เปิดใจหลังพ้นคุก ‘สนธิ’ ย้ำชัดเข้าออกตามกติกา ถามหา ‘ปู-แม้ว’ Where are you?
หมายเหตุ:สำนักข่าวอิศรา เรียบเรียงเนื้อหา ‘นายสนธิ ลิ้มทองกุล’ จัดแถลงข่าวภายหลังได้รับการปล่อยตัว จากกรมราชทัณฑ์ ณ บ้านพระอาทิตย์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2562
นายสนธิ กล่าวว่า 2 ปี 11 เดือน 27 วัน อยู่อย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีใครรังแกผมและผมเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม สิ่งหนึ่งที่เราอยู่ได้ โดยใช้หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า พระองค์บอกให้เราอยู่กับปัจจุบัน การอยู่กับปัจจุบันคือ ถ้าคุณลืมตาขึ้นมาเห็นเป็นห้องขัง คุณก็บอกว่านี่คือคุก พอคุณรู้ว่าเป็นคุก คุณก็ต้องปฏิบัติตนตามคนคุก อย่าไปอวดดี อวดซ่าส์ อวดเก่ง เขามีอะไรให้ทำก็ทำไป เผอิญอายุ 70 ปีแล้ว จึงไม่ถูกใช้งานอะไรมาก แต่ไม่มีสิทธิพิเศษอะไร
“ไม่มีครับ เหมือนนายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์พูด มีแต่กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ปัญหาใหญ่ทุกวันนี้ของผมยังไม่ชินกับกางเกงขายาวและใส่ถุงเท้า อย่างที่ทราบ คืนแรกกลับไปนอนไม่หลับ เพราะนอนในคุก ไฟต้องเปิดทั้งคืน พอเข้าไปนอนในห้องนอนตนเอง ไฟมันมืดสนิท และไม่เคยเจอแอร์ พอเจอแอร์เข้าไปเป็นไข้ เลยนอนไม่หลับไป 1-2 วัน”
นายสนธิ ระบุต่อว่า พี่น้องอยู่ข้างนอกเดือน เม.ย. ที่มีคลื่นความร้อน พี่น้องบอกร้อนหรือ ในคุกร้อนนรก...ร้อนนรก ก็ต้องทนเอา ที่ผมออกมาได้ เพราะปาฏิหาริย์และพระมหากรุณาธิคุณอย่างสูงสุด ผมเป็นนักโทษชั้นเยี่ยม การพระราชทานอภัยโทษครั้งที่แล้ว เดือน พ.ค. ผมอยู่มาตรา 8 แปลว่า ถูกกั๊กหนึ่งขั้น แต่ถ้าอยู่มาตรา 7 นักโทษชั้นเยี่ยมในวาระราชาภิเษก โทษจะถูกลดครึ่งหนึ่ง จาก 20 ปี จะเหลือ 10 ปี แต่อยู่มาตรา 8 เนื่องจากมี พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตั้งมาเพื่อกั๊กตนเองไว้โดยเฉพาะ เป็นเรื่องการเมือง ไม่เกี่ยวกับกรมราชทัณฑ์ ให้สนธิออกยากหน่อย
“ผมเข้าคุกตั้งแต่ 6 ก.ย. 2559 ต่อมา 31 ส.ค. นายปฏิคม วงษ์สุวรรณ อดีตอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ออกระเบียบมาว่าคนเข้าคุกตั้งแต่ 1 ก.ย. ไม่มีสิทธิทำชั้นเป็นเวลา 5 ปี หมายความว่า จะให้ผมติดคุก 5 ปี แล้วค่อยทำชั้น แต่เผอิญเวรกรรมนี้ทำให้นักโทษเพิ่งเข้าใหม่ทุกคนเดือดร้อนหมด จึงมีการร้องเรียน หลังจากนายปฏิคมออกไปแล้ว อธิบดีคนใหม่เข้ามาจึงได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงไม่ต้องกั๊ก 5 ปี ให้เหมือนเดิม สอบทำชั้น เป็นคนดี มีวินัย ได้เข้าไป”
ชม ‘ณรัชต์’ อธิบดีกรมคุกเป็นคนดี
ทั้งนี้ ตั้งแต่ผมอยู่คุกมา 2 ปี 11 เดือน 27 วัน ผมต้องขอแสดงความดีใจว่า เรามีอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่ชื่อ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ เป็นคนดี กรมราชทัณฑ์ถ้ายังเอาคนลูกหม้อราชทัณฑ์ขึ้นมา กรมราชทัณฑ์มีแต่ตกต่ำลงเรื่อย ๆ ต้องเอาคนข้างนอกที่ไม่เคยสัมผัสเข้ามาทำงาน อย่าไปเชื่อว่าเขาจะแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
