สรุปโจมตีป้อม ชรบ.ลำพะยา "ทีมปัตตานี-ยะลา" จับมือ "หน้าขาว-ฝึกใหม่"
ผ่าน 5 วันหลังเกิดโศกนาฏกรรมที่ ต.ลำพะยา อ.เมืองยะลา จากเหตุการณ์คนร้ายบุกโจมตีป้อม-จุดตรวจ ชรบ.จนมีผู้เสียชีวิตถึง 15 ราย มีหลากหลายความเคลื่อนไหวเกิดขึ้น โดยเฉพาะความคืบหน้าของคดี และการติดตามไล่ล่าคนร้าย
"ทีมข่าวอิศรา" เสนอไทม์ไลน์ย้อนกลับเพื่อไล่เรียงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังเหตุการณ์
9 พ.ย.62
เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ชุดปฏิบัติการทหารพราน สนธิกำลังปฏิบัติการติดตามจับกุมบุคคลเป้าหมาย 13 คนที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ยิงถล่มป้อม ชรบ. โดยกระจายกำลังกันเข้าปิดล้อมตรวจค้นใน 5 ตำบลของ อ.เมืองยะลา คือ ต.ยุโป ต.ลำใหม่ ต.ตาเซะ ต.ลิดล ต.ลำพะยา
สรุปผลของปฏิบัติการ สามารถควบคุมบุคคลเป้าหมายได้ 8 รายจาก 13 ราย เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวไปทำประวัติ ซักถามข้อมูลที่ศูนย์ซักถามที่ตั้งขึ้นชั่วคราว บริเวณวัดลำใหม่ อ.เมืองยะลา จากนั้นได้ปล่อยตัวกลับภูมิลำเนาบางส่วน พร้อมส่งต่อให้หน่วยในพื้นที่ติดตามพฤติกรรม ขณะที่บางส่วนถูกคุมตัวเข้ากระบวนการซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
8 พ.ย.62
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ประชุมสรุปความคืบหน้าคดี พบว่าคดีมีความเชื่อมโยง 2 จังหวัด คือ ยะลา กับปัตตานี มีการโจมตี 1 จุด อีก 5 จุดเป็นการโปรยตะปูเรือใบ ตัดต้นไม้ขวางถนน และระเบิดเสาไฟฟ้า โดยคนร้ายทิ้งหลักฐานและสิ่งของบางอย่างให้สามารถติดตามตัวได้ ขณะที่การติดตามไล่ล่าพบรอยเลือด
ในที่เกิดเหตุมีการใช้ปืนอย่างน้อย 25 กระบอก ซึ่งเป็นตัวเลขที่รวมกับปืนของเจ้าหน้าที่ด้วย เมื่อตัดปืนของเจ้าหน้าที่ออกไป น่าจะเป็นปืนของคนร้าย 18 กระบอก เชื่อว่าคนร้ายที่เข้าโจมตีในจุดนี้ (ป้อมชรบ.) 18 คน แต่จุดอื่นที่เหลืออีก 5 จุด มีคนร้ายชุดอื่นปฏิบัติการ เชื่อว่าปฏิบัติการครั้งนี้กลุ่มคนร้ายใช้กำลังประมาณ 40-50 คน
กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุโจมตีป้อม ชรบ.ครั้งนี้มาจาก 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มาจากทาง จ.ปัตตานี โดยเฉพาะ อ.โคกโพธิ์ รวมถึง 4 อำเภอของ จ.สงขลา กลุ่มนี้ก็จะเชื่อมโยงกับการโจมตีจุดตรวจฆอลอปีและ เมื่อ 2 เดือนก่อน (ปลายเดือน ก.ค. ที่ อ.เมืองปัตตานี มีผู้เสียชีวิต 4 ราย) อีกส่วนหนึ่งมาจาก อ.กาบัง ยะหา บันนังสตา ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้คือกลุ่มที่ได้มีการออกหมายจับเอาไว้ในคดีอื่นแล้วหลบหนี กลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เป็นคนร้ายที่ติดตามจับกุมจากคดีเก่าๆ มาโดยตลอด รู้ว่าเป็นใคร แต่หาตัวไม่เจอ เนื่องจากกลุ่มนี้จะอยู่ในพื้นที่ป่าเขา
