พบคนไทยนอมินีต้องจัดการ! 'จุรินทร์' แจงส.ส.เชียงราย แฉทุนจีนฮั้วล้งลำไย-โกย 200 ล.
ส.ส.เชียงราย แฉขบวนการทุนจีนฮั้วล้งลำไย มี 3 เจ้าใหญ่ ถือหุ้นไขว้กันกดราคารับซื้อสินค้าเกษตรกร โกยรายได้รวมกว่า 200 ล้าน ด้าน 'จุรินทร์' รมว.พาณิชย์ ยันมีมาตรฐานควบคุมดูแล ต้องทำตาม กม.ธุรกิจต่างด้าว ห้ามขายในประเทศ ลั่นพบคนไทยเป็นนอมินีต้องจัดการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org)รายงานว่า ในระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2563 นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย อดีตสังกัดพรรคอนาคตใหม่ ได้ลุกขึ้นอภิปรายปัญหาการจัดการเรื่องล้งลำไยภายใต้การบริหารของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ปล่อยให้กลุ่มทุนจีนเข้ามาเอาเปรียบเกษตรกรของประเทศไทย โดยนับตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปี 2562 ราคาส่งออกลำไยต่อตันนั้นมีการพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ หรือประมาณ 35,000 บาทต่อตัน หรือ 35 บาท ต่อกิโลกรัม แต่ราคาลำไยหน้าสวนนั้นลดลงไปอยู่ที่ 13 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจุดที่น่าสนใจเกี่ยวกับข้อมูลราคาลำไยหน้าสวนคือวในช่วงการบริหารรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ มีการเชื้อเชิญกลุ่มทุนจีนให้เข้ามาซื้อผลไม้ไทยกันเยอะๆ
นพ.เอกภพกล่าวต่อว่า แต่เมื่อทุนที่เข้ามาได้ครอบครองตลาดได้ทั้งหมดก็ได้ฮั้วกันกดราคาลำไยจนทำให้ราคาในปัจจุบันลดไปถึง 13 เปอร์เซ็นต์ดังกล่าว
“ที่ลำพูนมีล้งลำไยใหญ่อยู่ 3 เจ้าซึ่งเป็นล้งลำไยของนายทุนจีน และเมื่อเข้าไปดู จะพบว่ามีผู้ถือหุ้นในบริษัททั้ง 3 เจ้าไขว้ไปไขว้มา นายจ้าว A ถือหุ้นบริษัทแรก ฮองX 68.38 เปอร์เซ็นต์ อินX 50 เปอร์เซ็นต์ ต้าX60เปอร์เซ็นต์ มีนางจ้าวอีกคนถือหุ้น ฮองX 10.52เปอร์เซ็นต์ ต้า X 20 เปอร์เซ็นต์ มี นางสาวชื่อไทยอีกคนถือหุ้นฮอง X 0.03 เปอร์เซ็นต์ อิน X 35 เปอร์เซ็นต์ และต้า X 25เปอร์เซ็นต์ ข้อมูลนี่บอกอะไร เมื่อทั้ง 3 บริษัทใหญ่นั้นมีผู้ถือหุ้นคนเดียวกันสลับกันไปสลับกันมา” มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องไปแข่งกันซื้อลำไยราคาสุงๆ ก็ฮั้วกันสิ กดราคาลำไยหน้าสวน ทำให้ราคาที่ชาวไร่ชาวสวนลำไยขายได้อยู่ที่ 10-12 บาทต่อกิโลกรัมเท่านั้น แล้วนำไปขาย 30-35 บาท ต่อกิโลกรัม” นพ.เอกชัยกล่าว (ดูภาพประกอบ)
นพ.เอกภพกล่าวต่อว่ามีการเล่นแร่แปรธาตุทำให้ไม่มีกำไรเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะทั้ง 3 บริษัทมีรายได้รวม 200 ล้านบาท ซึ่งก็แปลกเพราะมีบริษัทที่ไหนซื้อของมา 10 บาท ขายไป 35 บาท แต่ได้กำไรไปปีหนึ่งไม่ถึงล้านบาท มีบริษัทหนึ่งที่แจ้งผลกำไรติดลบด้วยซ้ำไป โดยมีอัตราการทำกำไรไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตัวเลขที่ได้นำมากล่าวอ้างนั้นไม่ใช่แค่ปีเดียวของบริษัทเท่านั้น