ศาลฎีกาฯยกคำร้อง‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีเท็จ เหตุขาดอายุความ-เคยถูก ตร.ยุคบิ๊กโจ๊กสอบ
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง คดี ส.จ.นนทบุรี ‘เล็ก เมืองนนท์’ยื่นบัญชีทรัพย์สินเท็จ ป.ป.ช. ตอนรับตำแหน่ง เหตุขาดอายุความ 5 ปี ก่อนหน้าถูก ตร.ชุด ‘บิ๊กโจ๊ก’ยกกำลัง ปิดล้อมตรวจค้น ยึดอายัดทรัพย์กว่า 200 ล้าน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 22 มกราคม 2563 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาคดีการแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีนายสมคิด มากวงษ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นนทบุรี ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) ผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น โดยพิพากษายกคำร้อง เนื่องจากผู้ร้องมิได้ยื่นคําร้องและมิได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามายังศาลภายในกําหนด 5 ปี ย่อมเป็นการขาดอายุความ
คำพิพากษาระบุว่า ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้วินิจฉัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาเป็นผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจงใจ ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ และมีพฤติการณ์อันควรเชื่อได้ว่ามีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน หรือหนี้สินนั้น กรณีเข้ารับตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี อําเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ที่ดํารงอยู่ในปัจจุบันและให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 114, 188
พิเคราะห์คําร้องและเอกสารประกอบคําร้องแล้ว เห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องยื่นคําร้องขอให้ ลงโทษผู้ถูกกล่าวหาตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 แต่พระราชบัญญัติดังกล่าวซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542
โดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 167 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทําความผิดยังคงบัญญัติให้การกระทําตามคําร้อง เป็นความผิดอยู่และมีระวางโทษเท่าเดิม จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทําผิดบังคับแก่คดีนี้ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคหนึ่ง ส่วนมาตรการบังคับทางการเมืองตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81 ไม่เป็นคุณ จึงต้องใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 บังคับแก่คดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3 เมื่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 มิได้บัญญัติ อายุความไว้เป็นการเฉพาะ จึงต้องนําบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายอาญาว่าด้วยอายุความมาใช้แก่ ความผิดในคดีนี้ ดังนั้น ถ้าผู้ร้องมิได้ยื่นคําร้องและมิได้ตัวผู้ถูกกล่าวหามายังศาลภายในกําหนด 5 ปี ย่อมเป็นการขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 95 (4) เมื่อปรากฏตามบัญชีแสดง รายการทรัพย์สินและหนี้สินท้ายคําร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและ เอกสารประกอบต่อผู้ร้องกรณีเข้ารับตําแหน่งเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2555 และ ผู้ร้องให้เสนอเรื่องให้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งสมาชิก สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี ที่ดํารงอยู่ในปัจจุบันและให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้ถูกกล่าวหา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 81, 188 โดยไม่ดําเนินคดีอาญาเนื่องจากคดีในส่วนอาญาขาดอายุความแล้ว ดังนั้น สิทธินําคดีอาญามาฟ้องของผู้ร้องย่อมระงับไปแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (6) ประกอบพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารง ตําแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 8 วรรคสาม ที่ผู้ร้องมีคําขอให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ของผู้ถูกกล่าวหานั้น ถือเป็นมาตรการบังคับทางการเมืองอันเป็นการจํากัดสิทธิ ขั้นพื้นฐานของบุคคลซึ่งสืบเนื่องมาจากการกระทําความผิดทางอาญาดังกล่าว จึงนํามาตรการบังคับทาง การเมืองตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 มาบังคับแก่ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ พิพากษายกคำร้อง (คดีหมายเลขแดงที่ อม. 2/2563 วันที่ 22 ม.ค.2563)
สำหรับ นายสมคิด มากวงษ์ หรือ ส.จ.เล็ก เมืองนนท์ ก่อนหน้าที่ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2562 นายสมคิด กับพวก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม. ) และหลายหน่วยเข้าปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายนายทุนเงินกู้นอกระบบ กลุ่มนายสมคิด จับกุมผู้ต้องหา 10 ราย ยึดอายัดทรัพย์ทรัพย์สิน รถยนต์ 15 คัน บ้าน 5 หลัง โรงงานขยะรีไซเคิลจำนวน 1 แห่ง เครื่องเพชร และทองคำ 14 ราย รวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท และกำลังขยายผลหาผู้เกี่ยวข้องรายอื่น ตามข่าวรายงานแล้ว
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง:
ตามไปดู บ.ผู้ผลิตกาแฟให้ สจ.เล็ก เมืองนนท์ คน จ.ชัยภูมิ ถือหุ้นใหญ่
ปมทรัพย์สิน สจ.เล็ก - รง.ขยะ ขายกาแฟ ‘คนใกล้ชิด’ถือหุ้น ยื่นบัญชีฯ ป.ป.ช.หรือไม่?
ผู้ถือหุ้นใหญ่ล่าสุด รง.ขยะ-กาแฟ สจ.เล็ก อายุ 25 ปี ‘อิศรา’โทร.สัมภาษณ์ ปัดไม่ใช่เจ้าตัว
ผู้ก่อตั้ง บ.รง.ขยะ-ขายกาแฟ ที่แท้ เพื่อน ส.จ.เล็ก ร่วมทุนหาเงินทำค่ายมวย-ล่าสุดใช้ชื่อหลานคุม
แจ้งรายได้ 36,000 บาท รง.ขยะ สจ.เล็ก เมืองนนท์ -โชว์หราเจ้าของธุรกิจขายรถยนต์
โอน 4 ตลบ รง.ขยะรีไซเคิล ‘สจ.เล็ก เมืองนนท์’ ล่าสุด คน จ.อุทัยฯถือหุ้นใหญ่
ใครคือ สจ.เล็ก เมืองนนท์ นายทุนคดีปล่อยเงินกู้รายใหญ่ 200 ล.?
ไม่มีชื่อ สจ.เล็ก เมืองนนท์ ถือหุ้นใน รง.กำจัดขยะ-กาแฟ หลังโชว์ภาพหรา ปธ.กก.