นายสนธิ ตั้งคำถามว่า ใครเคยนอนผ้าห่ม 3 ผืนบ้าง ผ้าห่ม 3 ผืน คือ 1 ผืนเป็นที่นอน 1 ผืนพับเพื่อเอามาเป็นหมอน และ 1 ผืน นำมาห่ม เป็นความคิดที่อำมหิตมาก นักโทษที่เข้าเรือนจำ เข้าอย่างสุขภาพสมบูรณ์ พ้นโทษไปเป็นคนกึ่งพิการ ปวดหลัง หมอตาไม่มี
สิ่งที่ดีที่สุดในกรมราชทัณฑ์ คือ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ที่นั่นมองนักโทษเป็นคนที่เจ็บไข้ได้ป่วย ไม่ได้มองเป็นนักโทษ แต่ข้าราชการกรมราชทัณฑ์บางคนในอดีตมองนักโทษเป็นเศษมนุษย์ มันก็มีเหมือนกันนักโทษที่เป็นเศษมนุษย์ เพราะมันเลวบัดซบมาก แต่เขาก็มีวิธีปราบปรามนักโทษเหล่านั้น
“ผมมีเรื่องตลกมาเล่าให้ฟัง ผมอยู่แดน 7 มีคนอยู่ประมาณ 100 กว่าคน ผมนอนห้อง 6 ซึ่งเป็นห้องเล็ก นอนกันประมาณ 8 คน เรียกว่านอนแล้วขยับ พลิกซ้ายไม่ได้ พลิกขวาไม่ได้ เพราะติดกันหมด ตอนเช้าเราออกมาเดินรอบสนามในแดน เพื่อออกกำลังกาย มีคนเดินกับผมอีก 3 คน รวมเป็น 4 คน ระหว่างเดินไปสุดสนามแล้วเดินกลับ ผมเกิดนึกขึ้นมา ช่างตลก อนิจจังจริง ๆ ผมบอกว่า พวกเราจบท็อปเท็นของโลก แต่ปรากฎว่ามาติดคุกกันทั้งหมด ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งอนิจจัง เมื่อผิดก็ผิด”
‘สนธิ’ ย้ำเข้าออกตามกติกา ไม่มีอะไรพิเศษ
นายสนธิ ย้ำสิ่งหนึ่งที่พูดตลอดเวลาว่า ผมเข้าตามกติกาและออกตามกติกา ไม่มีอะไรพิเศษ เพราะมีผู้ต้องขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ติดคุกข้อหาปั่นหุ้น ซึ่งเขาทำธุรกิจด้านอินเทอร์เน็ต ถูกกั๊กด้วย พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ ปรากฎว่า เมื่อมีการอภัยโทษ เขาได้ลดโทษ 1 ใน 3 เช่นเดียวกับผม แต่เขาไม่พอใจ จึงให้ทนายความไปศึกษาข้อกฎหมาย เมื่อศึกษาเรียบร้อย จึงยื่นเรื่องผ่านเรือนจำพิเศษกรุงเทพให้ส่งไปศาล เมื่อศาลพิจารณาจึงบอกว่า คำร้องของผู้ร้องฟังขึ้น โดยเขากำลังบอกว่า พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ นั้น ได้กั๊กด้วยเหตุผล ผู้ที่อยู่ในวงการเงิน ธนาคาร ถึงจะโดนกั๊ก แต่คนทำธุรกิจอาชีพอื่น เช่น สื่อสารอินเทอร์เน็ต ไม่เข้าข่าย ซึ่งสั่งให้เปลี่ยนจากมาตรา 8 ลด 1 ใน 3 มาเป็นมาตรา 7 ลด 1 ใน 2
“ผมนั่งเฉย ๆ ขนมเปี๊ยะหล่นลงมาจากฟ้า เดินผ่านตึก ตึกล้มทับผม ผมไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะเมื่อมีการปรับแก้ของนักโทษคนนั้น ผมก็อยู่ในกรณีเดียวกัน เขาจึงปรับแก้ผมจากมาตรา 8 เป็นมาตรา 7 แต่ผมโชคดีและโชคร้าย ผมโชคดีที่มีอายุเกิน 70 ปี เลยได้อานิสงส์จากมาตรา 6 ที่บอกว่า หากใครมีอายุเกิน 70 ปี ให้ปล่อยเลย ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษคราวที่แล้ว ส่วนโชคร้าย คือ ตั้ง 70 ปี แก่แล้ว”
นายสนธิ กล่าวอีกว่า วันที่ 6 ก.ย. 2559 เมื่อศาลฎีกาพิพากษาว่า มีความผิดที่ไม่ได้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นกรณีจะนำบริษัทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไปค้ำประกันอีกบริษัทหนึ่ง จึงถูกลงโทษต่างกรรมต่างวาระ 85 ปี แต่กฎหมายระบุห้ามจำคุกเกิน 20 ปี โดยวันแรกที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ คนที่นอนข้าง ๆ คือ คนค้ายาเสพติด ถูกลงโทษ 20 ปีเหมือนกัน ในขณะที่ตนเองมีโทษเพราะไม่ได้เรียกประชุมผู้ถือหุ้น ซึ่งเราต้องทำใจ และมีคนถามว่า ทำไมไม่หนี วันนี้มามองย้อนหลังว่า เหตุผลที่ไม่หนี เพราะทุกคนที่มายืนให้กำลังใจในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็น ลูก ภรรยา ลูกน้องที่ทำงานด้านสื่อมวลชน