มีรายงานเพิ่มเติมว่า กลุ่มที่มาจากปัตตานีและ 4 อำเภอของ จ.สงขลา ถูกระบุว่าเป็น "ทีมปัตตานี" มีสามพี่น้องตระกูลหลำโสะเป็นแกนนำสำคัญ คือ นายบูคอรี หลำโสะ,นายซอบรี หลำโสะ,นายรอซาลี หลำโสะ ส่วนกลุ่มที่มาจาก อ.กาบัง อ.ยะหา และ อ.บันนังสตา มี นายอับดุลเลาะ โต๊ะเต้ นายรอกิ ดอเลาะ นายฮูไบดีละห์ รอมือลี และ นายอะหมัด ตืองะ เป็นแกนนำกลุ่ม ร่วมปฏิบัติการกับกลุ่มเปอร์มูดอ (เยาวชน) ในพื้นที่ รวมทั้งพวก "หน้าขาว" คือไม่มีประวัติในสารบบคดีความมั่นคง (อ่านประกอบ : พบหลักฐาน 3 พี่น้องตระกูล "หลำโสะ" ส่อร่วมปล้นทองนาทวี)
7 พ.ย.62
พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ยืนยันว่าคนร้ายสั่งการจากต่างประเทศ และมีคนในประเทศ กลุ่มบีอาร์เอ็นปฏิบัติการ ขณะนี้เร่งติดตามไล่ล่าคนร้าย นำกำลังหลายชุดขึ้นไปปิดล้อมเขานางจันทร์ พร้อมย้ำว่ากฎหมายพิเศษมีความจำเป็นในพื้นที่ เพราะประชาชนยังไม่ปลอดภัย ปืนที่ใช้ก็เป็นกระบอกเดียวกับที่ยิง อส.ปัตตานี (ชุดคุ้มครองตำบลนาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 16 ก.ย.62) ปล้นร้านทองนาทวี (อ.นาทวี จ.สงขลา เมื่อ 24 ส.ค.62) ยิงตู้เอทีเอ็มมหาวิทยาลัยฟาตอนี (วันที่ 3 ส.ค.62)
"คนพวกนี้ที่ทำร้ายพี่น้องมาตลอด คนร้ายมี 20 คน เราต้องดำเนินการ ถ้าเราไม่ไล่ติดตาม เขาจะก่อเหตุ กำลงมีไม่เพียงพอก็หลบๆ ซ่อนๆ ผมถามว่าต้องใช้กฎหมายพิเศษหรือไม่กับ 20 คนนี้ หรือต้องใช้กฎหมายธรรมดา อย่างนี้ต้องใช้กฎหมายพิเศษ ขนาดกฎหมายพิเศษยังเอาไม่อยู่เลย เราใช้กฎหมายพิเศษกับคน 20 คนเท่านั้น พี่น้องประขาชนผู้บริสุทธิ์ไม่มีการใช้แน่นอน ผมยืนยัน"
"กลุ่มคนหน้าขาว (ไม่มีประวัติในสารบบคดีความมั่นคง) ที่ฝึกจากอินโดฯนั้น ก็มีทั้งหมด มีผสมโรง พวกนี้ยังไม่ถึงมืออาชีพ ตัวหลักคือกลุ่มของพวกบูคอรี หลำโสะ พวกนี้ 20 คนนี้ที่ต้องดำเนินการ ทั้งหมดเราต้องปรบแผนเอากำลังเสริมเข้ามา"
-------------------------------------------------------------------------------
อ่านประกอบ :
คนร้ายบุกโจมตีจุดตรวจ ชรบ.ในยะลา ดับ 14 ศพ-ชิงปืน!
เปิดรายชื่อผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บจากเหตุโจมตี ชรบ.ในยะลา
เมื่อกองกำลังประชาชนตกเป็นเป้า! ประเมิน 4 ปัจจัยไฟใต้ปะทุอีกระลอก
นายกฯประณามเหตุโจมตีป้อม ชรบ. ยอดตายพุ่ง 15 - หญิง 4 ศพ
แม่ทัพ 4 สั่งปรับแผนห้ามเฝ้าป้อม-นอนฐาน - ปากคำชาวบ้านคนร้ายมีสาหัส
ผบ.ตร.บินด่วนลงใต้ พบคนร้ายใช้เอ็ม 79 ถล่มป้อม ชรบ.
"ปณิธาน" เตือนภัย "ผู้นำรุ่นใหม่" แสดงศักยภาพโหมไฟใต้ส่งท้ายปี