือครองหุ้นแทนหรือถือผลประโยชน์แทนหรือไม่ เพราะผู้รับหุ้นเป็นมูลค่าเริ่มต้นกว่า 51 ล้านบาท หรือคิดตามมูลค่าบัญชีแล้วก็กว่า 43.67 ล้านบาท ซึ่งการที่ น.ส.วิภาดาเข้ามาถือหุ้นกว่า 85 เปอร์เซ็นต์แทน 2 สามีภรรยานั้นถือว่าเป็นที่น่าสงสัย เพราะอยู่ระหว่างกลางช่วงเวลาของสัมปทานการเช่าพื้นที่ตลาดคลองเตยจากการท่าเรือฯ
นายณัฐชา อภิปรายอีกว่า ดังนั้นจึงสืบค้นข้อมูลของ น.ส.วิภาดาว่าเป็นใคร จนกระทั่งไปพบเฟซบุ๊กของ น.ส.วิภาดาว่าได้มีการชี้แจงในช่องทางสื่อสารของตัวเองว่าเป็นผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการเงินบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จำกัด อีกทั้งรูปโปรไฟล์ก็ยังอยู่ในเครื่องแบบของบริษัทลีเกิ้ลฯหรือบริษัทตลาดคลองเตยฯในปัจจุบัน (ระหว่างการอภิปราย นายณัฐชาฉายสไลด์เฟซบุ๊กของ น.ส.วิภาดาขึ้นมา)
นายณัฐชา อภิปรายอีกว่า เมื่อดูข้อมูลก็พบว่า น.ส.วิภาดานั้นได้แต่งงานกับนายประภวิษณ์ แก้วเกษม ซึ่งนายประภวิษณ์ก็ทำงานเป็นฝ่ายการเงินของบริษัทตลาดคลองเตยฯเช่นกัน (ระหว่างการอภิปราย นายณัฐชาฉายสไลด์เฟซบุ๊กของ นายประภวิษณ์ขึ้นมา)
นายณัฐชา อภิปรายย้ำว่า เป็นเรื่องน่าแปลกที่ว่าอยู่ดีๆพนักงานของบริษัทถึงได้มาถือหุ้นถึง 85 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งเมื่อดูความสัมพันธ์จะพบว่านายประภวิษณ์ก็เป็นบุคคลที่รัก ร.อ.ธรรมนัสเป็นอย่างมาก โดยมีการแชร์และอวยพรในเฟซบุ๊กโดยตลอด จึงได้ตามไปดูข้อมูลตามแบบ บอจ.5 ที่ น.ส.วิภาดาได้แจ้งที่อยู่ ซึ่งเป็นที่อยู่ของผู้ที่ซื้อหุ้นที่มีมูลค่ากว่า 43 ล้านบาท (นายณัฐชาได้เปิดสไลด์เป็นรูปห้องแถว 3 ชั้น:ดูภาพประกอบ)
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จึงได้ตามข้อมูลของ น.ส.วิภาดาต่อตามข้อมูลที่แจ้งไว้ในบัตรประชาชนคือบ้านเลขที่ 211 ชุมชนท้าวสุระ ซอย 3 ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา (ดูภาพประกอบ)
“ผมกลัวว่าเขาถ่ายผิดที่ ผมเลยไปถ่ายมาเอง ในซอยแห่งนี้ ผมเดินทุกตรอก ทุกซอก ทุกซอย ก็พบว่า 211 คือบ้านหลังนี้ ก็วงไว้ว่าบ้านนี้คือ 211 แน่นอน แต่เข้าไปไม่ได้เพราะสุนัขดุมาก” นายณัฐชากล่าว (ดูภาพประกอบ)
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า ได้ติดตามข้อมูลของนายประภวิษณ์ จนพบว่านายประภวิษณ์ได้อาศัยอยู่บ้านสีเขียวแห่งหนึ่ง ซึ่งบ้านสีเขียวหลังนี้คือบ้านของผู้ถือหุ้นรายใหญ่กว่า 51 ล้านบาท (ดูภาพประกอบ)
นายณัฐชา อภิปรายต่อว่า "ส่วนตัวแล้วจึงไม่มีความไว้ใจ และเชื่อถือ ร.อ.ธรรมนัสได้ โดยเฉพาะกับกรณีที่ น.ส.วิภาดาได้ถือหุ้นกว่า 510,000 หุ้น หรือร้อยละ 85 ของบริษัท ถ้าหากส่วนตัวแล้วได้รับหุ้นถึง 85 เปอร์เซ็นต์ คงตั้งตัวเองเป็นผู้บริหารไปแล้ว คงไม่มาตั้งตัวเองเป็นผู้ช่วยพนักงานฝ่ายเงินหรอก และก็คงจะไม่ให้แฟนไปเป็นคนเก็บเงินค่าแผงหรือทำงานในฝ่ายการเงินอีกต่อไป หรืออย่างน้อยก็ให้ได้ช่วยในตำแหน่งรองประธานก็ยังดี"
