'บิ๊กตู่'สรุปเหตุปะทะเดือดโคราช หลังวิสามัญผู้ก่อเหตุ รวมยอดเสียชีวิต 27 ราย เจ็บ 57
'บิ๊กตู่'สรุป ปม ‘จ่าทหาร’ ก่อเหตุบุกเข้าห้างดังกราดยิง พ.อ.-ผู้หญิง-ประชาชน เสียชีวิต 27 รายรวมหน่วยอรินทราช คนร้าย หลังส่ง 'คอมมานโด 904-หนุมาน-ฉก.นเรศวร' ลุยวิสามัญปิดฉาก จี้ถอดบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นอีก -สันนิษฐานเหตุคาดเกิดจากการทวงค่านายหน้าที่ดิน - สมาคมนักข่าวฯขอความร่วมมือสื่ออย่าถ่ายทอดสดการปฏิบัติการของ จนท.-ไม่สัมภาษณ์ผู้ติดอยู่ในห้าง
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. 2563 สื่อหลายสำนักรายงานตรงกันว่า เกิดเหตุคนร้ายบุกกราดยิงประชาชนในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยมีผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิตแล้วหลายราย สถานการณ์ขณะนี้ พบผู้ต้องสงสัยเป็นนายทหารชั้นประทวนยศ จ่าสิบเอก (จ.ส.อ.) ยังหลบซ่อนตัวอยู่ในห้างสรรพสินค้า Terminal 21 จ.นครราชสีมา โดยมีการจับตัวประกันอย่างน้อย 16 ราย ภายในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานปิดพื้นที่รอบบริเวณห้างสรรพสินค้าดังกล่าวเป็นระยะ 2 กิโลเมตร
@นายกฯสรุปเหตุการณ์กราดยิง เสียชีวิต 27 บาดเจ็บ 57 จี้ถอดบทเรียนไม่ให้เกิดขึ้นอีก
ความเคลื่อนไหวล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ ญาติผู้เสียชีวิตและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลค่ายสุรนารี, โรงพยาบาลกรุงเทพ และโรงพยาบาลมหาราชตามลำดับ โอกาสนี้นายกฯ ได้สอบถามอาการจากแพทย์และพยาบาล ขณะที่แพทย์ รายงานว่า คนไข้มีอาการปลอดภัยแล้ว จากนั้นนายกฯ กล่าวให้กำลังใจกับญาติผู้ที่ได้รับบาดเจ็บว่า ไม่ต้องกลัว ในทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ทางการแพทย์สามารถช่วยได้อยู่แล้ว สมัยก่อนทหารที่โดนยิงที่ไส้หมอยังช่วยไว้ได้
และต่อมาเมื่อเวลา 12.10 น. พล.อ.ประยุทธ์ แถลงภายหลังว่า ได้ติดตามสถานการณ์และรับทราบรายงานสถานการณ์มาโดยตลอด โดยระยะแรกใช้กำลังหรือพื้นที่ดูแลสถานการณ์และดูแลความปลอดภัยและได้สั่งการผู้บังคับบัญชาแต่ละหน่วยงานให้ดูแลอย่างเต็มที่ ทั้งตำรวจ ทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด อีกทั้งเมื่อวาน(8 ก.พ.) ตนมีความกังวลในเรื่องการใช้กำลังโดยกำชับให้ใช้มาตรการที่เหมาะสมและคำนึงถึงประชาชน ซึ่งการทำงานไม่ใช่เราไม่มีประสิทธิภาพแต่ต้องคำนึงถึงการช่วยเหลือประชาชนให้ปลอดภัยมากที่สุด เพราะในอาคารมีซอกมุมจำนวนมาก
"เมื่อคืนผมติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตลอดทั้งคืน มีคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดูแลสถานการณ์ มีการดำเนินการตามขั้นตอนในทุกระดับดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ให้มากที่สุด โดยมั่นใจในเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ต้องยอมรับว่าสถานการณ์ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย และต้องไม่มีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกเพราะไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น"นายกฯ กล่าว
