ละเอียดยิบ!คดีนายก อบต. จ.กระบี่ ยื่นเท็จ ปั้นฟาร์มกุ้งเก๊ ปกปิดที่มา‘เงินหวย พนันบอล’
ละเอียดยิบ! คำพิพากษาองค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ในศาลฎีกา คดีนายก อบต.เขาคราม จ.กระบี่ ยื่นบัญชีฯเท็จ ป.ป.ช. พฤติกรรม แจ้งเงินลงทุนฟาร์มกุ้งเก๊ ปกปิดที่มารายได้เจ้ามือหวยใต้ดิน หวยหุ้น พนันผลฟุตบอล 16 ล. ศาลฎีกาฯ จำคุก 9 เดือน ปรับ 15,000 บาท รอลงโทษ 2 ปี เจ้าตัวยื่นอุทธรณ์ ก่อนองค์คณะฯยืนตามศาลฎีกาฯ ไม่ประพฤติตนเป็น แบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนในท้องถิ่น
สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 30 ต.ค.2562 ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีที่ นายบัณฑูร ภูมฺภมร นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เขาคราม อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ อุทธรณ์คัดค้านคําพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ลงวันที่ 15 เดือน พฤศจิกายน 2561 ที่พิพากษาลงโทษ จําคุก 9 เดือน และปรับ 15,000 บาท โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 2 ปี อันเนื่องจากนายบัณฑูรจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและ เอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ ต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (คณะกรรมการ ป.ป.ช.) โดยนายบัณฑูรขอให้ลงโทษสถานเบา ตามที่สำนักข่าวอิศรารายงานไปแล้ว (อ่านข่าว: ศาลฎีกายืนไม่ลงโทษสถานเบาคดีนายก อบต. จ.กระบี่ ยื่นบัญชีเท็จ-เจ้ามือหวยใต้ดิน ตัวอย่างไม่ดี)
มาดูคำพิพากษาชั้นวินิจฉัยอุทธรณ์ ข้อเท็จจริง และพฤติกรรมของนักการเมืองท้องถิ่นรายนี้ตามที่ปรากฏในคำพิพากษากัน
ศาลฎีกา วันที่ 30 ตุลาคม 2562 ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้ร้อง นายบัณฑูร ภูมิภมร ผู้กล่าวหา
เรื่อง การแสดงบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน
ผู้ถูกกล่าวหา อุทธรณ์คัดค้าน คําพิพากษา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารง ตําแหน่งทางการเมือง ลงวันที่ 15 เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2561 องค์คณะวินิจฉัยอุทธรณ์ รับวันที่ 20 เดือน สิงหาคม 2562
@ยื่นบัญชีฯเท็จ 3 ครั้ง
ผู้ร้องยื่นคําร้องว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและ เอกสารประกอบต่อผู้ร้องด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้น จากตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาคราม อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตําแหน่งนายก องค์การบริหารส่วนตําบลเขาคราม อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 2 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาครามที่ดํารงตําแหน่งอยู่ในปัจจุบัน และห้ามมิให้ดํารง ตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรคการเมืองเป็นเวลาห้าปี นับแต่วันที่ศาลฎีกาแผนก คดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย กับขอให้ลงโทษทางอาญา ตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34, 119 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
@รับสารภาพ-จําคุก 9 เดือน ปรับ 15,000 บาท รอการลงโทษจำคุก 2 ปี
ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองพิจารณาแล้วพิพากษาว่า ผู้ถูกกล่าวหาจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบต่อผู้ร้อง ด้วย ข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบ กรณีพ้นจากตําแหน่งและกรณีพ้นจากตําแหน่งมาแล้วเป็นเวลาหนึ่งปี ในการดํารงตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาคราม อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 1 และกรณีเข้ารับตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาคราม อําเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ ครั้งที่ 2 ให้ผู้ถูกกล่าวหาพ้นจากตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วน ตำบลเขาครามที่ดํารงอยู่ในปัจจุบันนับแต่วันที่ 17 กันยายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 17 วรรคสอง และห้ามมิให้ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งทางการเมืองหรือดํารงตําแหน่งใดในพรรค การเมืองเป็นเวลาห้าปีนับแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของ ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 34 วรรคหนึ่ง กับมีความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 119 การกระทําของ ผู้ถูกกล่าวหาเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 91 จําคุกกระทงละ 6 เดือน และปรับกระทงละ 10,000 บาท รวม 3 กระทง เป็นจําคุก 18 เดือน และปรับ 30,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การ พิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจําคุก 9 เดือน และปรับ 15,000 บาท ไม่ปรากฏว่า ผู้ถูกกล่าวหาเคยได้รับโทษจําคุกมาก่อน โทษจําคุกให้รอการลงโทษไว้มีกําหนด 2 ปี ตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา 56 ไม่ชําระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 คําขออื่นนอกจากนี้ให้ยก
@แจ้ง ป.ป.ช.มีฟาร์มกุ้ง 3 ล. จริงแล้วไม่มี-อำพรางรายได้ เจ้ามือหวยใต้ดิน หวยหุ้น พนันบอล เงินเข้า บัญชี 16 ล.
