ประชุมสภาวันที่ 2 ถกร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 เดือด-ผ่านงบ กต. 4.9 พันล.บี้'ดอน'ไขก๊อก
ประชุมสภาผู้แทนฯพิจารณาวาระ 2-3 ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 วันที่ 2 ถกเดือด 'ดอน' ให้สัมภาษณ์สื่อปมความตึงเครียดสหรัฐฯ-อิหร่าน ฝ่ายค้านไล่บี้ให้รับผิดชอบด้วยการลาออกพ้น รบ. ก่อนเสียงข้างมากผ่านงบ ก.ต่างประเทศ 4.9 พันล้าน - ดึกคืนวันที่ 8 ม.ค. ผ่านงบ ก.กลาโหม 1.25 แสนล้านไปแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2563 สภาผู้แทนราษฎร มีการประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 วารที่ 2 (ลงมติเป็นรายมาตรา) และวาระที่ 3 (บังคับใช้เป็นกฎหมาย) โดยเป็นการพิจารณา มาตรา 10 งบประมาณกระทรวงต่างประเทศ วงเงิน 4,940,473,000 บาท โดยมีคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 ขอสงวนความเห็น และ ส.ส.ขอสงวนคำแปรญัตติจำนวนหนึ่ง ขอให้ปรับลดวงเงินงบประมาณ 0.1%-100% (นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ขอให้ปรับลด 100%)
โดยเมื่อเวลาประมาณ 12.15 น. ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรลงมติในมาตรา 10 โดยเสียงข้างมาก 248 เสียง เห็นชอบให้ผ่านงบกระทรวงการต่างประเทศ 4.9 พันล้านบาท ตามที่ กมธ.วิสามัญฯเสนอ ไม่เห็นด้วย 6 เสียง งดออกเสียง 200 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 ราย
สำหรับบรรยากาศการประชุม ส.ส.ฝ่ายค้านส่วนใหญ่ เน้นอภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหาที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ พูดถึงกรณีที่สหรัฐอเมริกาส่งซิกบอกประเทศไทย และประเทศในอาเซียน ก่อนที่จะโจมตีนายพลจากประเทศอิหร่านก่อน 1 วัน พร้อมกับให้นายดอนรับผิดชอบ ด้วยการลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องเตือนว่า อยู่ในช่วงพิจารณางบประมาณ แต่ไม่ใช่ถึงขั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดย ส.ส. ฝ่ายค้าน ที่เน้นอภิปรายวิพากษ์วิจารณ์นายดอนกรณีดังกล่าว เช่น นายจุลพันธื อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.วิสามัญฯ เสียงข้างน้อย ระบุว่า คำพูดของนายดอนที่ออกไปต่อสื่อมวลชน กรณีปัญหาระหว่างประเทศสหรับฯ และอิหร่าน รมว.ต่างประเทศพูดว่าสหรัฐฯส่งสัญญาเรื่องการโจมตีอิหร่านมาให้ไทยทราบล่วงหน้า 1 วัน แบบนี้ถือว่าน่าห่วงมาก และมีความเสี่ยงดึงไทยไปสู่ความขัดแย้ง รมว.ต่างประเทศจะรับผิดชอบหรือไม่ เพราะไทยอาจถูกมองว่าสมรู้ร่วมคิด แม้นายดอนปฏิเสธว่าสิ่งที่พูดเป็นความคลาดเคลื่อน แต่ความเสียหายเกิดขึ้นกับไทยได้ลุกลามไปทั่วโลกแล้ว จึงขอให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออก ขอให้รัฐบาลตัดเนื้อร้ายออกเพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้
ส่วนนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุด นายดอนไปกินรังแตนมาจากไหน จึงพูดเป็นตุเป็นตะเรื่องที่สหรัฐฯสังหารผู้นำทหารของอิหร่าน ถ้าการประชุมสภาตอนนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายดอนต้องถูกอภิปรายอย่างแน่นอน
ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.วิสามัญฯ เสียงข้างน้อย ระบุว่า จะไม่ปรับลดงบประมาณของกรทะทรวงการต่างประเทศ และขอชื่นชมการทำงานของข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงโฆษกกระทรวงฯที่ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของประเทศ แบบนี้ถือว่ามีสมอง แต่มีคนที่ถูกวิจารณ์จากสื่อต่าง ๆ ว่า เป็นผีเจาะปาก ไม่รู้กาลเทศะ ทำลายความเชื่อมั่นต่อประเทศเรา แล้วอย่างนี้ใครจะเข้ามาเที่ยวหรือค้าขายกับประเทศเรา