นายณัฐชา อภิปรายย้ำใน 2 ประเด็น ว่า " 1. ธุรกรรมหลังจากวันที่ 24 มี.ค. 2562 ก็คือกรณีนางอริสรา พรหมเผ่า คู่สมรสของ ร.อ.ธรรมนัสซึ่งไปถือหุ้นตลาดคลองเตยอยู่หลังจากวันที่ 24 มี.ค. ดังนั้นความเป็น ส.ส.จึงหมดไปแล้วเพราะเข้าลักษณะต้องห้าม และพอเมื่อรู้ตัวก็มีการโอนหุ้นให้กับคนสนิทและลูกน้องผู้ใกล้ชิด และ 2.มีเหตุอันควรว่า น.ส.วิภาดา เมืองโคตรนั้นคือนอมินี โดยธุรกรรมนี้นั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง และเหตุที่ต้องมีนอมินีก็เพราะ ร.อ.ธรรมนัสนั้นต้องการที่จะได้รับผลประโยชน์จากการเป็นคู่สัญญากับทางรัฐในประเด็นเรื่องสัมปทานซึ่งมีมูลค่ามหาศาลถึงปี 2571 ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่จะทำให้ ร.อ.ธรรมนัสขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรีตามมาด้วย ซึ่งหลังจากวันนี้นั้นจะมีการส่งเรื่องไปให้กับองค์กรอิสระและหน่วยงานต่างๆเพื่อตรวจสอบ ร.อ.ธรรมนัสต่อไป และก็อยากจะรู้ว่าถ้าหากหน่วยงานเหล่านี้ได้ตัดสินว่า ร.อ.ธรรมนัสนั้นผิดจริง บรรดา ส.ส.ที่ยกมือโหวตให้ ร.อ.ธรรมนัสจะว่าอย่างไร"
@'ธรรมนัส'โต้ ถ้าเป็นวุฒิปลอมพร้อมแจ้งความเพราะเป็นเหยื่อ ยันเรียนทางไกล ทำวิจัยจริง
สำนักข่าวอิศรา รายงานว่า หลังจากนั้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้ลุกขึ้นอภิปรายชี้แจงตอบโต้ข้อมูล นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ทันที ระบุว่า ข้อมูลของนายณัฐชานั้นไม่แน่น โดยในประเด็นเรื่องวุฒิปลอม นั้น ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่า หลังจากที่มีการแถลงข่าวโดยประธานกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (กมธ.ปปช.) ในสภาผู้แทนราษฎรในประเด็นเรื่องความไม่น่าเชื่อถือของมหาวิทยาลัยที่ได้ไปศึกษาในระดับชั้นปริญญาเอกทั้งมหาวิทยาลัยคาลามัส และมหาวิทยาลัยแคลิฟอเนียร์ยูนิเวอร์ซิตี้ เอฟซีอี ส่วนตัวแล้วไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด แต่ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็พร้อมที่จะไปแจ้งความดำเนินคดีในฐานหลอกลวง
“แต่ผมจำได้อย่างหนึ่งว่าผมเสียทรัพย์ตัวเอง เสียค่าหน่วยกิตไปล้านกว่าบาท และไม่ได้ไปซื้อปริญญาปลอมแต่อย่างใด หลังจากที่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียาเวส ประธาน กมธ.ปปช.ได้เปิดเผยเรื่องนี้ ก็ไม่ได้รอช้าแต่อย่างใด แต่ได้ขอความร่วมมือไปยังปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหนังสือลงวันที่ 4 ต.ค. 2562 เพื่อตรวจสอบสถาบันดังกล่าวคือ California University ในประเทศสหรัฐอเมริกาแล้ว ซึ่งถ้าหากเป็นแบบนั้นจริง ผมจะแจ้งความกับบุคคลที่เกี่ยวข้องเองในฐานะที่ผมเป็นบุคคลที่เสียหาย แต่ผมก็ขอยืนยันด้วยว่าผมนั้นไม่ได้ซื้อปริญญา แต่เรียนจริง โดยเป็นการเรียนทางไกล และทำวิจัยจริง ผ่านการสอบถามประชาชนใน จ.พะเยา” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
