ผวจ.พิษณุโลกแจงได้คะแนน'คุณธรรมโปร่งใส'ปี 62 ต่ำสุด อ้างระบบ ป.ป.ช. บกพร่อง
‘พิพัฒน์ เอกภาพันธ์’ ผู้ว่าฯ จ.พิษณุโลก แจงปมได้คะแนน ITA ปี 62 ติด F ต่ำสุดใน 74 จังหวัด อ้างข้อมูล ป.ป.ช. คลาดเคลื่อน-บกพร่อง เหตุเปลี่ยนมาใช้เป็นระบบออนไลน์ ยืนยันทำงานมา 1 ปี เปลี่ยนยุทธศาสตร์เบิกจ่ายจากลำดับที่ 74 เป็นลำดับ 3 ของประเทศ ลั่นหากไม่โปร่งใสจริงคงถูกตรวจสอบแล้ว
จากกรณีสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยผลคะแนนการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Intergrity & Transparency Assessment : ITA) ประจำปีงบประมาณ 2562 โดยสอดคล้องตามแผนแม่บทยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ซึ่งกำหนดเกณฑ์ผ่านร้อยละ 80 ขึ้นไป โดยในส่วนของรายจังหวัดพบว่า จ.พิษณุโลก จังหวัดเดียวที่ติด F ได้คะแนน 47.65 คะแนน ถือว่าต่ำที่สุด จากจำนวนจังหวัดที่เข้ารับการประเมินทั้งสิ้น 74 จังหวัด (อ่านประกอบ : เปิดชื่อ 71 หน่วยงานรัฐ สอบตกเกณฑ์ประเมินคุณธรรมโปร่งใส ปี 62 -'จุฬา- มธ.' ไม่ผ่านด้วย)
เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา ไทยรัฐออนไลน์ รายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายพิพัฒน์ เอกภาพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ชี้แจงถึงกรณีนี้ว่า เรื่องการติด F เพียงจังหวัดเดียวของจังหวัดพิษณุโลก ผลจากการประเมิน ของ ป.ป.ช.มีจังหวัดที่ไม่ผ่านมากกว่า 20-30 จังหวัด ผลการประเมินได้ B ก็ไม่ผ่าน จังหวัดที่ผ่านต้องได้ A เท่านั้น แต่ที่จังหวัดพิษณุโลกได้ F อยากบอกว่า ตนมาดำรงตำแหน่ง 1 ปีที่ผ่านมาดำเนินการอะไรไปบ้าง 5-6 ปีที่ผ่านมาการเบิกจ่ายลำดับท้าย ยุทธศาสตร์จังหวัดเป็นลำดับที่ 74 แต่ปีนี้เราเป็นลำดับที่ 3 ของประเทศ การบริหารจัดการงบประมาณของเรามีการปฏิรูป เราสามารถมีระบบงานที่ประมูล ฟันงบประมาณ มีงบเหลือ ถ้าทำงานช้างบเหลือจ่ายก็ไม่ทัน จาก 74 เป็นอันดับ 3 ของประเทศ
นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า งบกลุ่มจังหวัดพิษณุโลกมี 5 จังหวัด พิษณุโลก อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ ปีที่แล้วกลุ่มจังหวัดเราได้ที่ 17 ปีนี้ได้ลำดับที่ 2 ของประเทศ งบประมาณในภาพรวมทั้งจังหวัดพิษณุโลกหมื่นกว่าล้านบาท อุปสรรคของเราคือ เราเป็นภาค มีหน่วยทหาร มหาวิทยาลัยหลายมหาวิทยาลัย อยู่ในการเบิกจ่ายของจังหวัดเรา ปีที่แล้วลำดับที่ 60 แต่ปีนี้ลำดับที่ 22 ที่กล่าวมา การบริหารจัดการงบประมาณเราประสบความสำเร็จดีเยี่ยม การเบิกจ่ายงบประมาณมีความโปร่งใส ถ้าไม่โปร่งใส ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้ว