@เสียงข้างมาก 247 รายผ่านงบกลาโหม 1.25 แสนล้าน
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงดึกคืนวันที่ 8 ม.ค. 2563 สภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณา มาตรา 8 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงกลาโหมและหน่วยงานในกำกับ วงเงิน 125,918,522,500 บาท (ประมาณ 1.25 แสนล้านบาท) โดย ส.ส. เสียงข้างมาก 247 เห็นชอบตามร่างที่ กมธ.วิสามัญฯ มีการแก้ไข อีก 198 เสียง ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง 11 เสียง
ทั้งนี้มี กมธ.วิสามัญ เสียงข้างน้อย ขอสงวนความเห็นและมี ส.ส. ขอสงวนคำแปรญัตติจำนวนมาก โดยขอให้ปรับลดวงเงินงบประมาณดังกล่าวลง 0.125%-100% (กมธ.วิสามัญฯ 2 ราย ที่ขอปรับลดงบประมาณลง 100% คือ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ และนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล) มีความเห็นที่น่าสนใจ เช่น นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้ปรับลดงบกระทรวงกลาโหม 20% และให้ไปเพิ่มแก่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อต้องการให้ กมธ.วิสามัญฯตระหนักถึงวิกฤติด้านการศึกษา
นายสันติ กีระนันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะ กมธ.วิสามัญฯ เสียงข้างมาก ชี้แจงถึงสาเหตุการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในงบประมาณของกองทัพเรือ โดยเห็นว่า โครงการดังกล่าวเป็นการจัดซื้อแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยเป็นการจัดซื้อเพียง 3 ลำ ต้องดูแลน่านน้ำยาวถึง 3.2 แสนตารางกิโลเมตร ถือว่ากองทัพเรือช่วยประหยัด เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีหลายลำ ดังนั้นถ้าไม่เตรียมแสนยานุภาพให้ทัดเทียม ความเกรงอกเกรงใจจะลดลง หากความมั่นคงของประเทศไม่มี ความมั่นคงทางเศรษฐกิจไม่เกิด กำลังต่อรองจะน่ากังวลใจ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเสียงข้างมาก 246 ราย เห็นด้วยกับมาตรา 4 ร่างเดิมที่ กมธ.วิสามัญฯ พิจารณา วงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ไม่เห็นด้วย 88 ราย และงดออกเสียง 137 ราย โดยส่วนใหญ่ฝ่ายที่งดออกเสียงคือ ส.ส. พรรคเพื่อไทย เนื่องจากเห็นตามที่นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อภิปรายว่า ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ อาจขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ และอาจนำไปสู่การตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ (อ่านประกอบ : 246 ส.ส.ข้างมากยืนร่างเดิมวงเงิน 3.2 ล้านล.พ.ร.บ.งบฯ 63-กมธ.ข้างน้อยหวั่น ป.ป.ช.สอบ)
ปัจจุบันที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร กำลังพิจารณามาตราอื่น ๆ ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2563 อยู่ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จวาระที่ 2 (ลงมติเป็นรายมาตรา) ภายในวันนี้ และในวันที่ 10 ม.ค. 2563 จะมีการลงมติในวาระ 3 (บังคับใช้เป็นกฎหมาย) ต่อไป
อ่านประกอบ : ผ่างบมั่นคง-เงินลับร่าง พ.ร.บ.งบฯ 63 จับตาฝ่ายค้านถล่ม-บี้กองทัพแจงซื้อเรือดำน้ำ