ผู้ถูกกล่าวหาอุทธรณ์
พิเคราะห์พยานหลักฐานในชั้นไต่สวนประกอบรายงานของคณะกรรมการ ป.ป.ช. และ คําให้การรับสารภาพของผู้ถูกกล่าวหาแล้ว ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้ง เป็นนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาคราม ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2550 และพ้นจาก ตําแหน่งเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาคราม ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2554 และยังคงดํารงตําแหน่งอยู่ในวันที่ผู้ร้องยื่น คําร้องในวันที่ 26 มิถุนายน 2561 จนถึงศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําสั่งให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ 17กันยายน 2558 เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินชุดใหม่แทนชุดเดิม โดยผู้ถูกกล่าวหายื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีเข้ารับตําแหน่งครั้งที่ 1 และยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินกรณีพ้นจากตําแหน่งครั้งที่ 1 มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 12,295,037.68 บาท โดยแสดงรายการเงินลงทุนในศุภวิชญ์ฟาร์มซึ่งเป็นกิจการเลี้ยงกุ้ง มูลค่า 3,000,000 บาท ผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้ประกอบกิจการเลี้ยงกุ้งแต่อย่างใด แต่เพื่อปกปิด ที่มาของรายได้จากการเป็นเจ้ามือรับแทงพนันหวยใต้ดิน พนันหวยหุ้นและพนันผลฟุตบอล ซึ่งมีการโอนเงินเข้าบัญชีเงินฝากของผู้ถูกกล่าวหารวมจํานวน 16,409,385 บาท
@ยืนตัดสินตาม กม.ป.ป.ช.ฉบับเก่าปี 2542
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาประการแรกว่า ต้องนําพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ซึ่ง ประกาศใช้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2561 มาใช้บังคับแก่คดีนี้หรือไม่
เห็นว่า พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 3 บัญญัติให้ ยกเลิกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 แต่ในมาตรา 188 วรรคสอง บัญญัติว่า “ในกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติได้มีมติว่า ผู้ใดจงใจไม่ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบ หรือ จงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินและเอกสารประกอบด้วยข้อความอันเป็นเท็จ หรือ ปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งให้ทราบไว้แล้วในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้ บังคับให้เป็นอันใช้ได้...” และมาตรา 192 วรรคท้าย บัญญัติว่า “เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและพิพากษาของศาลสําหรับคดีที่ยื่นฟ้องหรือยื่นคําร้องต่อศาลไว้แล้วก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้ถือว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังมีผลใช้บังคับอยู่จนกว่าคดีจะถึงที่สุด” เมื่อคดีนี้ ผู้ร้องยื่นคําร้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองในวันที่ 26 มิถุนายน 2561 ซึ่งเป็นวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มีผลใช้บังคับ จึงต้องถือว่าพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังคงมีผลใช้บังคับอยู่ต่อไป จนกว่าคดีจะถึงที่สุด ศาลจึงต้องพิจารณาและพิพากษาคดีไปตามพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม อุทธรณ์ ของผู้ถูกกล่าวหาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
@ไม่ประพฤติตนแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชน-ยื่นบัญชีเท็จ-ปกปิดที่มารายได้เงินพนัน 16 ล.
