ไร้ความมั่นคงเสถียรภาพไม่เกิด!‘บิ๊กตู่’ แจงงบปี 63 ‘สมพงษ์’ซัดไม่ตอบโจทย์-ไล่ไปร่างใหม่
‘บิ๊กตู่’ ร่ายยาวชี้แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 63 ทำตามแผนยุทธศาสตร์ชาติทุกแม่บท จัดสรรด้านความมั่นคง 4.2 แสนล้าน ส่งเสริมศักยภาพมนุษย์ 5.7 แสนล้าน สร้างความเสมอภาคในสังคม 7.6 แสนล้าน ลั่นไม่มีความมั่นคง เสถียรภาพไม่เกิด ขอให้ศึกษารายละเอียดให้ดี ไม่ได้เทให้แค่ ก.กลาโหม ด้าน ‘สมพงษ์’ซัดนโยบายแจกเงินสิ้นคิด-ไล่ รบ.กลับไปร่างใหม่ ชี้แก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2562 ที่รัฐสภาใหม่ (เกียกกาย) มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 3.2 ล้านล้านบาท ในวาระแรก (ขั้นรับหลักการ)
@‘ประยุทธ์’ร่ายยาว 2 ชม.แจง พ.ร.บ.งบปี 63-ลั่นไร้ความมั่นคงเสถียรภาพไม่เกิด
เบื้องต้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงในการอ่านคำแถลงประกอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยแจกแจงรายละเอียดต่าง ๆ ของงบประมาณ โดยในช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า อยากจะฝากทุกท่านว่า กรุณาศึกษารายละเอียด ท่านศึกษามาอยู่แล้ว แต่อย่าศึกษาเฉพาะประเด็นที่จะสร้างความไม่เข้าใจต่อกัน ถ้าถามมา อธิบายมา ตนก็รับฟังและคิดว่ารัฐมนตรีทุกคนก็รับฟัง และยังมีการพิจารณาวาระสองต่อไป วันนี้อยู่ในวาระแรกเท่านั้นเอง ขอร้องว่าอย่าไปดูเฉพาะยอดวงเงินของกระทรวงเขา จะต้องดูรายละเอียดข้างในว่า มีการทำงานอย่างไร ซึ่งตัวเลขทั้งหมดคือตัวเลข 3.2 ล้านล้านบาท ที่มีการแบ่งเป็นงบรายจ่ายประจำ งบกลางและงบต่างๆ ไปดูว่างบกระทรวงศึกษาทำไมถึงน้อยลง ก็เพราะเอาไปเพิ่มให้กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม แล้วจะมาบอกว่างบการศึกษาลดลงได้อย่างไร ไปดูงบของกระทรวงกลาโหม ทำอย่างไรเขาซื้ออะไรแค่ไหน ตรงไหน
“ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า สมาชิกผู้ทรงเกียรติจะให้การสนับสนุน ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้เพื่อที่รัฐบาลจะยึดถือเป็นหลักในการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์แก่ชาติและประชาชนต่อไป ซึ่งการทุจริตก็เป็นอีกเรื่องไปตรวจสอบกันมา มีองค์กรต่างๆทั้งหมดที่ตรวจสอบ ซึ่งก็มีการตรวจสอบมาอย่างนี้ 5 ปีรัฐบาลที่ผ่านมาหรือรัฐบาลสมัยก่อนก็โดนทั้งนั้น แต่ชี้แจงได้ก็จบ ขอให้เข้าใจตรงนี้ด้วยเจตนาของผม ไม่ได้จะทำอะไรเพื่อใคร ผมเห็นสายตาประชาชนเวลาไปเยี่ยมตามต่างจังหวัดบางทีก็จุกคอเหมือนกัน เขาไม่มีอาชีพและไม่รู้ว่าจะทำอะไร ซึ่งคนเหล่านี้มีจำนวนมาก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ถ้าความมั่นคงไม่เกิดขึ้น ความมีเสถียรภาพไม่เกิด เศรษฐกิจก็พัฒนาไม่ได้ ก็เห็นตัวอย่างในต่างประเทศแล้ว เราไม่ต้องการเดินไปสู่จุดนั้น ตนก็หวังอย่างยิ่งว่าทุกท่านคงให้ความเห็นชอบ ก็แล้วแต่ท่านจะพิจารณา แต่กรุณาดูทั้งหมด ตนหวังว่าจะมีอะไรที่เป็นประโยชน์ ที่รัฐบาลจะสามารถทำงานให้ท่านได้ ตนต้องการแบบนั้น ตรงนั้นตรงนี้เป็นอย่างไรก็สอบถามกันมาได้หรือไม่ แทนที่จะมาว่ากันไปกันมามันไม่เกิดประโยชน์
(พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม)
@จำแนกงบ 7 ส่วน 6 กลุ่มยุทธศาสตร์ชาติ-ด้านความมั่นคง 4.2 แสนล้าน
สาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่รัฐบาลส่งเอกสารให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณานั้น จำแนกออกเป็น 7 ส่วน ได้แก่ งบกลาง 518,770.9 ล้านบาท (16.2%) หน่วยรับงบประมาณ 1,131,765.3 ล้านบาท (35.4%) งบบูรณาการ 235,091 ล้านบาท (7.3%) งบรายจ่ายบุคลากร 777,267.6 ล้านบาท (24.3%) งบสำหรับทุนหมุนเวียน 202,268.6 ล้านบาท (6.3%) งบเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ 272,127.1 ล้านบาท (8.5%) และงบเพื่อชดใช้เงินคงคลัง 62,709.5 ล้านบาท (2%)
โดยยุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 ระบุว่า จัดทำขึ้นเพื่อสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ (พ.ศ. 2561-2580) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) และแผนการปฏิรูปประเทศ นโยบาย และแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2560-2564) แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ดังนี้
1.ยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคง จัดสรรงบไว้ทั้งสิ้น 428,190.6 ล้านบาท (13.4%) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีความสุข ประเทศมีความมั่นคง ปลอดภัย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับและทุกมิติ มุ่งเน้นการรักษาความสงบภายในประเทศ ป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง พัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ เป็นต้น