นายกฯ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ได้มอบหมายกรมสุขภาพจิต เข้ามาดูแลครอบครัวและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรวมทั้งผู้ที่สูญเสียทั้งหมด โดยเรื่องนี้เป็นความเป็นความตายของมนุษย์ของประชาชนของเจ้าหน้าที่ ตนต้องดูแลคนทั้งประเทศ อีกทั้งการที่มีประชาชนจำนวนมากเข้ามาสังเกตการณ์เพราะมีความห่วงใย ขอร้องสื่อต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่สักนิดเพื่อสร้างความเข้าใจทั้งในและต่างประเทศ ขณะที่เมื่อเช้าได้สั่งการไปเรียบร้อยแล้วในระดับผู้บังคับบัญชา ต้องมีความเตรียมพร้อม เพราะมีความเป็นห่วงทั้งเจ้าหน้าที่และประชาชน เราจะทำสะเปะสะปะไม่ได้ สำหรับขั้นตอนการดำเนินการ เมื่อสถานการณ์ในพื้นที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต้องรับผิดชอบก่อน จากนั้นจึงได้ประสานขอกำลังจากฝ่ายทหารเข้ามาช่วย และมีเจ้าหน้าที่ที่มีคุณสมบัติเฉพาะลงมาปฎิบัติหน้าที่ เพราะคนร้ายมีอาวุธร้ายแรง
นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ขอขอบคุณแพทย์ พยาบาลบุคลากรสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง และทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันบริจาคโลหิตถือว่าได้ทั้งบุญและกุศลวันนี้สิ่งสำคัญที่สุด โดยทุกคนต้องมีบทเรียนแม้จะเคยผ่านสถานการณ์มาหลายครั้ง แต่ไม่เคยรุนแรงแบบนี้ ทุกอย่างคาดการณ์ไม่ได้แต่เราต้องเตรียมให้พร้อมวันนี้ครั้งนี้ถือว่ารับมือได้ดี สำหรับการช่วยเหลือดูแลจะเร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือกระทรวงพัฒนาสังคม (พม.)มาดูแลให้ทั้งผู้ที่สูญเสียและผู้ที่ได้รับบัตรเจ็บ ทั้งนี้สรุปจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ 57 ราย กลับบ้านแล้ว 25 อยู่ในโรงพยาบาล 32 ส่วนผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 27 ราย รวมผู้ก่อเหตุด้วย
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราต้องร่วมมือและเผชิญสถานการณ์ไปด้วยกันทั้งภาครัฐและเอกชน ยืนยันรัฐบาลดูแลประชาชนทุกคน และดูแลแก้ไขทุกปัญหา อย่างเรื่องเศรษฐกิจตนก็รับฟังผู้ที่ติติง แต่อยากให้ดูว่า 5 ปีทำอะไรมาแล้วบ้างแล้ว คงมีโอกาสพูดกันในสภา ตนไม่มีปัญหาก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อเท็จจริง ที่สำคัญขอร้องไม่อยากให้ประชาชนถูกแยกออกเป็นฝักเป็นฝ่าย อย่าให้ใครมาบิดเบือน ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าตนดูแลคนทุกๆฝ่ายงบประมาณก็ลงไปช่วยเหลือในทุกๆจังหวัด
@ 'วิสามัญ ผู้ก่อเหตุแล้ว
โดยเมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. มีรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้วิสามัญ ผู้ก่อเหตุแล้ว บริเวณชั้น G ห้างสรรพสินค้า Terminal 21 ขณะที่มีการแถลงตัวเลขผู้เสียชีวิตเป็นทางการ 20 ราย ผู้บาดเจ็บ 42 ราย เเบ่งเป็น รักษาตัว รพ. 21 ราย กลับบ้าน 21 ราย ในจำนวนนี้ รับการผ่าตัด 9 ราย
@'อนุทิน'แจงเพิ่มมีคนเสียชีวิตอีก 4 ศพ ติดอยู่ในห้าง
ช่วงเวลาประมาณ 7.00 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าพบผู้เสียชีวิตอีกจำนวน 4 ศพ เป็นประชาชนอยู่ในพื้นที่ชั้น G ของห้างเทอร์มินัล 21 จึงทำให้ยอดของผู้เสียชีวิตนั้นอยู่ที่ 25 ราย และบาดเจ็บอีก 33 ราย
สำหรับความคืบหน้าเหตุการณ์นั้น ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามนำเอาโดรนเพื่อบินสำรวจพื้นที่จากมุมสูง แต่ก็ถูกทางฝ่ายคนร้ายยิงตก จึงทำให้ต้องมีการประสานกับทางด้านของผู้สื่อข่าวในพื้นที่เพื่อขอโดรนสำรวจเพิ่มเติม
โดยขณะนี้มีการคาดการณ์ว่ายังมีผู้ติดอยู่ในพื้นที่ห้างเทอร์มินัล 21 อีกจำนวนมากกว่าร้อยคน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้ประสานงานไปยังประชาชนผู้ที่ติดอยู่ในห้างว่าให้แจ้งข้อมูลมาให้ส่งข้อความไปยังอินบอกซ์ของเฟสบุ๊กกองปราบปรามว่ายังติดอยู่ ณ ชั้นใด และติดอยู่กี่คน
@ 'อนุทิน' เผยตัวเลข ผู้เสียชีวิต 21 ราย บาดเจ็บ 33 ราย
ก่อนหน้านี้ช่วงเวลาประมาณ 06.15 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข เปิดเผยรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ มีจำนวน 21 ราย บาดเจ็บ 33 ราย ในจำนวนผู้เสียชีวิต มีตำรวจ 1 นาย บาดเจ็บ 2 นาย จากเหตุปะทะกับผู้ก่อเหตุ
@ ใกล้รุ่งสาง 'ผบ.ทบ.' เดินทางออกจากพื้นที่ห้างเทอร์มินอล 21
ต่อมาในช่วงเวลา 04.50 น. มีรายงานข่าวว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางออกจากบริเวณพื้นที่ห้างเทอร์มินอล 21 สาขานครราชสีมาแล้ว พร้อมปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน บอกให้รอฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ได้ทยอยลำเลียงเสบียงเข้าไปในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
@ปะทะเดือด อรินทราชดับ 1 เจ็บอีก 3
เมื่อเวลาประมาณ 3.30 น. ได้เกิดเหตุเกิดเหตุปะทะระหว่างคนร้ายและเจ้าหน้าที่หน่วนอรินทราช โดยมีรายงานว่า เบื้องต้นพบว่า มีเจ้าหน้าที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 4 นาย โดย 1 ในนั้น ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ
หลังเหตุปะทะ เจ้าหน้าที่ได้ใช้ระเบิดเปิดทาง เพื่อเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการออกมาจากห้าง
และต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 4.10 น. นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้ออกมาแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่าหน่วยอรินทราชที่เข้าปะทะกับคนร้ายนั้นเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ทำให้ตอนนี้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงนั้นอยู่ที่ 21 ราย
@ทีมหนุมาน-จนท.เคลียร์ชั้น G ห้างดังแล้ว ประชาชนออกมาได้บางส่วน
มีรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.50 น. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการปราบปราม พร้อมด้วยทีมหนุมานกองปราบ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าเคลียร์พื้นที่ห้าง Terminal 21 จ.นครราชสีมา ชั้น G ได้แล้ว โดยนำประชาชนบางส่วนออกจากพื้นที่ของห้างสรรพสินค้าดังกล่าวแล้วบางส่วน
(เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบชุด 'หนุมาน' เคลียร์พื้นที่ชั้น G ห้างดัง นำประชาชนออกมาได้แล้วบางส่วน)
@ผบ.ตร.สวมเสื้อเกราะกันกระสุน-สะพายปืนเต็มอัตราศึก-ผบ.ทบ.ถึงพื้นที่โคราชแล้ว
เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น. มีรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ,พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. พร้อมคณะ เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อติดตามสถานการณ์ โดยขณะนี้ถึงบริเวณห้างเทอมินอล 21 จ.นครราชสีมา แล้ว โดยผบ.ตร. สวมเสื้อเกราะกันกระสุน และสะพายปืนแบบเตรียมพร้อมเต็มอัตราศึก ขณะเดียวกันพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้เดินทางถึงพื้นที่เกิดเหตุเพื่อติดตามสถานการณ์แล้วเช่นกัน โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ และ พล.อ.อภิรัชต์ ได้ร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนตามจับกุม จ่าสิบเอก รายดังกล่าว
(ผบ.ตร. (ซ้าย) พร้อมชุดกันกระสุนและ ผบ.ทบ. (ขวา) ถึงพื้นที่ จ.นครราชสีมา แล้ว, ภาพจาก www.naewna.com และ www.thairath.co.th)
@'อนุทิน' แถลงยันยอดเสียชีวิต 20 ราย