@แจงเช่าพื้นที่ท่าเรือไม่ใช่สัมปทาน ยันตลาดคลองเตยสร้างมากับมือ
ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงถึงข้อกล่าวหาเรื่องธุรกิจบริษัทตลาดคลองเตยฯ ว่า “ทางสมาชิกนั้นเข้าใจผิดเหมือนกับผม ซึ่งมีข้อโต้แย้งกับฝ่ายกฎหมายของการท่าเรือของประเทศไทย และมีการถกเถียงกันถึงประเด็นนี้ว่าการเช่าที่ดินของรัฐเป็นสัมปทานของรัฐหรือไม่ ผมไม่ได้เช่าตลาดคลองเตย ตลาดคลองเตยเป็นตลาดที่ผมสร้างขึ้น หากท่านจะทำอะไร ต้องหาข้อมูลให้ชัดเจนด้านกฎหมายก่อน เพราะการเช่าที่ดินนั้นมีเยอะแยะที่เช่าที่ดินจากการรถไฟเพื่อสร้างโรงแรม แล้วถามว่ามันเป็นสัมปทานของรัฐหรือไม่ มันไม่ใช่สัมปทาน มันเป็นการเช่าที่ดินที่ผู้เช่าจะไปทำอะไรก็ได้ และเมื่อผมเห็นว่ามันหมิ่นเหม่ในการถือหุ้นต่างๆ ทุกบริษัทผมออกหมด ผมขายหมดทั้ง 16 บริษัท มันจะไม่มีรายได้เลยหรือ ก็ผมไม่ได้ยกให้ใครฟรีๆยกเว้นบางบริษัทที่ไม่ได้ประกอบการแล้ว เราก็โอนไปให้คนที่อยากจะทำต่อ”
@ยันชื่อ'วิภาดา เมืองโคตร'ไม่ได้มีแค่คนเดียว ชี้เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ตลาดคลองเคย สวน 'ณัฐชา'ไปผิดบ้าน ยันตัวจริงไม่ได้อยู่โคราช
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ ยังชี้แจงต่อว่า "ในประเด็นเรื่องการถือหุ้นบริษัทตลาดคลองเตยฯนั้นได้ชี้แจงไปแล้วว่าได้ขายไปเกือบทุกตัวแล้ว โดยบางตัวที่พอจะเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงลูก ก็ได้ให้คู่สมรสบริหารต่อ ในประเด็นตลาดคลองเตยต้องย้อนไปถึงประมาณปี 2544 ตอนนั้น ร.อ.ธรรมนัสมีเงินติดบัญชีอยู่แค่ไม่ถึง 3 แสนบาท และรายชื่อผู้ถือหุ้นทั้งหมดที่นายณัฐชาได้พูดถึงมานั้น อาทิ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร เป็นต้น ทั้งหมดคือผู้ก่อตั้งบริษัทลีเกิ้ลฯ ร่วมกันมาด้วยกัน
“โดยเฉพาะ น.ส.วิภาดา เมืองโคตร เป็นผู้ถือหุ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2545 ร่วมกับผม ถือหุ้นเมื่อปี 2545 และ 2551 บุคคลที่อยู่ในบริคณห์สนธิของบริษัทลีเกิ้ลฯ หรือตอนหลังเปลี่ยนมาเป็นตลาดคลองเตย 2551 คือผู้ร่วมธุรกิจ ร่วมทุกร่วมสุขกับผมมา ประเด็นอีกประเด็นหนึ่ง ท่านคงไปได้ข้อมูลผิดจากสื่อบางสำนักว่า น.ส.วิภาดา เมืองโคตร เป็นบุคคลที่อยู่ที่บ้านเลขที่อะไรก็ตามที่โคราช ท่านเข้าใจผิด วิภาดา เมืองโคตรนั้นไม่ได้มีคนเดียว น.ส.วิภาดา เมืองโคตร เกิดที่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 4 ต.