หวั่นไทยเสียมรดกชาติ! บ.ไชโยฯ ร้อง 2 กระทรวงช่วย หลังแพ้คดีลิขสิทธิ์อุลตร้าแมน
'สมโพธิ แสงเดือนฉาย' เจ้าของบ.ไชโย โปรดักชั่นส์ฯ ร้อง ก. ยุติธรรม-วัฒนธรรม ช่วยปมฟ้องร้องคดียอดมนุษย์อุลตร้าแมน หลังแพ้คดีชั้นอุทธรณ์ ลิขสิทธิ์ตกเป็นของเอกชนญี่ปุ่น ชี้กระทบหนัง 3 เรื่อง 'หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์-หนุมานพบ 11 ยอดมนุษย์- Giant VS jumbo A' หวั่นไทยสูญเสียมรดกชาติ
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายสมโพธิ แสงเดือนฉาย เจ้าของบริษัทไชโย โปรดักชั่นส์ จำกัด ถึงความคืบหน้าการต่อสู้คดีในชั้นศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เกี่ยวกับพิพากษาเรื่องลิขสิทธิ์ยอดมนุษย์ อุลตร้าแมน กับ บริษัทซึบูราญ่า โปรดักชั่นส์ จํากัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนในประเทศญี่ปุ่น ว่า ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาให้ฝ่ายตนแพ้คดีไปแล้ว และเตรียมที่จะต่อสู้คดีในชั้นฎีกาต่อไป
นายสมโพธิ กล่าวว่า อย่างไรก็ดี ผลจากการที่ฝ่ายตนแพ้คดีในชั้นอุทธรณ์นั้น อาจจะส่งผลกระทบต่อภาพยนตร์ไทย จำนวน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ 2.หนุมานพบ 11 ยอดมนุษย์ และ 3. Giant VS jumbo A ที่ลิขสิทธิ์จะต้องตกไปเป็นสมบัติของบริษัทญี่ปุ่น ขณะที่ภาพยนต์ เรื่อง หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ และหนุมานพบ 11 ยอดมนุษย์ ปัจจุบันได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงวัฒนธรรม ให้เป็นมรดกของชาติไทยด้วย
นายสมโพธิ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาได้พยายามทำหนังสือถึงกระทรวงวัฒนธรรม และกระทรวงยุติธรรม เพื่อหารือข้อกฎหมายในการต่อสู้คดีดังกล่าวแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่กระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง จากการที่ต้องสูญเสียภาพยนตร์ที่เป็นเสมือนผลงานของประเทศไทย แต่ก็ยังไม่ได้รับการตอบกลับจากผู้บริหารทั้ง 2 กระทรวงแต่อย่างใด
“ หากฝ่ายผมแพ้คดีนี้ ภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องนี้ อาจจะได้รับผลกระทบได้ เพราะจะถูกตัดสินโดยศาลว่าภาพยนตร์ 3 เรื่องนี้ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของฝ่ายโจทก์ซึ่งก็คือบริษัทซึบูราญ่า ไม่ใช่ภาพยนตร์ไทยแต่อย่างใด จึงอยากให้สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลเรื่องนี้ เพราะภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่องก็เปรียบเสมือนกับมรดกทางวัฒนธรรมของประเทศไทย ที่มีคนไทยมีส่วนร่วมกำกับ ร่วมแสดง และยังมีส่วนในการเผยแพร่วัฒนธรรมต่างๆของประเทศไทย”นายสมโพธิ ระบุ
สำหรับรายละเอียดการฟ้องร้องในคดีนี้ บริษัทซึบูราญ่าโปรดัคชั่นส์ จํากัด ของญี่ปุ่น เป็นโจทก์ที่ 1 ฝ่ายจำเลย ประกอบไปด้วย นายสมโพธิ แสงเดือนฉาย จำเลยที่ 1 นายพีระศิษฐ์ แสงเดือนฉาย จำเลยที่ 2 บริษัทซึบูราญ่า ไชโย จํากัด จำเลยที่ 3 บริษัทไชโย โปรดักชั่นส์ จํากัด จำเลยที่ 4 นายสิทธิชัย รุจิภาสกุล จำเลยที่ 5 และบริษัทที่ไอจีเอ จํากัด จำเลย ที่ 6 โดยเป็นคดีดำหมายเลย ทป.65/2551 คดีแดงหมายเลข ทป.162/2553
โดยศาลชั้นต้น ได้มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ให้ภาพยนต์จำนวน 9 เรื่อง ได้แก่ 1. Giant VS Jambo ‘A’ 2. Hanuman and the Seven Ultraman 3.Ultraman 1 “Ultra Q” 4.Ultraman 2 5. Ultraman Seven 6. Return Ultraman 7. Ultraman Ace 8.Ultraman Taro และ 9. Jamborg Ace ตกเป็นลิขสิทธิ์ของ บริษัทซึบูราญ่าฯ
ต่อมา ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษ มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นเมื่อวันที่ 18 ธ.ค. 2561
(สามารถอ่านคำพิพากษาฉบับเต็มของทั้ง 2 ศาลได้ที่ https://drive.google.com/file/d/1ODm95wH4PkoqJFkLwdiJd8GTdnW-3_4n/view?usp=sharing และ https://drive.google.com/file/d/17CSnKGxL2IcUcYHWppo5fe4gtw3vtOTI/view?usp=sharing)
โปสเตอร์ภาพยนตร์ หนุมานพบ 7 ยอดมนุษย์ (อ้างอิงรูปภาพจากเว็บไซต์ https://th.wikipedia.org)
โปสเตอร์ภาพยนตร์ ยักษ์วัดแจ้ง พบ จัมโบ้เอ (อ้างอิงรูปภาพจาก facebook.com)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/