ปปง.ยึดทรัพย์ 39 ล. บ.เซาท์เทิร์นฯ-เสี่ยจาง พวก แฉโอนหุ้นให้นอมินี ฟอกเงินยาเสพติด
ปปง.ยึดอายัด บ้าน ที่ดิน รถยนต์ เงินฝาก 39 ล. จ.ตาก บ.เซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป-สือ ทรงกิตติกุล กับ พวก ฟอกเงินขบวนการค้ายาเสพติด แฉพฤติกรรมโอนหุ้นให้ ‘ ประพัตร แซ่ต๋วง’ หลังรัฐบาลพม่าออกหมายจับ เชื่อมโยง ‘บอย นาคคำ’
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 19 ก.ย.2562 คณะกรรมการธุรกรรมในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีคำสั่งที่ 134/2562 ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว กลุ่มนายณัฐพล นาคคำ หรือบอย นาคคำ นายสือ ทรงกิตติกุล หรือมังกรจาง และ นายประพัตร แซ่ต๋วง เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ฐานฟอกเงิน โดยมีทรัพย์สินที่ถูกยัดและอายัด 19 รายการ มูลค่า 39,693,329.73 บาท ประกอบด้วย รถยนต์ รถแทรคเตอร์ เงินฝากธนาคาร เงินฝากสลากออมสิน อยู่ในชื่อของบุคคลและนิติบุคคล 5 ราย ได้แก่ นายประพัตร แซ่ต๋วง บริษัท เซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป จำกัด นายสือ ทรงกิตติกุล นางหมีพอ เบซิกู่ นายเริงฤทธิ์ เบซกู่ และบริษัท เซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป จำกัด/นายสือ ทรงกิตติกุล ในจำนวนนี้เป็นโฉนดที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 3 แปลงเนื้อที่ 22 ไร่ 96 ตารางวาอยู่ในชื่อ บริษัท เซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป จำกัด/นายสือ ทรงกิตติกุล มูลค่า 30 ล้านบาท
สำนักข่าวอิศรรายงานว่า คำสั่งในการยึดอายัดระบุว่า ด้วยสํานักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สํานักงาน ปปง.) ได้รับรายงาน จากกองบังคับการตํารวจปราบปรามยาเสพติด 1 กองบัญชาการตํารวจปราบปรามยาเสพติด ตามหนังสือที่ ตข 0027.22/655 ลงวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2560 เรื่อง ขอให้ตรวจสอบชื่อบัญชี และตามหนังสือที่ ตช 0027.22/1007 ลงวันที่ 7 มีนาคม 2560 เรื่อง รายงานการจับกุมและดําเนินคดีในความผิด ฐานฟอกเงิน รายนายณัฐพล หรือบอย นาคคํา กับพวก ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทําความผิด เกี่ยวกับยาเสพติด กล่าวคือ
คำสั่งระบุอีกว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 เจ้าหน้าที่ตํารวจได้ร่วมกันจับกุมนายชัยวัฒน์ หรือแป๊ะ ชูสาย กับนายณัฐพล หรือบอย นาคคํา พร้อมด้วยของกลาง เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ในประเภท 2 (เคตามีน) จํานวนประมาณ 20 กิโลกรัม โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิต และประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและมีไว้ในครอบครอง เกินปริมาณที่รัฐมนตรีประกาศกําหนด นําส่งพนักงานสอบสวน ดําเนินคดีตามกฎหมาย ตามคดีอาญาที่ 16/2560 ต่อมามีการสืบสวนสอบสวนขยายผล พบว่านายณัฐพล หรือบอย นาคคํา มีการติดต่อสั่งซื้อ ยาเสพติดจากกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยได้มีการติดต่อกับนายอกฤษณ์ หรืออาผะ รุ่งศิริธีระวงศ์ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลการติดต่อในโทรศัพท์มือถือของนายณัฐพล หรือบอย นาคคํา พบว่า มีการติดต่อกับนายอกฤษณ์ หรืออาผะ รุ่งศิริธีระวงศ์ เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดและการจ่ายเงินค่าดําเนินการ ขนลําเลียงยาเสพติดและค่ายาเสพติดจํานวนมาก ซึ่งเป็นการติดต่อก่อนที่จะมีการจับกุมนายชัยวัฒน์ หรือแป๊ะ ชูสาย กับนายณัฐพล หรือบอย นาคคํา เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2560 