บ้านใหญ่ อ.บ้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เป็นคนละคนกัน บ้านที่ท่านไปถ่ายรูปมานั้นมันผิด ท่านระวังตรงนี้หน่อยจะทำอะไร อย่าทำด้วยความมันส์หรือความคึกคะนอง ท่านละเอียดหน่อย การกล่าวถึงบุคคลที่ 3 ไม่ว่าจะเป็น น.ส.วิภาดาหรือคู่สมรสเขา เขาคือผู้ที่ร่วมกันก่อตั้งบริษัทมากับผม และธุรกิจอะไรก็ตามที่ร่วมกันก่อตั้งมากับผม ผมไม่เคยใช้งานลูกน้องฟรี ผมถือว่าเข้าเป็นหุ้นส่วนกับผม แต่วันหนึ่งที่ผมต้องเคลียร์ตัวเอง อะไรที่หมิ่นเหม่ผมไม่ยุ่ง ผมขายหุ้นให้เขาไป 51 ล้าน ผู้ถือหุ้นตลาดคลองเตยก็มีตั้งหลายคน โดยที่การชำระผมก็ว่ากันมาจะชำระเท่าไร เป็นงวดเท่าไร อะไรก็ว่ามา” ร.อ.ธรรมนัสกล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวยืนยันว่า "น.ส.วิภาดาเป็นคนมีความรู้ความสามารถ เขาจบตั้งปริญญาตรี ดังนั้นก็อย่าไปดูถูกความสามารถเขาอย่างนั้น และขอยืนยันว่าตัวเองจะไม่ทำอะไรที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมายอย่างแน่นอน"
“ประเด็นต่างๆที่ท่านร้องมานั้นตอนนี้ก็มีคนมาร้องอยู่แล้วก็คือคุณเอกชัย (ไม่ระบุนามสกุล) เขาร้องไปทุกที่ ร้องไปผู้ตรวจการแผ่นดิน ร้องไปที่ กกต.แต่ผมก็ไม่เคยจะตำหนิคุณเอกชัยแม้แต่ครั้งเดียว ผมถือว่าเขาเป็นนักต่อสู้และนักพิสูจน์ความจริงให้สังคมได้เห็น” ร.อ.ธรรมนัสระบุ
@ ณัฐชา เปิดแถลงอีกรอบ ยัน ธรรมนัส ตอบไม่ต้องคำถาม
ต่อมาในช่วงบ่ายวันที่ 27 ก.พ.2563 นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ได้เปิดแถลงข่าวโต้แย้งคำชี้แจง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถึงเรื่องการถือหุ้นในบริษัทตลาดคลองเตย 2551 และเรื่องรายได้ของ ร.อ.ธรรมนัส ว่า ร.อ.ธรรมนัสยังไม่ได้ชี้แจงในประเด็นเรื่องการสำแดงภาษีและรายได้ต่อกรมสรรพากร เมื่อเดือน ธ.ค. 2561 เพราะผ่านไปแค่ประมาณ 6 เดือน เมื่อเดือน พ.ค. 2562 ร.อ.ธรรมนัสได้สำแดงรายได้เพิ่มปีละ 36 ล้านบาท เฉลี่ยเดือนละ 3 ล้านบาท ชี้ว่าคำชี้แจงของ ร.อ.ธรรมนัส เรื่องรายได้จากการขายสลากนั้นไม่เป็นความจริง เพราะถ้าหากเป็นความจริงแสดงว่า ร.อ.ธรรมนัสได้สำแดงรายได้ต่อกรมสรรพากรเป็นเท็จ
“ผมมีงบการเงินของบริษัทตลาดคลองเตย 2551เขียนไว้ชัดเจนว่าทำสัญญากับการท่าเรือของประเทศไทย ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงคมนาคม ซึ่งประเด็นนี้ชัดเจนว่าท่านเป็นคู่สัญญากับรัฐในการเช่าพื้นที่ งบการเงินของท่านที่ส่งในปี 2561 ท่านก็ไม่พูดถึง แต่ผมกำลังพูดประเด็นคู่สัญญาที่บริษัทท่านได้ไปยื่นต่อสรรพากร”
