ทำถูกกม.-สอดคล้องหลักสากล! อธิบดีกรมคุก แจงปมคุมขังพยานคดีกองทุน1MDB
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ แจงปม'ช่อ-พรรณิการ์ วาณิช' อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวหากักขังพยานสำคัญคดีกองทุน 1MDB ยันทำถูกต้องตามกม.-สอดคล้องหลักสากลทุกประการ
สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานว่า เมื่อเวลา 14:00 น. วันที่ 24 ก.พ. 2563 กรมราชทัณฑ์เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เรื่อง “กรมราชทัณฑ์ชี้แจงการควบคุมตัวผู้ต้องขังที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีอาชญากรรมทางการเงิน 1MDB” อ้างคำให้สัมภาษณ์ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ตามที่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคอนาคตใหม่ ได้กล่าวหาว่า รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจมีส่วนปกปิดซ่อนเร้นคดีอาชญากรรมทางการเงิน 1MDB (1 Malaysia Development Berhad) หรือกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของมาเลเซีย โดยทางการไทยมีส่วนร่วมในการจับกุมคนบริสุทธิ์เข้าคุก บิดผันกระบวนการยุติธรรมและทำลายความสัมพันธ์กับหลายประเทศ นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
1. กรมราชทัณฑ์ โดยเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้รับตัวนายจัสโต้ ซาเวียร์ อันเดร ไว้ในการควบคุม เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2558 ตามหมายเลขขังของศาล ต่อมามีคำพิพากษาของศาลอาญากรุงเทพใต้ ลงวันที่ 17 ส.ค. 2558 (ตามหมายเลขดำที่ อ.2657/2558 คดีหมายเลขแดงที่ อ.2737/2558) ตัดสินให้จำคุกผู้ต้องขังรายดังกล่าว ในข้อหารีดเอาทรัพย์ (ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 338,80) โดยมีพฤติการณ์กล่าคือ จำเลยเป็นลูกจ้าง บริษัท ปิโตซอุดิ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด (ผู้เสียหาย) ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้บริหาร เมื่อผู้เสียหายเลิกจ้างจำเลยตามกฎหมายแล้ว จำเลยกลับขู่เข็ญว่า จะเปิดเผยความลับของผู้เสียหาย ทั้งจะขายข้อมูลความลับดังกล่าวให้กับบุคคลภายนอกหากผู้เสียหายไม่ยอมจ่ายเงิน จำนวน 2.5 ล้านฟรังก์สวิส (หรือประมาณ 80.6 ล้านบาท) การกระทำของจำเลยถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงและสามารถก่อให้เดิกความเสียหายทางธุรกิจแก่ผู้เสียหายได้ จึงลงโทษจำคุก 6 ปี จำเลยให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 3 ปี
2. ระหว่างถูกคุมขัง กระทรวงต่างประเทศได้ส่งหนังสือคำร้องขอโอนตัวนายจัสโต้ฯ เพื่อกลับไปรับโทษต่อยังประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ตามสนธิสัญญาระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสวิสเซอร์แลนด์ ว่าด้วยการโอนตัวผู้กระทำผิด ซึ่งคณะกรรมการพิจารณาโอนนักโทษ ครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 14 ก.ย. 2559 ได้มีมติไม่เห็นชอบให้โอนตัวนายจัสโต้ฯ เนื่องจากคุณสมบัติขัดต่อพระราชบัญญัติการปฏิบัติพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการดำเนินการตามคำพิพากษาคดีอาญา พ.ศ. 2527 มาตรา 25(3) กล่าวคือ โทษจำคุกที่นักโทษต่างประเทศจำต้องรับต่อไปในราชอาณาจักรเหลืออยู่น้อยกว่า 1 ปี ของโทษจำคุกทั้งสิ้นตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง ทั้งนี้ เป็นไปตามกฎหมายภายในของไทย มิได้มีประเด็นกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแต่อย่างใด
3. นายจัสโต้ฯ ถูกจำคุกอยู่ประมาณ 1 ปี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. 2558-20 ธ.ค. 2559 และได้รับการปล่อยตัวไปตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องจากในวโรกาสสำคัญของชาติ 2 ฉบับ ในปี พ.ศ. 2559 โดยกรมราชทัณฑ์ได้มอบตัวนายจัสโต้ฯ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยมีเจ้าหน้าที่สถานทูตสวิสเซอร์แลนด์ เข้าร่วมสังเกตการณ์นายจัสโต้ฯ ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไป เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2559 ด้วยเที่ยวบินที่ TG 970
อนึ่ง ระหว่างการถูกควบคุมตัว เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ได้อนุญาตให้ผู้ต้องขังดังกล่าว เขียนรายชื่อบุคคลในครอบครัวและเพื่อนที่เจ้าตัวประสงค์จะได้เข้าเยี่ยมไว้ในแบบฟอร์มของทางเรือนจำจำนวน 10 รายชื่อ การเข้าเยี่ยมของบุคคล นอกเหนือจากรายชื่อดังกล่าวก็มีเพียงแต่การเข้าสอบสวนปากคำเพิ่มเติมในคดีอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยพนักงานสอบสวนกับพวก ซึ่งมีหนังสือราชการขออนุญาตด้วยทุกครั้ง
จากกรณีดังกล่าวอาจมีการทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงการดำเนินงานของกรมราชทัณฑ์ จึงขอยืนยันว่ากระบวนการควบคุมตัวนายจัสโต้ฯ ไปจนถึงการปล่อยตัวเป็นการดำเนินการตามกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรมของไทยอย่างถูกต้องสอดคล้องกับหลักสากลทุกประการ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/