สตง.จี้ผู้ว่าฯ เชียงราย สอบโครงการกาแฟ ทุ่มงบสร้างโรงเรือน-ซื้อครุภัณฑ์ไม่ใช้ปย.เพียบ
สตง.สอบโครงการยกระดับกาแฟภาคเหนือตอนบนสู่มาตรฐานสากลก้าวไกลไปตลาดโลกเชียงราย ปี 60 พบใช้จ่ายเงินก่อสร้างโรงเรือนแปรรูป-จัดซื้อครุภัณฑ์เพียบ แต่ดำเนินการเสร็จปล่อยทิ้งไม่ใช้ประโยชน์เงินหลวงเสียหายกว่า 7 ล้าน จี้ ผู้ว่าฯ เร่งรัดตรวจสอบแก้ไขปัญหาด่วน
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้สรุปรายงานผลการตรวจสอบโครงการยกระดับกาแฟภาคเหนือตอนบน 2 สู่มาตรฐานสากล ก้าวไกลไปตลาดโลก ประจำปีงบประมาณ 2560 ในส่วนจังหวัดเชียงราย ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุน จำนวน 67,171,000 บาท พบว่า มีการก่อสร้างโรงเรือนแปรรูปกะลากาแฟและจัดซื้อครุภัณฑ์ที่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์จำนวนมาก
โดยจากการตรวจสอบโรงเรือนแปรรูปกะลากาแฟของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จำนวน 7 แห่ง และครุภัณฑ์แปรรูปกะลากาแฟ จำนวน 28 เครื่อง ของกิจกรรมส่งเสริมการแปรรูปและผลิตภัณฑ์กาแฟ ใช้งบประมาณ 13,001,000 บาท พบว่า โรงเรือนแปรรูปกะลากาแฟก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการแปรรูปกะลากาแฟ จำนวน 5 แห่ง ครุภัณฑ์ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จำนวน 17 เครื่อง ได้แก่ เครื่องลอยเชอรี่กาแฟ เครื่องปอกเชอรี่กาแฟ เครื่องวัดความชื้น และเครื่องสีกะลากาแฟ คิดเป็นตัวเลขการใช้จ่ายเงินงบประมาณที่ไม่คุ้มค่าและไม่มีประสิทธิภาพ จำนวนกว่า 7,248,224 บาท
ขณะที่ จากการตรวจสอบกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเชียงรายจากเศษวัสดุกาแฟ งบประมาณ 15,000,000 บาท ดำเนินการในช่วงเดือน ม.ค.-ก.ย. 2561 พบว่า การจัดซื้อครุภัณฑ์ล่าช้าไม่เป็นไปตามระยะเวลาการดำเนินการและแผนปฏิบัติงานเดือนก.ย.2560 เป็นระยะเวลา 405 วัน ทำให้ไม่สามารถนำครุภัณฑ์ไปใช้ประโยชน์เพื่อการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเครื่องสำอางให้แก่เกษตรกรได้ทันภายในปีงบประมาณ 2560 ทั้งที่ มีการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์ภาพรวมไปแล้ว จำนวน 10,721,985 บาท หรือคิดเป็นร้อยละ 71.48 ของงบประมาณทั้งหมด
เบื้องต้น สตง.ได้ทำหนังสือแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะหัวหน้ากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 ตรวจสอบและเร่งรัดการใช้ประโยชน์โรงเรือนและครุภัณฑ์ที่จัดซื้อมาแล้วโดยด่วน เพื่อให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณในการดำเนินงานโครงการนี้ เกิดความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก TNEWS