นายณัฐชา แถลงต่อว่า ที่ ร.อ.ธรรมนัส ชี้แจงว่า น.ส.วิภาดา เมืองโคตร ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทตลาดคลองเตยฯเกิดที่ จ.มุกดาหาร แต่สิ่งที่ยืนยันแล้วและ ร.อ.ธรรมนัสได้พูดถึงก็คือ บ้านที่ น.ส.วิภาดาได้ทำบุญและเป็นบ้านหลังที่เพิ่งจะซื้อหุ้นมาในมูลค่า 51 ล้านบาท น.ส.วิภาดาได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้จริงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสก็ไม่ตอบ น.ส.วิภาดาเป็นนอมินีจริงหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสก็ไม่ตอบ
นายณัฐชา ยังระบุด้วยว่า ที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า น.ส.วิภาดา มีหลายคน แต่ น.ส.วิภาดา ที่ตนนำมาเปิดเผยเสื้อยูนิฟอร์มเขียนชัดเจนว่าอยู่บริษัท ลีเกิ้ลโปรเฟสชั่นแนล จำกัด มีตำแหน่งชัดเจนเป็นผู้ช่วยฝ่ายการเงิน ซึ่งรัฐธรรมนูญเขียนชัดเจนในมาตรา 184 ว่าเป็นคู่สัญญากับรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสัมปทานหรือไม่ ดังนั้นไม่ว่าจะได้รับสัมปทานหรือไม่ หรือแค่เป็นคู่สัญญากับทางรัฐเท่านั้นก็มีค่าเท่ากัน ก็คือผิด และจากเอกสาร บอจ.5 ระบุชัดว่า น.ส.วิภาดาถือหุ้น 510,000 หุ้นชัดเจน ร.อ.ธรรมนัส ก็บอกว่า น.ส.วิภาดาอยู่มาตั้งแต่ก่อตั้ง ซึ่งอาจจะอยู่มาตั้งแต่ก่อตั้งจริง แต่ตอนก่อตั้งนั้นจากการตรวจสอบพบว่าถือหุ้นแค่ 1 เปอร์เซ็นต์
นายณัฐชา ยังชี้แจงด้วยว่า “กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กำหนดไว้ว่าต้องมีผู้ถือหุ้น 3 คน อีก 1 คน 2 คนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อจะให้ครบ 3 ท่านก็เอาพนักงานฝ่ายบัญชีมาถือหุ้น 1เปอร์เซ็นต์แล้วหลังจากนั้นบริษัทได้รับคู่สัญญาก็มีมูลค่าทางเศรษฐกิจขึ้นมา มีทรัพย์สินเยอะขึ้นมาเขาก็เอาตัวประกอบ 1 เปอร์เซ็นต์ออกไป แล้วก็ผู้ถือหุ้นเข้ามา แต่ต่อมาท่านต้องไปดำรงตำแหน่งทางการเมือง และบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ชัดเจน และท่านต้องหลุดออกจากตำแหน่ง ส.ส. และตำแหน่งรัฐมนตรีโดยชัดเจน ท่านจึงต้องยักย้ายถ่ายโอนไปให้นอมินี เพราะผลประโยชน์มหาศาลจนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดสัญญาซึ่งก็คือปี 2571 ท่านยังคงไว้ ถามให้ประชาชนเข้าใจง่ายๆวันนี้บริษัทตลาดคลองเตยฯได้กำไรเท่าไร เข้ากระเป๋าวิภาดาหรือกระเป๋าท่าน เท่านั้นเอง แต่คำถามพวกนี้กลับไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด” นายณัฐชาระบุ
อ่านประกอบข่าวประเด็นเรื่องการถือหุ้นตลาดคลองเตย ของสำนักข่าวอิศรา ที่นี่ :
มีคูหาเล็กๆ ก็ซื้อหุ้นได้! 'ธรรมนัส' แจงโอน บ.ตลาดฯ ให้กลุ่มนักลงทุนไม่ใช่แค่ 'วิภาดา'
'อิศรา'ลุยโคราช! เปิดบ้านคนรับโอนหุ้นตลาดคลองเตย 51 ล.ภรรยา'ธรรมนัส' ห้องแถวชั้นเดียว
เผยโฉม บ.ตลาดคลองเตย หญิงรับโอนหุ้น 51 ล.-ผู้ช่วยแจง 'ธรรมนัส-เมีย' ยุติบทบาทเป็นปีแล้ว
ใช้ที่อยู่ร้านน้ำปั่นจดทะเบียนตั้ง! ตามไปดู บ.พลังงาน หญิงรับโอนหุ้นเมีย‘ธรรมนัส’ 51 ล.