"แต่สำหรับการประเมินเป็นการรายงาน ป.ป.ช.ในรูปแบบออนไลน์ มีความคลาดเคลื่อนของ ป.ป.ช. เพราะ ป.ป.ช.ต้องจ้างนักวิจัยมาประเมินเรามีคะแนน ด้านการปฏิบัติหน้าที่ 87.66 ถือว่าดีมาก การใช้งบประมาณ ได้ 74.29 การใช้อำนาจผู้บริหารจัดการของผู้ว่าราชการจังหวัด 81.28 การใช้ทรัพย์สินของราชการ 74.62 การแก้ไขปัญหาทุจริต 76.54 คุณภาพการดำเนินงาน 82.65 ประสิทธิภาพการสื่อสาร 80.53 ส่วนที่ไม่มีเลยคือ 0 ก็คือความผิดพลาดของ ป.ป.ช. ระบบ เขาเปิดไม่เจอข้อมูล ซึ่งเรายืนยันว่าเรามี แต่คะแนนตรงนี้ไม่มี เรากำลังอุทธรณ์ แต่ไม่แน่ใจว่าเราจะได้ A ซึ่งเป็นการผ่านการประเมินหรือไม่" นายพิพัฒน์ กล่าว
นายพิพัฒน์ กล่าวด้วยว่า การเป็นจังหวัดเดียวที่ติด F เรื่องคะแนนตัวชี้วัดความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปี 2562 ซึ่งปีนี้เป็นปีแรกที่ผู้ประเมินเปลี่ยนแนวทางการประเมินผ่านระบบออนไลน์ เว็บไซต์จังหวัดและเว็บไซต์หน่วยงาน (red flag) กลุ่มเป้าหมายที่รับการประเมินคือส่วนราชการสังกัดภูมิภาคทุกหน่วย จังหวัดพิษณุโลกมี 34 หน่วย ที่จะต้องนำเข้าข้อมูลรายละเอียดการดำเนินงานตามกรอบที่ผู้ประเมินกำหนด 48 รายการ เช่น แผนการดำเนินงานประจำปี รายงานการกำกับติดตามการดำเนินงานประจำปี รายงานผลการดำเนินงานตามแผนฯ คู่มือหรือมาตรฐานการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ คู่มือการให้บริการ เป็นต้น ต้องเผยแพร่ลงเว็บของหน่วยงานและต้องลิงก์กับเว็บจังหวัด
"หากผู้ประเมินเข้าเว็บจังหวัดแล้วลิงก์ไปหาข้อมูลจากเว็บหน่วยงานไม่ได้ ก็จะไม่ได้คะแนน ซึ่งผลคะแนน ITA ของ จ.พิษณุโลกในปีนี้ ได้ระดับคะแนน F ไม่ได้หมายความว่าเราไม่โปร่งใส แต่เป็นความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบตัวชี้วัดดังกล่าวทั้งระดับจังหวัด ระดับหน่วยงาน และหัวหน้าส่วนราชการที่ขาดการกำกับติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่จะต้องนำข้อมูลลงเว็บไซต์ หรือแจ้งให้ผู้บริหารจังหวัดทราบเพื่อแก้ไขปัญหาหรือเร่งรัดหน่วยงานดำเนินการ ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบวิเคราะห์ข้อบกพร่องจากผลคะแนนในปีนี้ เพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงการดำเนินงานในปีต่อไป แต่สำหรับผลในปีนี้ที่ติด F ขอเวลาอุทธรณ์ ไปยัง ป.ป.ช.กรณีข้อมูลรายงานที่หายไปจากระบบก่อน" ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก กล่าว
อ่านประกอบ : ฟังคำชี้แจง พล.ท.สรรเสริญ- อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯ ไฉนสอบตกประเมินคุณธรรมโปร่งใส ปี 62
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/