ยอดพุ่งเกือบ 80 ราย ! กงสุลไทยเตือนภัยเที่ยวสหรัฐ3เมืองใหญ่ มิจฉาชีพทุบรถลักทรัพย์สิน
สถานกงสุลใหญ่ นครลอสแอนเจลิส ออกประกาศฉบับใหม่ แจ้งเตือนคนไทย ท่องเที่ยว 3 เมืองใหญ่สหรัฐฯ ซานฟรานฯ-ลอสแอนเจลิส- ลาสเวกัส ระวังภัยมิจฉาชีพทุบรถโจรกรรมทรัพย์สิน หลังพบยอดเพิ่ม มค.-กย. 62 โดนไปแล้วเกือบ 80 ราย
สืบเนื่องจาก สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org เคยรายงานข่าวไปแล้วว่า ในช่วงเดือนก.ค.2562 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกประกาศที่ 10 / 2562 แจ้งเตือนภัยคนไทยที่เดินทางไปนครซานฟรานซิสโก นครลอสแอนเจลิส และเมืองลาสเวกัส หลังพบว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 มีนักท่องเที่ยวไทยกว่า 40 ราย ที่ ถูกทุบรถยนต์เพื่อโจรกรรมทรัพย์สิน อันเป็นเหตุให้หนังสือเดินทางสูญหายไปด้วย โดยเฉพาะที่นครซานฟรานซิสโก นครลอสแอนเจลิส และเมืองลาสเวกัส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม (อ่านประกอบ : กงสุลเตือนเที่ยวสหรัฐ3เมืองใหญ่ ระวังมิจฉาชีพทุบรถโจรกรรมทรัพย์สิน โดนแล้วกว่า 40 ราย)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 22 ต.ค.2562 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ออกประกาศที่ 14 / 2562 เรื่อง เตือนภัยคนไทยที่เดินทางไปนครซานฟรานซิสโก นครลอสแอนเจลิส และเมืองลาสเวกัส อีกครั้ง
หลังปรากฎข้อมูลว่า ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย.2562 ยังคงมีนักท่องเที่ยวไทยเกือบ 40 ราย ที่ ถูกทุบรถยนต์เพื่อโจรกรรมทรัพย์สิน อันเป็นเหตุให้หนังสือเดินทางสูญหายไปด้วย โดยเฉพาะที่นครซานฟรานซิสโก นครลอสแอนเจลิส และเมืองลาสเวกัส ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมเช่นเดิม
เบื้องต้น สถานกงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ย้ำในประกาศแจ้งเตือนภัยและให้คําแนะนํามาอีกครั้ง ดังนี้
(1) พยายามไม่นําของมีค่าและเงินสดติดตัวมาจากประเทศไทยเกินความจําเป็น
(2) เฝ้าระวังทรัพย์สินมีค่าอย่างใกล้ชิดและอย่าวางสัมภาระหรือกระเป๋าไว้ในรถยนต์ โดยเฉพาะบนเบาะที่นั่ง ที่จะเป็นเป้าสายตา ทั้งนี้ หากมีความจําเป็นให้เก็บสัมภาระไว้ในที่มิดชิด อาทิ ในกระโปรงท้ายรถยนต์
(3) ควรเก็บสําเนาหนังสือเดินทางไว้ หรือถ่ายรูปหนังสือเดินทางและเอกสารตรวจลงตรา (วีซ่า) เก็บไว้ในโทรศัพท์มือถือหรือที่อื่นๆ เพื่อกรณีฉุกเฉิน
(4) แยกเก็บสิ่งของมีค่าและยารักษาโรคไว้หลายๆ ที่และควรพกติดตัวไว้ส่วนหนึ่ง
(5) ทําประกันการเดินทาง ที่ครอบคลุมทั้งอุบัติเหตุและการเจ็บป่วย
(6) เมื่อประสบเหตุ ให้รีบแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตํารวจ และติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ที่สายด่วนฉุกเฉิน 323 580 4222 (ดูประกาศฉบับเต็มที่นี่)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