แปลงโฉนด-ทรัพย์สินเป็นหุ้น! เบื้องหลัง โรงแรม ‘ธรรมนัส’ ก่อนโอนให้ลูกน้อง
ผู้ช่วย ส.ส.‘ธรรมนัส’ โผล่ถือหุ้นอีก 2 แห่ง-โรงแรมด้วย ใช้ที่ตั้งเดียวบ้าน รมช.เกษตรฯ
INFO: โครงข่ายโอนหุ้น 16 บริษัท ธรรมนัส พรหมเผ่า
หญิงผู้รับโอนหุ้น 3 บริษัท‘ธรรมนัส’ โผล่เป็นผู้ช่วย ส.ส.
เปิดข้อมูล ‘ธรรมนัส-อริสรา’เมียคนแรก โอนหุ้น 16 บริษัท ให้ใคร 7 คน ?
ส่องของสะสม ‘ธรรมนัส’- 2 เมีย! ‘จุ๊บจิ๊บ’ขับ PORSCHE หิ้วกระเป๋าแบรนด์ดัง 42 ใบ
'ธรรมนัส’แจ้ง ป.ป.ช. เมีย 2 คน ‘อริสรา - น้องจุ๊บจิ๊บ’ - รายได้ขายหวยเดือนละ 3 ล.
บ.อสังหาฯ จ.พะเยา ‘ธรรมนัส’ รับโอนหุ้นจากกลุ่ม‘เสี่ยเพ้ง’
รู้หรือไม่? สโมสรฟุตบอลพะเยา เอฟซี ผู้ถือหุ้นใหญ่ ไม่ใช่ ‘ธรรมนัส พรหมเผ่า’
เปิดธุรกิจ‘จุ๊บจิ๊บ-ธนพร’หวานใจ‘ธรรมนัส’เป็น กก. บ.ดูแลตลาด-ถือดีเอ็นเอฯ 52 ล.หุ้น
พล.อ.ไตรรงค์ ในธุรกิจรักษาความปลอดภัย ‘ธรรมนัส’
เช็กธุรกิจขายหวย‘ธรรมนัส’ เปลี่ยนผู้ถือหุ้นหลายครั้ง - ปี 57 รายได้สูงสุด 1,400 ล.
‘ธรรมนัส’โอนหุ้นธุรกิจค้าหวยให้ 2 หญิงสาว ลูก‘เจ๊แดง’- คนในธรรมนัสกรุ๊ป
เปิดขุมข่ายธุรกิจล่าสุด ‘ธรรมนัส’ 17 บริษัท อู้ฟู่หลายร้อยล้าน
อ่านประกอบประเด็นเรื่องวุฒิการศึกษาของ ร.อ.ธรรมนัส:
สืบค้นข้อมูล มหาวิทยาลัย 'วานูอาตู' ธรรมนัส -แจ้งปิดตัวแล้วเดือน ก.ย. 60
เปิดวาร์ป ม.แคลิฟอร์เนีย ผู้ให้ปริญญาเอก 'ธรรมนัส' มีที่อยู่ 3 แห่ง-ช่วยผู้อพยพด้วย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage