‘กสิกรไทย’ พักหนี้เงินต้น 12 เดือน ช่วยลูกค้าเกือบ 5 พันราย รับมือ ‘ไวรัสโคโรน่า’
‘แบงก์กสิกรไทย’ ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด ‘ไวรัสโคโรน่า’ โดยให้พักชำระหนี้เงินต้น 12 เดือน แต่ให้จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน บวกด้วยอีก 20% ของดอกเบี้ยที่ต้องชำระ เพื่อนำไปหักหนี้เงินต้น เผยมีลูกค้าได้ประโยชน์ใน 4 จังหวัด 4.96 พันราย สินเชื่อคงค้าง 3.56 หมื่นล้านบาท
เมื่อวันที่ 29 ม.ค. น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยถึงการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ใหม่ 2019 ในจีนและหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงไทย ว่า จะทำให้ภาคการท่องเที่ยวของไทยได้รับผลกระทบ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าผลกระทบจะเป็นเท่าไหร่ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะเติบโตที่ 2.5-3.5% และมีค่ากลางที่ 2.7% แต่จากสถานการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นทำให้ศูนย์ฯปรับลดจีดีพีลงเหลือ 2.5%
“เดิมศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโต 2.5-3.5% โดยมีค่ากลางการเติบโตจีดีพีที่ 2.7% แต่จากผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ ทำให้คาดว่าจีดีพีจะเติบโตที่กรอบล่าง คือ 2.5% ส่วนผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ชัดเจน และเมื่อมีข้อมูลมากกว่านี้จึงจะพูดได้ชัดเจนกว่านี้"น.ส.ขัตติยากล่าว
น.ส.ขัตติยา ยังระบุว่า เพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า ธนาคารฯได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า โดยจะพักการชำระเงินต้นเป็นระยะเวลา 12 เดือน และให้ลูกค้าชำระดอกเบี้ยรายเดือน บวกด้วยอีก 20% ของดอกเบี้ยที่ชำระ เพื่อที่ธนาคารฯจะนำส่วนที่จ่ายเพิ่มอีก 20% ของดอกเบี้ยดังกล่าว ไปหักออกจากเงินต้น ซึ่งจะทำให้หนี้เงินต้นของลูกค้าลดลง และเมื่อครบ 12 เดือน ธนาคารฯจะประเมินว่าจะต้องมีมาตรการช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติมหรือไม่
รายงานข่าวจากธนาคารกสิกรไทยแจ้งว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ธนาคารฯ จะเข้าไปช่วยเหลือในการพักชำระเงินต้นครั้งนี้ จะอยู่ในกลุ่มโรงแรม กลุ่มร้านอาหาร กลุ่มขนส่ง กลุ่มแฟชั่นและเครื่องประดับ ที่ต้องดำเนินธุรกิจในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี และเชียงใหม่ ซึ่งคิดเป็นจำนวนลูกค้า 4,964 ราย วงเงินสินเชื่อคงค้าง 35,617 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.6% ของสินเชื่อธนาคาร
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยยังสนับสนุนวงเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูกิจการ และลูกค้าสามารถเข้าร่วมโครงการฯ ที่มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ค้ำประกัน (PGS8) ซึ่งฟรีค่าธรรมเนียม 2 ปี
“จากสถานการณ์ไวรัสโคโรน่าระบาดในจีน ทำให้รัฐบาลจีนประกาศห้ามทัวร์จีนเดินทางออกนอกประเทศ ส่งผลกระทบต่อธุรกิจการท่องเที่ยวไทยอาจได้รับผลกระทบ จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลง เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือและสนับสนุนลูกค้าให้ประกอบอาชีพต่อไปได้ ธนาคารฯจึงได้กำหนดมาตรการรับมือผลกระทบดังกล่าว” รายงานข่าวจากธนาคารกสิกรไทยระบุ
นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ว่า การระบาดของไวรัสโคโรน่าจะกระทบต่อรายได้ของผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวไทยเท่าไหร่ และสถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นยาวนานเพียงใด ดังนั้น จึงไม่สามารถประเมินได้ว่าความเสียหายต่อเศรษฐกิจจะเป็นเท่าใด แต่ในเบื้องต้นธนาคารต่างๆ ได้เตรียมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของตัวเองไว้แล้ว
ส่วนกรณีที่มีการส่งร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า จะเป็นโมฆะหรือไม่นั้น นายปรีดี กล่าวว่า หากศาลฯบอกไม่โมฆะ งบประมาณก็เดินต่อไปและไม่ได้ล่าช้าไปจากเดิม แต่หากท้ายที่สุดแล้วศาลฯบอกเป็นโมฆะ ก็เชื่อว่ารัฐบาลจะมีวิธีแก้ปัญหา และมั่นใจการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐจะไม่ชะงัก รวมทั้งจะไม่กระทบต่อความมั่นใจให้กับนักลงทุน เพราะทุกคนรู้อยู่แล้วว่าการดำเนินการต่างๆ ต้องทำตามขั้นตอนของกฎหมาย
“ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าร่างพ.ร.บ.งบฯ จะช้าไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่ก็ต้องรอว่าศาลฯจะตัดสินอย่างไร แล้วก็จะรู้ว่าจะเดินต่อไปอย่างไร"นายปรีดีกล่าว
ปรีดี ดาวฉาย
นายปรีดี ยังกล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติมาตรการการเงินการคลังเพื่อสนับสนุนการลงทุนในประเทศ ปี 2563 ว่า มาตรการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการลงทุนเอกชนได้อย่างมาก เพราะการนำเข้าเครื่องจักรในช่วงที่ค่าเงินบาทแข็ง จะทำให้ต้นทุนของเอกชนลดลง อีกทั้งยังสามารถนำค่าใช้จ่ายลงทุนไปหักค่าใช้จ่ายได้อีก และเมื่อมีการลงทุนของเอกชนก็ส่งผ่านไปยังค่าเงิน โดยจะทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงด้วย
“ผมมองว่าเป็นเรื่อง Win-Win เพราะทุกฝ่ายได้รับประโยชน์ และแม้ว่ารัฐบาลจะสูญเสียรายได้ภาษีไป แต่ก็จะไปสร้างความแข็งแกร่งให้กับเอกชน โดยเฉพาะเอกชนรายเล็กๆที่ต้องการนำเข้าเครื่องจักรเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต จะได้ประโยชน์จากมาตรการนี้” นายปรีดีกล่าว
อ่านประกอบ : ไทยพาณิชย์ เร่งช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมทั่วประเทศ รับมือผลกระทบไวรัสโคโรน่า
ระบาดมากกว่าโรคซาร์ SCMP ชี้ไวรัสโคโรน่า ยอดเสียชีวิตพุ่ง 132 คนแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/