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเหตุยิงกราดมีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บหลายรายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะนี้เบื้องต้นได้รับรายงานมียอดผู้เสียชีวิตจำนวน 17 ราย ผู้บาดเจ็บ 21 ราย โดยได้นำตัวส่งรักษาในโรงพยาบาลพื้นที่ใกล้เคียง อีกทั้งขออย่าโพสต์แชร์ภาพ คลิปวิดีโอที่กระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ หากมีข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องจะรายงานให้ทราบเป็นระยะ
ต่อมาเวลาประมาณ 23.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข แถลงว่า มียอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการรวม 20 ราย
@ส่ง 'หนุมาน-คอมมานโด 904-ฉก.นเรศวร' คลี่คลายสถานการณ์
ทั้งนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) สั่งการให้ พล.อ.สุนัย ประภูชะเนย์ ผู้ช่วย ผบ.ทบ. และ พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 เร่งลงพื้นที่ ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว
ส่วน พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผู้บังคับการกองปราบปราม กล่าวว่า ตนได้นำกำลังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน กองปราบปรามจำนวน 12 นาย พร้อมอาวุธครบมือลงพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ด้วยตนเอง เพื่อร่วมไล่ตามจับกุมคนร้ายซึ่งคาดว่าจะมีอาวุธปืนพกและอาวุธสงครามพร้อมกระสุนจำนวนมากโดยขณะนี้กำลังนำกำลังไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่กองบินตำรวจถนนรามอินทรา เพื่อลงพื้นที่ดังกล่าว
เมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. พล.ต.ต.สยาม บุญสม ผู้บังคับการตำรวจมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ 904 รอ. กล่าวว่า ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้นำกำลังตำรวจหน่วยคอมมานโด เดินทางไปปฏิบัติการร่วมที่ จ.นครราชสีมา แล้ว โดยจะร่วมกับหน่วยหนุมาน กองปราบฯ ตำรวจหน่วยนเรศวร 261 ตชด. และทหาร โดยกำลัง 12 นาย ถึงที่เกิดเหตุแล้วโดย และตนกำลังนำกำลังไปสมทบอีก 12 นาย อย่างไรก็ตามยังยืนยันไม่ได้ว่ามีการจับกุมตัวประกันหรือไม่ แต่เบื้องต้นเชื่อว่ายังมีคนติดอยู่ในห้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการนำตัวออกมาอย่างปลอดภัย
@นายกฯสั่ง รมช.กลาโหม-ผบ.ทบ. เกาะติดสถานการณ์ด่วน
มีรายงานแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้สั่งการให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่โดยด่วน
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับทราบสถานการณ์คนร้ายกราดยิงที่ จ.นครราชสีมา ขณะร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพ พร้อมได้สั่งการให้ รมช.กระทรวงกลาโหม และผู้บังคับบัญชากองทัพบก ติดตามสถานการณ์ สอบสวนหาสาเหตุ และดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตให้ดีที่สุด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องการรักษาพยาบาล ในโรงพยาบาลที่สะดวกอย่างดีที่สุด พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปิดล้อมจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้
เบื้องต้นอาวุธที่คนร้ายนำมาก่อเหตุนั้น นำมาจากการแย่งชิงและทำร้ายเจ้าหน้าที่คลังเก็บอาวุธ ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ขอให้รอผลการพิสูจน์ทราบอีกครั้ง
นางนฤมล ระบุด้วยว่า นายกรัฐมนตรีขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บทุกราย รวมทั้งจะเร่งหาสาเหตุอาการคลุ้มคลั่ง และที่มาของการก่อเหตุครั้งนี้ รวมทั้งการจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