แต่สามารถย้อนหลังไปได้ถึง 4 ปี ซึ่งวิธีการแบบนี้เรียกว่าการ “Transfer Pricing” คือการทำให้กำไรไม่เกิดในประเทศไทย ทั้งๆที่บริษัทใช้ทั้งแรงงาน น้ำ ไฟ ของประเทศไทย แต่กลับไม่ได้เกิดกำไร ภาษีให้เป็นประโยชน์กับประเทศไทยเลย ซึ่งรูปแบบการทำธุรกิจแบบนี้ไม่ได้เกิดเฉพาะลำไยอย่างเดียว แต่เกิดกับผลผลิตอื่นๆทั่วประเทศไทย อาทิ สับปะรด ยางพารา ทุเรียน มังคุด
“สิ่งที่เกิดขึ้นแบบนี้ ผมมั่นใจว่าคุณประยุทธ์ซึ่งเป็นหัวหน้าทีเศรษฐกิจนั้นรู้ เพราะเป็นสิ่งที่เกิดทั่วประเทศ แต่ถามว่าได้ทำอะไรหรือไม่ ทำไมถึงไม่ทำอะไร เพราะความสัมพันธ์ ที่เราวางไว้ว่าเป็นมด ไม่กล้าไปยุ่งกับราชสีห์ใช่หรือไม่” นพ.เอกภพกล่าว
ภายหลังการอภิปรายของนพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย ดังกล่าว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลุกขึ้นชี้แจง เรื่องปัญหาล้งของกลุ่มทุนจีนเข้ามาเอาเปรียบและกดราคาซื้อของเกษตรกรไทย ว่า ต้องยอมรับว่าเป็นความจริงที่มีล้งจีนมาประกอบการอยู่ในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง แต่รัฐบาลก็ไม่ได้ปล่อยให้ล้งจีนเหล่านี้ทำอะไรตามอำเภอใจ จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
" ถ้าหากพบการเอาเปรียบ ไม่เป็นธรรมต่อเกษตรกร กระทรวงพาณิชย์ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไปและนอกจากนี้ทุกล้งของชาวต่างชาติจะต้องทำตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวอย่างเคร่งครัด อีกทั้งล้งต่างชาติจะต้องซื้อผลผลิตจากเกษตรกรไทยเพื่อส่งออกเท่านั้น ไม่สามารถจะมาขายในประเทศได้ ยกเว้นจะได้รับอนุญาต กรณีที่คนไทยไปร่วมทุนกับต่างชาติถือเป็นนิติบุคคลไทย ถ้าพบเข้าข่ายเป็นนอมินีจะต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป"
นายจุรินทร์ ยังกล่าวต่อว่า "ในฐานะที่รับผิดชอบเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร รวมถึงลำไย ขอเรียนว่าในฤดูกาลผลิตที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์มีการประชุม กับล้งและเกษตรกรที่ลำพูน ก็พบว่าก่อนหน้านี้เวลาล้งจะปิดราคารับซื้อจะปิดราคาตอนเย็น เกษตรกรตัดลำไยมาตอนเช้า ก็ไมรู้เรื่องการปิดราคาว่าจะปิดเท่าไร เราจึงบังคับให้ปิดราคาตอนเช้าเพื่อให้เกษตรกรได้รู้ล่วงหน้าว่าวันนี้ควรจะตัดลำไยหรือไม่ตัด จะตัดกันกี่โมงดี ถ้าหากลำไยยังไม่ถึงกับสุกก็ยังตัดไม่ได้ และจากการเข้าไปแก้ปัญหา ราคาลำไยก็ดีขึ้นตามสมควร โดยวันที่ 4 ส.ค.ลำไย AA กิโลละ 33.50 บาท A 23.50 บาท B 12.50 บาท ถึงราคาเหล่านี้จะไม่ดีเลิศ แต่นี่ก็คือผลของการแก้ไขปัญหา และเมื่อวันที่ 8 ก.พ. ก็ได้มีการไปประชุมที่จันทบุรีกับเกษตรกรเพิ่มเติม จนได้ข้อสรุปเพื่อจะนำมาแก้ปัญหาราคาผลผลิตของประเทศจำนวน 11 ประการ" รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/