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาประการต่อมาว่า สมควรลงโทษใน สถานเบาแก่ผู้ถูกกล่าวหาหรือไม่
เห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนตําบล ถือเป็นตําแหน่งระดับสูงในท้องถิ่นและเป็นตําแหน่งที่ได้รับความเคารพเชื่อถือไว้วางใจอย่างสูงจากประชาชนในพื้นที่ เมื่อประชาชนในท้องถิ่นลงคะแนนเสียงเลือกผู้ถูกกล่าวหาให้เข้ามาดํารงตําแหน่งดังกล่าวเพื่อบริหารท้องถิ่นให้เกิดความเจริญก้าวหน้า สมควรที่ผู้ถูกกล่าวหาจะต้องดํารงตนในตําแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตําบลเขาครามด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เคารพกฎหมาย ประกอบอาชีพด้วยความสุจริตเป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชนในท้องถิ่นเพื่อให้เกิดความสงบสุขและสร้างความเจริญก้าวหน้าแก่สังคมต่อไป แต่ปรากฏว่าผู้ถูกกล่าวหากลับกระทําความผิดต่อกฎหมายเสียเองโดยรับเป็นเจ้ามือพนันหวยใต้ดิน พนันหวยหุ้นและพนันผลฟุตบอลไม่ได้ประพฤติตนให้เป็น แบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนในท้องถิ่นแต่อย่างใด และผู้ถูกกล่าวหายังยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินชุดใหม่แทนชุดเดิมต่อผู้ร้องเพื่อปกปิดที่มาของรายได้จากการพนันดังกล่าวซึ่งมีจํานวนเงิน สูงถึง 16 ล้านบาทเศษ ถือเป็นเงินที่ได้มาจากการพนันที่มีจํานวนสูงมาก การกระทําของผู้ถูกกล่าวหาจึงเป็นการกระทําที่มีผลกระทบต่อความสงบสุขของสังคมโดยรวม ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงให้ลงโทษแก่ผู้ถูกกล่าวหาในสถานเบา ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง พิพากษาลงโทษแก่ผู้ถูกกล่าวหาในอัตราโทษสูงสุดเหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดีแล้ว อุทธรณ์ของผู้ถูกกล่าวหาข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
พิพากษายืน
อ่านข่าวเกี่ยวข้อง:
ศาลฎีกายืนไม่ลงโทษสถานเบานายก อบต.จ.กระบี่ ยื่นบัญชีเท็จ-เจ้ามือหวยใต้ดิน ตัวอย่างไม่ดี
ให้พ้นทันที 1 ราย! ศาลฎีกาฟัน 3 นักการเมืองท้องถิ่น จงใจ‘ยื่นเท็จ-ไม่ยื่น’บัญชีฯ ป.ป.ช.
เปิดพฤติกรรม‘นิชนันท์’ เลขาฯ รมช.คลัง แจ้งเงินกู้ยืมเท็จ 42 ล. ใช้‘นอมินี’ถือโฉนดที่ดิน
ศาลฎีกาฯฟัน 7 รองนายก อบต. ‘ยื่นบัญชีฯเท็จ-ไม่ยื่น’ จำคุก 1-2 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
โดนคดีที่สอง!ศาลฎีกาฟัน‘เสี่ยสุวิทย์’ที่ปรึกษา‘ขุนค้อน’ซุกเงินฝาก หุ้น ที่ดิน ส.ป.ก.50 ไร่
ให้พ้นทันที 3 คน! ศาลฎีกาฟัน 6 นักการเมืองท้องถิ่นยื่นบัญชีฯเท็จ จำคุก 4 รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯจำคุกจริง 1 เดือน นายกเทศฯธรรมศาลา นครปฐม ยื่นบัญชีเท็จ นับโทษจากคดีเก่า
ศาลฎีกาฟันนายก อบต.เทพมงคล จ.พระนครศรีฯ ยื่นบัญชีเท็จ -2 รอง ยโสฯ ปัตตานี ไม่ยื่น
ศาลฎีกาฯฟันซ้ำ‘อรพิน’นักธุรกิจกุนซือ‘ขุนค้อน’ยื่นบัญชีฯเท็จ 71 ล. ที่ดิน สปก.50 ไร่
ศาลฎีกาฯ ฟัน 3 นายก อบต. 1 รองฯ ซุกทรัพย์สิน-ไม่ยื่นบัญชีฯ ให้พ้นทันที 2 ราย
ศาลฎีกาฯพิพากษาคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี ‘ฉลอง’ คดียื่นบัญชีฯเท็จ
ออกหมายจับ! ศาลฎีกาฯคุกจริง 2 เดือน ‘ระพิพรรณ’ - ยึดทรัพย์รวยผิดปกติ 42 ล.
