คิดต่างกัน! 120 อดีตผู้สมัคร ส.ส.-สมาชิก อนค.แห่ลาออกพ้นพรรค-ปัดต่อรองเก้าอี้
‘นิพนธ์ แจ่มจำรัส’ หอบอดีตผู้สมัคร ส.ส.-สมาชิกพรรค อนค. ร่วม 120 คน ยื่น กกต. แห่ลาออก ยันไม่ได้คิดร้ายแก่พรรค แต่ก่อน-หลังเลือกตั้ง ความคิด-อุดมการณ์ต่างกัน ปัดต่อรองเก้าอี้ ซัดแค่คำพูดเล็ก ๆ น้อย ๆ รักษาไม่ได้ จะทำนโยบายลงสู่ประชาชน 60 ล้านคนได้อย่างไร
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2562 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายนิพนธ์ แจ่มจำรัส อดีตผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี เขต 2 พรรคอนาคตใหม่ พร้อมอดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ และสมาชิกพรรคกว่า 90 ราย ทยอยเข้ายื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง (พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการ กกต.)
นายนิพนธ์ กล่าวว่า พวกเราต้องการสื่อให้เห็นว่า ความคิด อุดมการณ์ของเรากับพรรคอนาคตใหม่มีความแตกต่างกัน แต่เรายังรัก มีความปรารถนาดีต่อพรรคอนาคตใหม่ และศรัทธาในนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ ไม่ได้มีความคิดร้ายต่อกัน เราไม่ได้มีการทำร้ายพรรค หรือทำให้พรรคสั่นสะเทือน
“พวกเราเข้าร่วมกับพรรคอนาคตใหม่ ในวันที่พรรคไม่ได้มีชื่อเสียง เป็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งพรรค แต่วันนี้เป็นพรรคที่มีชื่อเสียง เป็นที่ยอมรับจากภาคส่วนต่าง ๆ แต่เมื่อเรามีความคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคพวกเราจึงขอเดินออกมาเอง และก็ไม่มีอะไรค้างคาใจหรือบาดหมางกัน ส่วนเส้นทางทางการเมืองหลังจากนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองอื่นติดต่อมา พวกเราคงจะกลับบ้านตามเส้นทางชีวิตของแต่ละคน” นายนิพนธ์ กล่าว
เมื่อถามถึงสาเหตุที่ทำให้กลุ่มอดีตผู้สมัคร ส.ส. และสมาชิกพรรคลาออก นายนิพนธ์ กล่าวว่า ความคิดและอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพรรคในปัจจุบัน ทั้งที่เข้ามาอย่างมีความตั้งใจจริงมุ่งหวังจะทำงานการเมืองให้เกิดประโยชน์ มีการสมัครสมาชิกพรรคตลอดชีพ แต่วันนี้จำเป็นต้องถอยออกเพราะพรรคอนาคตใหม่ก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้งมีความแตกต่างกัน
ส่วนกรณีถูกตั้งข้อสังเกตว่าลาออกเพราะไม่ได้รับตำแหน่งทางการเมืองนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะสมาชิกทุกคนไม่มีใครต่อรองหรือเรียกร้องเรื่องนี้ แต่ต้องการจะสื่อให้เห็นว่าตรงนี้เป็นแค่ส่วนย่อยที่ทำให้เกิดปัญหา แต่เรื่องสัญญาและสัจจะของผู้นำนั้นเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าไม่มีสัจจะในฐานะผู้นำแล้วเราจะนำประชาชนทั้งประเทศให้ไปสู่จุดมุ่งหมายตามนโยบายได้อย่างไร ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องการต่อรองตำแหน่งแต่อย่างใด
“ส่วนของการให้สัญญาผมเคยให้ข่าวหลายครั้งแล้วว่า การต่อรองตำแหน่งไม่ได้เกิดจากการที่พวกเราเรียกร้องหรือร้องขอ แต่เป็นสัญญาจากพรรคที่ให้สัญญาจากที่ประชุม เมื่อคำมั่นสัญญาต่างๆเหล่านั้น มีเรื่องอื่นทับถมขึ้นมาเรื่อยๆ เราจึงรู้สึกว่าผู้นำของเราไม่รักษาคำพูด เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังรักษาคำพูดไม่ได้แล้วจะไปทำนโยบายที่ลงไปสู่ประชาชนอีก 60 ล้านคนได้อย่างไร” นายนิพนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ใดที่ทำให้รู้สึกว่าพรรคอนาคตใหม่ ก่อนเลือกตั้งกับหลังเลือกตั้งไม่เหมือนกัน นายนิพนธ์ กล่าวว่า เรื่องการอภิปรายงบประมาณ หรือตัวคนของพรรค หรือตัว ส.ส.ของพรรคที่ตกเป็นข่าว และวันนี้พรรคยังไปโจมตีผู้สมัคร ซึ่งตนมองว่าพรรคการเมืองเปรียบเสมือนพ่อแม่ ส.ส. เปรียบเสมือนลูก เมื่อลูกออกไปนอกบ้านแล้วคนในสังคมบอกว่าลูกท่านสร้างความเดือดร้อน ท่านจะฟันธงว่าลูกทำผิด หรือจะดึงลูกออกจากจุดขัดแย้งแล้วมาว่ากล่าวตักเตือนลูก ทำไมไม่ว่ากล่าวกันในพรรค ทุกวันนี้ก็มีอยู่แล้วเรื่องกระแสการขับไล่ต่าง ๆ มากมาย
ส่วนกรณีมาดำเนินการเรื่องนี้ในช่วงที่พรรคอนาคตใหม่อยู่ในช่วงขาลง นายนิพนธ์ กล่าวว่า ไม่คิดว่าเป็นช่วงขาลงของพรรค เพราะยังมีสมาชิกที่สนับสนุนพรรคและทางกลุ่มที่ลาออกก็ยังให้การสนับสนุนและเฝ้าดูการนำนโยบายลงไปสู่การปฏิบัติ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/