‘วิรไท’ กระตุ้นรัฐเร่งอัดฉีดงบปี 63 เกาะติด ‘ไวรัส’ ก่อนทบทวนจีดีพี มี.ค.นี้
‘วิรไท’ ย้ำ ‘แบงก์ชาติ’ ขอประเมินการแพร่ระบาด ‘ไวรัสโควิด’ ก่อน ทบทวนจีดีพีปี 63 ในเดือนมี.ค.นี้ กระตุ้นภาครัฐอัดฉีดงบปี 63 ช่วยพยุงเศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 18 ก.พ. นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยถึงกรณีที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ฯ ปรับลดจีดีพีปี 2563 เหลือเติบโต 1.5-2.5% โดยมีค่ากลาง 2% ต่ำกว่าที่ธปท.คาดว่าจะเติบโตได้ 2.8% ว่า ในเดือนมี.ค.นี้ ธปท.จะทบทวนประมาณการเศรษฐกิจปี 2563 ใหม่ จากเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 2.8% เนื่องจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
“จะมีการทบทวนประมาณการใหม่เดือนมี.ค. เนื่องจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบค่อนข้างมาก ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมที่อยู่ในซัพพลายเชนด้วย ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการแพร่ระบาดยังไม่นิ่ง การแพร่ระบาดยังคงเพิ่มขึ้น แต่ในอีกด้วยหนึ่งรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ มีการจัดทำมาตรการเสริมต่างๆ เพื่อช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากไวรัส ทั้งผู้ประกอบการ และการจ้างแรงงาน ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยได้”นายวิรไทกล่าว
อย่างไรก็ตาม การที่ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาเรียบร้อยแล้ว จากเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ที่ยังไม่แน่ใจว่ายาวแค่ไหน ตรงนี้จะทำให้มีการอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบเศรษฐกิจได้เร็วมากขึ้น และเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่จะต้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ หลังจากพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 มีผลบังคับใช้ แต่ก็ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ต้องเตรียมการรับมือ
นายวิรไท ระบุว่า ในช่วงที่การแพร่ระบาดของไวรัสยังไม่คลี่คลาย ส่วนตัวเห็นว่าจังหวะนี้เป็นโอกาสที่สำคัญในยกระดับ และการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย เพราะปัจจุบันยังมีคอขวดค่อนข้างมาก ทั้งขีดจำกัดในการให้บริการ และมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยว หากไทยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส โดยหันมาเน้นการยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยวและแก้ปัญหาคอขวดต่างๆ เช่น ระบบขนส่งมวลชน สนามบิน และบริการแหล่งท่องเที่ยว ก็จะเป็นโอกาสที่ดี
“การยกระดับคุณภาพการท่องเที่ยว นอกจากจะทำให้เกิดการลงทุนแล้ว ยังช่วยทำให้เรามีความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา”นายวิรไทกล่าว
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยหรือไม่ นายวิรไท กล่าวว่า “คงต้องรอดูสถานการณ์ โดยจะมีการประมาณการเศรษฐกิจในเดือนหน้า”
วันเดียวกัน นายวิรไท และ ฯพณฯ เจีย จันโต ผู้ว่าการธนาคารกลางกัมพูชา ร่วมเป็นประธานเปิดตัวบริการชำระเงินผ่าน QR Payment ข้ามประเทศ ซึ่งมีธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารพาณิชย์ในประเทศกัมพูชาที่ได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่เป็นธนาคารผู้ให้บริการ ได้แก่ Acleda Bank, Cambodia Commercial Bank (CCB) และ Foreign Trade Bank of Cambodia (FTB) ได้ร่วมกันพัฒนาบริการชำระเงิน Interoperable QR Code
นายวิรไท กล่าวว่า ธปท.มีการผลักดันระบบ e-Payment มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่ใช่แค่ส่งเสริมการใช้ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการส่งเสริมการใช้ e-Payment ข้ามประเทศด้วย โดยเฉพาะในภูมิภาคอาเซียน เพราะจะทำให้ต้นทุนการชำระเงินข้ามประเทศถูกลงมาก และอัตราแลกเปลี่ยนที่ได้จะถูกกว่าการไปแลกเงินตามเคาน์เตอร์แลกเงินต่างๆ
“ตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. เป็นต้นไป ชาวกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ นักท่องเที่ยว สามารถใช้โมบายแบงกิ้งแอปฯของธนาคารของเขาที่กัมพูชา สแกน QR Code ที่ร้านค้าในประเทศไทยได้ แล้วตัดบัญชีเรียลไทม์ และได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดีกว่า ส่วนนักท่องเที่ยวไทย นักธุรกิจไทย ก็สามารถใช้โมบายแบงกิ้งแอปฯของประเทศไทย สแกน QR Code ที่ร้านค้าในกัมพูชาและจ่ายเงินได้ทันทีเช่นเดียวกัน โดยจะทราบยอดเงินที่เป็นเงินกัมพูชา และยอดเงินที่เป็นเงินบาท”นายวิรไทกล่าว
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จะมีการเชื่อมโยงระบบพร้อมเพย์ (Prompt Pay) ของไทย เข้ากับระบบ Pay Now ของสิงคโปร์ ซึ่งจะทำให้คนไทย นักธุรกิจไทยและนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปสิงคโปร์ สามารถใช้โมบายแบงกิ้งแอปฯจ่ายผ่านระบบพร้อมเพย์ โดยสแกน สแกน QR Code ของสิงคโปร์ได้ เช่นเดียวกับผู้ที่ใช้โมบายแบงกิ้งแอปฯของสิงคโปร์ เวลาที่มาเมืองไทย ก็สามารถโมบายแบงกิ้งแอปฯ สแกน QR Code และจ่ายเงินได้ที่ตรงนั้นได้เลย
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินข้ามประเทศแล้วกับ 3 ประเทศ ได้แก่ ลาว กัมพูชา และญี่ปุ่น ซึ่งดำเนินการผ่านธนาคารพาณิชย์ไทยที่เป็นธนาคารตัวแทน หรือ Sponser Brand
อ่านประกอบ :
ธปท.เผยสภาพัฒน์หั่นจีดีพีปี 63 สะท้อนเศรษฐกิจชะลอตัว 'แรง'
‘สภาพัฒน์’ หั่นจีดีพี 63 โตแค่ 1.5-2.5% คาด 'ไวรัสโควิด' ทำนักท่องเที่ยวหาย 3.7 ล้านคน
ธปท.เผยปี 62 สินเชื่อธุรกิจหด-รายย่อยพุ่ง หนี้เสีย ‘บ้าน-รถ’ เพิ่ม
กระสุนพร้อม! ส่องแผนคลัง 5 ปี 'รบ.บิ๊กตู่' ชงกู้เงินเฉียด 4.4 ล้านล. หนุนลงทุน-กระตุ้นศก.
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/