คำพิพากษาศาลฎีกาฯฟัน 14 นักการเมืองท้องถิ่น ซุกทรัพย์สิน 9 - ไม่ยื่นบัญชีฯ 5 ราย
‘พลภูมิ’รอด!ศาลฎีกาฯยกคำร้องคดีทรัพย์สิน ชี้ ป.ป.ช.ส่งตัวไม่ทันใน 5 ปี-ขาดอายุความ
รับสารภาพ ยื่นบัญชีฯเท็จ! ศาลฎีกาฯ นัดฟังคำพิพากษา ‘ฉลอง เรี่ยวแรง' 17 ก.ย.นี้
‘นิชนันท์’แจงคดีทรัพย์สินถูกศาลฎีกาฯปรับ 4,000 บ.รอลงอาญา 2 ปี-ปัดถูกตัดสิทธิ์การเมือง
ป.ป.ช.ส่งศาลฎีกาฯ เลขาฯ รมช.คลังยุค‘เบญจา’ ยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง รองนายกเทศฯเมืองยโสธร ไม่แจ้งหนี้บัตรเครดิตเมีย 4 ใบ
รอลงโทษจำคุก 1 ปี! ศาลฎีกาฯให้ ส.อบจ. สตูล พ้นทันที ยื่นบัญชีฯเท็จ 3 ครั้ง
ศาลฎีกาฯฟัน ส.อบจ.เชียงใหม่ -เลขาฯนายก ชัยนาท ซุกทรัพย์สินอื้อ ให้พ้นทันที
ศาลฎีกาฯฟันอีก 5 นักการเมืองท้องถิ่นคดีบัญชีฯ-ให้นายกอบต.ไกรใน สุโขทัย พ้นทันที
13 นักการเมืองท้องถิ่นรอด! ศาลยกคำร้อง คดีบัญชีทรัพย์สิน เหตุยื่นฟ้องหลัง กม.ใหม่
รับสารภาพ!คุก1 เดือน รอลงโทษ1 ปี 'ชญาดา'เมีย 'พลภูมิ'ส.ส.เพื่อไทย ยื่นบัญชีฯเท็จ
เงินลงทุน 2 แห่ง 2.3 ล. นายก อบต.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี-เมีย คดียื่นเท็จ ป.ป.ช.
เจาะไส้ใน 10 นักการเมืองท้องถิ่นซุกทรัพย์สินอย่างไร? ก่อนศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
ศาลฎีกาฯฟัน 10 นักการเมืองท้องถิ่น ยื่นบัญชีฯเท็จ-ให้พ้นตำแหน่งทันที 6 คน
สรรพากรสอบภาษี ห้างรับเหมา นายกเทศฯพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี- คู่สัญญารัฐ 26 ล้าน
ดูชัดๆ นายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี-เมีย โยกหุ้น 2 บ.12 ล้าน - ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
โผล่อีกบริษัท! นายกเทศมนตรี ต.พรหมบุรี สิงห์บุรี ถือหุ้น 9.8 ล. ไม่แจ้ง ป.ป.ช.
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี ถือหุ้น หจก. 2 ล.ไม่แจ้ง ป.ป.ช.- อ้าง จนท.ขอดูแค่ทรัพย์สินบุคคล
นายกเทศมนตรีพรหมบุรี สิงห์บุรี คดียื่นบัญชีฯเท็จ มีทรัพยสิน 172 ล.- รายได้ 427.2 ล.
ศาลฎีกาฯฟันนายกเทศมนตรีพรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ซุก ป.ป.ช. เงินฝาก 10 ล. ที่ดิน 3 แปลง
4 คดีทรัพย์สินนักการเมืองท้องถิ่น ศาลฎีกายกคำร้อง เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.ใหม่บังคับ
สรุปคำพิพากษาฟัน 4 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ปัตตานี สกลนคร กาญจนบุรี ตาก ไม่ยื่นบัญชีฯ
พฤติกรรม ส.อบจ.ลำปาง ซุกเงินฝาก เงินกู้ยืม ป.ป.ช.-ศาลจำคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี
ศาลฎีกาฯสั่งจำคุก 2 เดือน ไม่รอลงโทษ นักการเมืองท้องถิ่น จ.อุตรดิตถ์ ไม่ยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ศาลฎีกาฯคุก 1 เดือน รอลงโทษ 1 ปี 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.สุราษฎร์ฯ-ร้อยเอ็ดไม่ยื่นบัญชีฯ
ศาลฎีกาฯสั่งคุก 1 เดือน-รอลงโทษ 1 ปี รองฯเทศมนตรี จ.นครสวรรค์ ซุกหุ้น-เงินฝาก 13 บัญชี
ศาลฎีกาฯยกคำร้อง 2 นักการเมืองท้องถิ่น จ.ลำพูน-นราฯ ซุกบัญชีฯ เหตุ ป.ป.ช.ยื่นหลัง กม.บังคับ
ดูชัดๆ อดีตปธ.สภา อบจ.สมุทรสาคร ซุกหุ้น 2 บ. ศาลฎีกาฯฟันยื่นบัญชีฯเท็จ
อย่าลืมฉัน! สมบัติ-นพ.วีระวุฒิ-เมียอริสมันต์ มีคดีรวยผิดปกติในศาลฎีกาฯปี 62
รายชื่อ 190 คนไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สินรอบปี 61 - รองนายก อบต.อื้อ 93 ราย
เผยปี 2561 คดีไม่ยื่นบัญชีฯ-ซุกทรัพย์สิน ทะลัก 190 คน ‘ธาริต-พงศ์พัฒน์-ชูวิทย์’ติดกลุ่ม