พบข้อความที่นายอกฤษณ์ หรืออาผะ รุ่งศิริธีระวงศ์ ส่งมาให้นายณัฐพล หรือบอย นาคคํา ให้ดําเนินการโอนเงินค่าขนลําเลียงยาเสพติดเข้าบัญชี เงินฝากธนาคาร จํานวน 9 บัญชี โดยหนึ่งในบัญชีนั้นเป็นบัญชีของนายประพัตร แช่ต๋วง และยังพบว่านางสาวอังสุพร ยินา ผู้ทําหน้าที่ด้านการเงินให้นายณัฐพล นาคคํา ยังโอนเงินให้นายประพัตร แช่ต๋วง หลายครั้ง โดยนายประพัตร แซ่ต๋วง เป็นพนักงานของบริษัทเซาท์เทิร์น ครอส กรุ๊ป จํากัด มีนายสือ ทรงกิตติกุล เป็นเจ้าของและกรรมการ ผู้มีอํานาจลงนามผูกพันบริษัท โดยนายสือ ทรงกิตติกุล เป็นบุคคลที่ทางการสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ออกหมายจับในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และหลังจากที่มีการออกหมายจับของสาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมา นายสือ ทรงกิตติกุล ได้โอนหุ้นของบริษัทดังกล่าวให้นายประพัตร แซ่ต๋วง และนายธิติพัทธ์ จันคําแส่ง ถือแทน ในส่วนเส้นทางการเงิน พบว่ามีการรับโอนเงิน ฝากเงิน จากบัญชีของบุคคลต่างๆ และฝากเงินสดผ่านตู้เอทีเอ็มจากหลายพื้นที่มายังบัญชีของนายประพัตร แช่ต๋วง และมีการรับโอนเงิน จากนายสือ ทรงกิตติกุล จํานวนมากผิดปกติวิสัย จึงน่าเชื่อว่านายประพัตร แช่ต๋วง นายสือ ทรงกิตติกุล มีพฤติการณ์สมคบและร่วมกัน ในการโอน รับโอนเงินที่เกี่ยวกับการกระทําผิดเกี่ยวกับยาเสพติด อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และกรณีมีเหตุ อันควรเชื่อได้ว่านายณัฐพล นาคคํา นายสือ ทรงกิตติกุล นายประพัตร แช่ต๋วง กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทําความผิดดังกล่าว
เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบการทำธุรกรรมของบุคคลดังกล่าวปรากฎหลักฐานเป็นที่เชื่อได้ว่า นายณัฐพล นาคคำ นายสือ ทรงกิตติกุล นายประพัตร แช่ต๋วง กับพวก มีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐาน ตามมาตรา 3 (1) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 จึงนำไปสู่คำสั่งยึดอายัดทรัพย์สินบุคคลดังกล่าว
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2561 เจ้าหน้าที่ เข้าตรวจค้นและอายัดทรัพย์สินที่ได้มาจากการค้ายาเสพติด นายอาสือหรือนายสือ ทรงกิตติกุล หรือ เสี่ยจาง หนึ่งในนั้นคือบุกตรวจค้นบริษัท เซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป จำกัด ในจ.ตาก ซึ่งเป็นบริษัทเจียระไนอัญมณี ตั้งขึ้นมาบังหน้า โดยมี นายประพัตร แซ่ต๋าง ลูกน้องเป็นคนดูแล
ทั้งนี้ บริษัท เซาท์เทิร์น ครอส กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียน เวันที่ 27 พ.ย. 2557 ประกอบธุรกิจเจียรไน พลอย ทอง เงิน นาก อัญมนี ที่ตั้งเลขที่ 463 หมู่ที่ 9 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก โดยมีนายสือ ทรงกิตติกุล ถือหุ้นใหญ่ ร่วม นายวอง มาอู ฮัง (สัญชาติจีน) และ นางมีจู แซ่หลิว หลังจากนั้น ย้ายสำนักงานที่ตั้งเลขที่ 200 หมู่ที่ 9 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก และให้ นายประพัตร แซ่ต๋วง เข้ามาถือหุ้นใหญ่ และเป็นกรรมการ นายประพัตรถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมไปแล้ว
อ่านประกอบ:
โผล่อีก 2 บัญชี 14 ล. เงินฝาก‘อาสือ-มังกรจาง’หน.ขบวนการค้ายาเสพติดใหญ่
เปิดสเตทเม้นท์ บ.ค้าอัญมณี‘มังกรจาง’ หน.ค้ายาเสพติดใหญ่ หมุนเวียนสูงสุด 7 ล.
โชว์เอกสารหิ้วเงินสด 7 ล.เปิดบัญชีแบงก์ เพิ่มทุน บ.‘มังกรจาง’ผู้ค้ายาเสพติดใหญ่
เปิด บ.ฟอกเงิน‘มังกรจาง’พ่อค้ายาเสพติดใหญ่ 3 คนถือหุ้น - แจ้งรายได้ 62,905 บาท
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/