อนุทิน ชาญวีรกูล: แจง 3 ปมโควิด-19 ถ้าระบาดไทยรับไหวไหม-ทำไมยังรับ นทท.จีน?
“...รัฐบาลเพิ่มสมรรถนะการคัดกรองผู้ป่วย นำผู้ติดเชื้อออกจากกลุ่มเสี่ยง ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนที่ท่าอากาศยานไทยทุกแห่ง มีการอนุมัติเพิ่มเครื่องเทอร์โมสแกนให้เพียงพอกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ถือว่าเพียงพอ อย่างไรก็ดีผู้โดยสารทางธุรกิจลดอย่างมีนัยสำคัญ การเดินทางออกนอกประเทศของไทย ถ้าคนไทยทนสักนิด ไม่เดินทาง ไม่ไปเสียดายค่าทัวร์ที่จองไปแล้ว ตรงนี้จะลดอัตราผู้ป่วยเพิ่มมากไปอีก จึงขอความร่วมมือในส่วนนี้ด้วย...”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) : นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้ชี้แจงข้อเท็จจริงแทน 3 กรณีเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ดังนี้
----
หนึ่ง กรณีรับคนไทยกลับจากเมืองอู่ฮั่น
นายอนุทิน ระบุว่า ตั้งแต่ทราบเรื่องนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งถึง รมว.สาธารณสุขให้รีบหาทางนำพี่น้องกลับไทยโดยเร็ว มีการประสานกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเหล่าทัพต่าง ๆ เพื่อจัดสถานที่ทุกอย่างให้พร้อม ตอนแรกเราจะใช้เครื่องบินกองทัพอากาศไปรับ แต่ทางการจีนขอร้องว่าขอให้เป็นเครื่องบินพาณิชย์ จึงได้รับความร่วมมืออย่างดีกับสายการบินแอร์เอเชีย โดยซีอีโอของแอร์เอเชียได้ให้เครื่องบินเราก่อนที่จะขอ เพื่อนำไปรับคนไทยกลับโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ เลย จึงไม่มีทางเลือก คณะแพทย์พร้อมแล้ว จึงหาที่กักกันโรค 14 วัน กองทัพเรือจัดหาสถานที่ให้อย่างดี ปฏิบัติการเสร็จสิ้นในวันเดียว ทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีผู้ป่วย 1 คนที่แสดงอาการ จึงกักกันเพื่อรักษาให้หายป่วย หลังจากนั้นอีก 137 คนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย
สอง กรณีไม่ปิดกั้นนักท่องเที่ยวจากจีน
นายอนุทิน ระบุว่า ประเทศไทยมีความคิดจะป้องกัน แต่การกระทำใด ๆ ก็ตามต้องนึกถึงปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัย ไม่ว่าเรื่องของเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เมื่อติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วย ในส่วนของไทยเองเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด จึงมั่นใจว่า ขณะนั้นที่โรคกำลังอุบัติขึ้นมา เราสามารถคัดกรอง คัดแยกผู้ป่วย ช่วงเวลานั้นทางการจีนได้สั่งการว่าไม่ให้มีการเดินทางของชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นแหล่งอุบัติโรคนี้มาไทย ทำให้นักท่องเที่ยวลดลงโดยอัตโนมัติ สายการบินระหว่างประเทศ ทั้งไทยและจีน ยกเลิกเที่ยวบินเมืองนี้ และเมืองสำคัญที่ระบาด
การควบคุมจำนวนนักท่องเที่ยว และสามารถคัดแยกคัดกรองของไทย เป็นไปด้วยประสิทธิภาพ ไม่มีใครหลุดออกมา สามารถทำได้ ดังนั้นสิ่งที่เราได้รับคือ สามารถรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่าง 2 ประเทศ และด้วยความสัมพันธ์ที่ดีมีมายาวนาน สังเกตได้ว่า สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย แถลงการณ์ชื่นชม ขอบคุณรัฐบาลไทย ในการรักษาความสัมพันธ์ เรายืนเคียงข้างพวกเขา ให้กำลังใจเขา ดูแลรักษาพี่น้องประชาชนชาวจีนที่ป่วยในไทยได้เป็นอย่างดี จึงได้รับคำชื่นชมจากทางการจีน
