ครม.อัดฉีดอีกแสนล้านกระตุ้น ศก.ผ่านกองทุนหมู่บ้าน-จ่ายชาวนารายละหมื่นบาท
รายละหมื่น'อุตตม สาวนายน' รมว.คลัง แถลงผลประชุม ครม. คลอด 3 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อนุมัติสินเชื่อ 50,000 ล้าน อัดฉีดเงิน 1.4 หมื่นล้าน ให้กองทุนหมู่บ้าน ช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ครัวเรือนละไม่เกิน 1 หมื่น ลดภาระซื้อที่อยู่อาศัย 'บ้านดีมีดาวน์' รายได้ไม่เกิน 1 แสน/เดือน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 26 พ.ย. นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2562 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1 โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ประกอบด้วย 3 โครงการย่อย ได้แก่
1.1 โครงการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานระดับหมู่บ้าน โดยจัดสรรเงินให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่ได้รับการประเมินอยู่ในระดับ A B และ C จํานวน 71,742 แห่ง แห่งละไม่เกิน 200,000 บาท ผ่านสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติภายใต้วงเงินรวม 14,348.4 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนในการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดเล็กในชุมชน สนับสนุนผู้ประกอบการ และส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานในพื้นที่ เช่น ยุ้งฉางชุมชน โรงตากพืชผลทางการเกษตร โรงสีชุมชน โรงงานผลิตปุ๋ยประจําชุมชน การจัดทําแหล่งเก็บน้ำชุมชน เครื่องจักรสําหรับแปรรูป ผลผลิตทางการเกษตร เป็นต้น หรือกิจกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนที่ชุมชนเห็นว่าเป็นประโยชน์ในการส่งเสริม ศักยภาพในการประกอบอาชีพและความเป็นอยู่ในชุมชนให้ดีขึ้น
1.2 โครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนสินเชื่อวงเงินรวม 50,000 ล้านบาท ให้กับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สถาบันการเงินประชาชน สถาบันการเงินชุมชน สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคม และผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร เพื่อเป็นค่าลงทุนในการดําเนินกิจการและเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการดําเนินกิจการ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ร้อยละ 0.01 ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยตามปกติของ ธ.ก.ส. ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2562 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2565
1.3 โครงการพักชําระหนี้สมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามความสมัครใจ โดยกองทุน หมู่บ้านและชุมชนเมืองพักชําระหนี้หรือลดภาระหนี้เงินกู้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้กับสมาชิกที่มีความ เดือดร้อนตามแนวทางที่คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติกําหนด เพื่อให้สมาชิกกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองได้ผ่อนคลายภาระการชําระหนี้ที่มีกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และสามารถนําเงินส่วนดังกล่าว มาประกอบอาชีพสร้างรายได้ เพื่อบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนและหนี้นอกระบบ โดยโครงการนี้จะใช้งบประมาณจากกองทุนหมู่บ้าน และไม่ได้ใช้งบประมาณจากกองทุนรัฐ
2. มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ผ่านโครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุง คุณภาพข้าว ปีการผลิต 2562/63 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร โดยการลดภาระค่าใช้จ่ายในการเก็บ เกี่ยวข้าวและปรับปรุงคุณภาพข้าว ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพและยกระดับคุณภาพชีวิตของ เกษตรกรให้ดีขึ้น โดยเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตรจะได้รับเงินช่วยเหลือ ค่าเก็บเกี่ยวและปรับปรุงคุณภาพข้าวเฉพาะเกษตรกรรายย่อยอัตราไร่ละ 500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ หรือครัวเรือนละ ไม่เกิน 10,000 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 27,458.89 ล้านบาท
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้อนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมในโครงการโดยสนับสนุน ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 พร้อมทั้งขยายระยะเวลาการจ่ายเงินให้เกษตรกรจากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 เมษายน 2563 เนื่องจากมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2562 กับกรมส่งเสริมการเกษตรมากกว่าที่คาดการณ์ไว้
3. มาตรการลดภาระการซื้อที่อยู่อาศัย ภายใต้โครงการ “บ้านดีมีดาวน์” เพื่อเป็นการและสนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง โดยภาครัฐสนับสนุนเงินเพื่อลดภาระการผ่อนดาวน์ (Cash Back จํานวน 50,000 บาท ต่อราย ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมมาตรการต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อเดือน หรือไม่เกิน 1,200,000 บาทต่อปี ผู้ที่อยู่ในระบบฐานภาษีอากรของกรมสรรพากร จํานวน 100,000 ราย และผ่านเกณฑ์ ตามแนวทางที่กระทรวงการคลังกําหนด ระยะเวลาโครงการตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย. 62 - 31 มีนาคม 2563 โดยโครงการนี้จะใช้เงินทั้งสิ้น 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เมื่อคำนวณวงเงินทั้งหมดที่คณะรัฐมนตรีได้ใช้ไปในการอัดฉีดเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจตามการแถลงข่าวในครั้งนี้นั้นจะพบว่าคณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งสิ้น 96,807.29 ล้านบาท
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/