2.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน จัดสรรงบไว้ทั้งสิ้น 380,803.1 ล้านบาท (11.9%) เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันและสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ มุ่งเน้นการพัฒนาการเกษตร ส่งเสริมอุตสาหกรรม และบริการแห่งอนาคต อุตสาหกรรมทางการแพทย์ ข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์ การสร้างความหลากหลายในการท่องเที่ยว เป็นต้น
3.ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ จัดสรรงบไว้ทั้งสิ้น 571,073.8 ล้านบาท (17.8%) เพื่อเตรียมคนในสังคมไทยสำหรับการดำรงชีวิตในโลกศตวรรษที่ 21 มุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนค่านิยมและวัฒนธรรมด้วยการปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม รวมทั้งเสริมสร้างจิตสาธารณะและการเป็นพลเมืองดี การพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิตเน้นพัฒนาคุณภาพคนในทุกช่วงวัย เป็นต้น
4.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม จัดสรรงบไว้ทั้งสิ้น 765,209.4 ล้านบาท (23.9%) เพื่อสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม มุ่งเน้นการเสริมสร้างพลังทางสังคมด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การเตรียมสังคมไทยให้พร้อมรองรับสังคมสูงวัย เป็นต้น
5.ยุทธศาสตร์ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จัดสรรงบไว้ทั้งสิ้น 118,700.2 ล้านบาท (3.7%) เพื่อสร้างความสมดุลและยั่งยืนของฐานทรัพยากรธรรมชาติ โดยมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนบนสังคมเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจภาคทะเล สังคมที่เป็นมิตรต่อสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
6.ยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ จัดสรรงบไว้ทั้งสิ้น 504,686.3 ล้านบาท (15.8%) เพื่อพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐให้มีประสิทธิภาพสนองตามความต้องการของประชาชนและภาคธุรกิจ มุ่งสู่ความเป็นรัฐบาลดิจิทัลที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เป็นต้น
(สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภา, ภาพจาก แนวหน้าออนไลน์)
@‘สมพงษ์’ซัดนโยบายแจกเงินสิ้นคิด-ให้ รบ.กลับไปร่างใหม่ เหตุแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ได้
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น. นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร อภิปรายว่า ฟังที่ พล.อ.ประยุทธ์ แถลงงบประมาณแล้วมีความซาบซึ้ง เพราะต้องการเห็นบ้านเมืองให้เจริญรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีคำถามกลับไปยังนายกรัฐมนตรีว่า ทำไมเมื่อ 5 ปีที่แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ทำอะไรเลย ทั้งนี้อยากให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน เพราะประชาชนกำลังประสบปัญหากับภาวะเศรษฐกิจอย่างยากลำบาก
นายสมพงษ์ กล่าวด้วยว่า ต้องยอมรับว่ารัฐบาลชุดนี้มีปัญหาในด้านความชอบธรรม อาจสังเกตได้จากการถวายสัตย์ปฏิญาณไม่ครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาไม่ได้อธิบายถึงแหล่งที่มาของงบประมาณ และไม่ได้แสดงถึงความคุ้มค่า โดยปัญหาเหล่านี้จะติดตามรัฐบาลไปตลอด จากการวิเคราะห์และพิจารณางบประมาณที่ พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวและส่งมาให้ เรียนว่าฝ่ายค้าน โดยเฉพาะตน อยากฝากไปยังรัฐบาลว่าให้นำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่เสนอวันนี้ กลับไปร่างใหม่ เนื่องจากงบประมาณฉบับนี้ไม่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง และไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศที่อยู่ในภาวะวิกฤติได้
“หลายปีที่ผ่านมา งบของกระทรวงกลาโหมเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ปีนี้หากดูงบประมาณ มีการเพิ่มขึ้นถึงกว่า 6 พันล้านบาท รายจ่ายเหล่านี้ไม่ได้สร้างความกินดีอยู่ดีให้กับประชาชน ซึ่งประชาชนขณะนี้เสียภาษี ทั้ง ๆ ที่ลำบากอยู่ แต่กลับทุ่มเทไปด้านความมั่นคง และกระทรวงกลาโหม ไม่ถือเป็นความจำเป็น หากใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เศรษฐกิจจะขยายตัว ประชาชนจับจ่ายใช้สอยและจัดเก็บภาษีได้เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การแจกเงินที่ผ่านมา ก็แจกแบบสิ้นคิด ด้วยเหตุผลทั้งหมดทำให้ผมไม่สามารถเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ฉบับนี้ได้” นายสมพงษ์ กล่าว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/