“เมื่อทุกอย่างเข้าสู่สภาวะปกติ จีนและไทย จะมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และจะมีการเกื้อกูลกันให้เกิดขึ้นได้อย่างแน่นอน”
สาม กรณีพาหะเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระดับ 3 รัฐบาลจะควบคุมได้หรือไม่ มีมาตรการควบคุมอย่างไร
ไทยตอบโต้สถานการณ์โรคระบาดได้อย่างรวดเร็ว มีขั้นตอนเหมาะสม เจ้าหน้าที่ ข้าราชการ แพทย์ เทคนิคการแพทย์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขทุกท่าน ทำงานอย่างหนัก ทำงานอย่างทุ่มเท ไม่รู้จักเสาร์อาทิตย์ ทำเพื่อให้เกิดความป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด คาดการณ์สถานการณ์ล่วงหน้า เตรียมแผนล่วงหน้า เพื่อให้สถานการณ์ไปข้างหน้า ไม่ต้องตามล้างตามเช็ด เตรียมตัวรองรับสถานการณ์เป็นอย่างดี ประสบการณ์จากพวกเขาเหล่านั้นเคยผ่านมาก่อน สมัยโรคไข้หวัดนก ซาร์ส เมอร์ส และไข้หวัดใหญ่ 2019
รัฐบาลเพิ่มสมรรถนะการคัดกรองผู้ป่วย นำผู้ติดเชื้อออกจากกลุ่มเสี่ยง ติดตั้งเครื่องเทอร์โมสแกนที่ท่าอากาศยานไทยทุกแห่ง มีการอนุมัติเพิ่มเครื่องเทอร์โมสแกนให้เพียงพอกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว ถือว่าเพียงพอ อย่างไรก็ดีผู้โดยสารทางธุรกิจลดอย่างมีนัยสำคัญ การเดินทางออกนอกประเทศของไทย ถ้าคนไทยทนสักนิด ไม่เดินทาง ไม่ไปเสียดายค่าทัวร์ที่จองไปแล้ว ตรงนี้จะลดอัตราผู้ป่วยเพิ่มมากไปอีก จึงขอความร่วมมือในส่วนนี้ด้วย
รัฐบาลยกระดับการเฝ้าระวัง ลดการแพร่เชื้อในชุมชน สอบสวนสืบสวน ติดตามผู้สัมผัสทุกคนเข้มข้น เตรียมพร้อมในการจัดเตรียมการรักษาพยาบาล ไม่ว่าเวชภัณฑ์ ครุภัณฑ์ แพทย์ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ
เมื่อบ่ายวันนี้ (26 ก.พ. 2563) ผมได้ลงนามในประกาศให้โรคโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตราย อย่าไปตกใจ เป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ไม่ต้องรอให้เชื้อปะทุจนคุมไม่ได้จึงค่อยประกาศ แต่เราประกาศใช้มาตรการเข้มข้นรองรับการติดต่อของโรคนี้ สิ่งที่ทำนั้นคือศักยภาพของรัฐบาล ที่ทุ่มสรรพกำลังทุกอย่างให้เกิดความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่า ทุกท่านจะมีความปลอดภัย พร้อมรักษาการคัดแยก การดูแลผู้ป่วยทุกคน เรามีข้อมูลทุกอย่างที่จะติดตามไปตรวจสอบทุก ๆ คน เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ถ้าติดโรค ถ้าติดเชื้อนี้แล้ว จะรักษาได้เป็นอย่างดี
ด้วยประกาศฉบับนี้ ประชาชนอาจไม่ได้รับความสะดวกบ้าง แต่มั่นใจได้รับความปลอดภัยตอบแทน เอาความปลอดภัยก่อนเอาใจประชาชนทีหลัง ความปลอดภัยสำคัญที่สุด ขอให้ท่านทั้งหลายให้กำลังใจกับบรรดาข้าราชการ แพทย์ และเจ้าหน้าที่ทุกคนของกระทรวงสาธารณสุข และผู้เกี่ยวข้องทุกคนที่ช่วยกันทำงานให้พี่น้องประชาชน ให้เกิดความปลอดภัยจากโรคนี้ ตามสิ่งที่เรียนดังกล่าว รัฐบาลพร้อมรับทุกสถานการณ์ ตอนนี้ยังไม่ใช่ถึงขั้นระดับ 3 แต่ยังระดับ 2 อยู่ แต่ใช้มาตรการเบื้องต้นให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
อ่านประกอบ :
แจง ส.ส.หญิง พปชร.เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นเป็นไข้หวัดธรรมดา-อยู่ในการดูแลแพทย์ตลอด
หุ้นไทยดิ่งหนัก 72.69 จุด กังวลไวรัสระบาดทั่วโลก-พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทย
ท่องเที่ยว ม.ค.บวก 2.46% เอกชนรับ 'สาหัส' หลังพบการติดเชื้อ 'คนสู่คน' ในไทย
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/