@สมาคมนักข่าวฯขอความร่วมมือสื่อไม่ถ่ายทอดสดการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. ฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ในการให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ในปฏิบัติการจับคนร้าย จ.นครราชสีมา จะได้ลุล่วง ด้วยการไม่เผยแพร่แผนปฏิบัติการ ไม่ถ่ายทอดสดการปฏิบัติ ไม่สัมภาษณ์ผู้ติดในห้างเทอมินัล21 ซึ่งยังตกอยู่ในอันตรายและมีความเสี่ยง
(โฉมหน้า 'จ่าสิบเอก' ผู้ต้องสงสัยเหตุกราดยิงดังกล่าว ก่อนหน้านี้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กต่อเนื่อง แต่มีรายงานยืนยันว่าเฟซบุ๊กถูกระงับบัญชีไปแล้ว)
@ผู้ต้องสงสัยยศ 'จ่าทหาร' ยิง 'พ.อ.-หญิง 63 ปี' ก่อนขับจี๊ปเข้าค่ายไปปล้นอาวุธสงคราม
เมื่อช่วงเย็นวันเดียวกัน พ.ต.ท.มงคล คุปติศิริรัตน์ สว.สอบสวน สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันตายที่บ้าน เลขที่ 187 หมู่ 3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมืองนครราชสีมา พบผู้เสียชีวิตเป็นนายทหารยศพันเอก ทราบชื่อ พ.อ.อนันตโรจน์ กระแสร์ อายุ 48 ปีสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และหญิงอายุ 63 ปี ทราบชื่อ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.เสียชีวิตหน้าบ้าน และมีอดีตทหารเกษียณอายุถูกยิงบาดเจ็บอีก 1 คน
ส่วนผู้ต้องสงสัยทราบว่าเป็นทหารยศ จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา อายุ 32 ปี สังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ แต่งกายเครื่องแบบทหารครึ่งท่อน หลังก่อเหตุได้ขับรถจี๊ปฮัมวี่แบบทหารหลบหนีเข้าไปในค่าย พร้อมกับก่อเหตุปล้นเอาอาวุธปืนสงครามแบบเอชเค.33 พร้อมเครื่องกระสุนอีก 40 นัด ในคลังกระสุน และใช้อาวุธปืนยิงพลทหารที่ดูแลคลังกระสุนเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บอีก 2 นาย
@สันนิษฐานเหตุคาดปมทวงเงินค่านายหน้าซื้อที่ดิน
ช่วงค่ำวันเดียวกัน พล.ท.ธัญญา เกียรติสาร แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ทหารและตำรวจระดมกำลังล่า จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา สังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ จ.นครราชสีมา ซึ่งก่อเหตุยิง พ.อ.อนันตโรจน์ นายทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ พร้อมด้วยหญิง อายุ 63 ปี และพลทหาร รวม 3 คน เสียชีวิต และมีอดีตนายทหารเกษียณอายุราชการ และพลทหารบาดเจ็บหลายคน
สำหรับ ผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุคือ จ่าสิบเอก จักรพันธ์ ถมมา เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ พ.อ.อนันต์ฐโรจน์ โดยหลังจากประกอบเหตุแล้ว ส.ท.จักรพันธ์ ได้ไปแย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ ที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และใช้อาวุธ ยิงทหารเวรจนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นได้ขับรถฮัมวี่ของทหาร หลบหนี ออกด้านหลังค่าย หลบหนีไปทางวัดป่าศรัทธารวม และได้ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ที่มาสกัดจับ จนได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 นาย และกระสุนถูกชาวบ้านใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ขณะนี้ผู้ก่อเหตุกำลังอยู่ระหว่างหลบหน้า โดยสาเหตุเบื้องต้น สันนิษฐานว่า เกิดจากการที่ผู้ก่อเหตุไปทวงเงินค่านายหน้าค่าซื้อขายที่ดิน โดยผู้ก่อเหตุมาทวงค่านายหน้า จึงตกลงกันไม่ได้จึงได้ก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจะได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/