“ผมไม่หนี เพราะพ่อแม่พี่น้อง เพราะเพื่อน เพราะคนที่ทำงานกับผม เขาจะได้เดินหน้าแล้วเชิดหน้าได้อย่างสง่าผ่าเผย”
ทั้งนี้ ตอนศาลฎีกาพิพากษา ตนเองไป แต่ยังเสียใจที่นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ไม่ยอมไป นี่คือเหตุผลที่ตนเองไม่หนี ถามว่าเรียนรู้อะไรในนั้น คำตอบคือเรียนรู้เยอะมาก เรียนรู้ว่าทุกเรื่องเป็นสิ่งสมมติทั้งหมด เวลาไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งอยู่ติดกับเรือนจำกลางคลองเปรม เจอคนที่ไม่ควรจะเจอ แต่ก็เจอ คือ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเรามามองแล้ว มาคิดแล้ว มามองย้อนหลังแล้ว ความใหญ่ ความโต พวกนี้เป็นเรื่องสมมติทั้งนั้น
ต้องยอมรับ เเม้ไม่ปลื้มทหารยึดอำนาจ
นายสนธิ กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองด้วยว่า ดูทีวีดูการเมือง จากที่เป็นหนุ่มมาถึงอายุ 72 ปี การเมืองไม่เคยเปลี่ยน มันก็ระยำตำบอนอย่างนี้ของมัน แต่หลายคนถามตนเองว่า นายกฯ ผิดรธน. เพราะไม่ถวายสัตย์ฯ เป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต นึกในใจ ไม่มีอะไรทำกันแล้วหรือ มาทะเลาะกันในเรื่องนายกฯ ไม่ถวายสัตย์ฯ เรื่องใหญ่ของชาติบ้านเมือง ทำไมไม่มาตั้งใจทำงานกัน
“ทุกคนบอกนายกฯ ไม่ได้มาตามระบอบประชาธิปไตย ผมบอกว่าระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญบ้านเราเป็นเพียงลมปาก ในความเป็นจริงแม้กระทั่งในระบอบประชาธิปไตย มีความเป็นเผด็จการอยู่ เหมือนสมัยก่อนมีเผด็จการรัฐสภา ผมไม่ได้ปลื้มที่มีทหารมายึดอำนาจ แต่ผมยอมรับ อุปมาอุปไมย เรามีบ้าน เรามีลูกสาว แล้วลูกสาวเราท้อง ไม่มีพ่อ คุณจะขึงพืดทุบตี เฆี่ยนหรือ ต้องยอมรับไป และหวังว่าจะเลี้ยงลูกได้ดี ปกครองได้ดี ทำให้เป็นคนดี
วันนี้จะดีจะชั่ว พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แล้ว หวังว่าท่านจะทำงานได้ดี หวังว่าท่านจะนำประเทศเป็นตัวตั้ง และหวังว่าท่านจะไม่เล่นพวกเล่นพ้อง ถ้าหวังกันแบบนี้ทุกคน น่าจะมีอนาคต ผมไม่อยากให้คนทะเลาะกัน แต่ความคิดเห็นต่างกันเราต้องยอมรับ ผมดูทีวีแล้วก็สงสารคุณช่อ (พรรณิการ์ วานิช ส.ส.พรรคอนาคตใหม่) คุณช่อทำอะไรผิดไปหมด เห็นใจเขา อาจเป็นเพราะบุคลิกเขาเป็นคนอย่างนั้น แต่ในความปรารถนาดีของเขา ยังมีอะไรที่ควรส่งเสริม เพียงแต่ว่าความปรารถนาดีของเขาและพวกของเขานั้น ไม่ทันต่อเหตุการณ์บ้านเมือง มันก้าวล้ำไปอีกไกล หลายคนยังยอมรับไม่ได้”
นายสนธิ กล่าวต่อว่า หลายคนเจอผมที่ศาล ถามว่า “พี่สบายดีนะ” ผมตวาดแว้ด “คนติดคุก มีใครสบาย” ผมบอกว่า ถ้าต้องถามคนติดคุก ต้องถามคำเดียวว่า “พออยู่ได้ไหม” แล้วพี่น้องของผมไม่เคยอาย ผมไปร้านอาหารแห่งหนึ่ง มีคนถามว่า “พี่สนธิ เป็นอย่างไรบ้าง” ผมตอบ “พี่เพิ่งออกจากคุก ติดมา 2 ปี 11 เดือน” พูดลั่นร้าน ไม่เห็นต้องมีอะไรอาย
แล้วสิ่งหนึ่งที่ผมชำนาญมาก คือ ผมสามารถบอกได้หมดเลยว่า โทรทัศน์ช่องไหนเป็นช่องของใคร ใครปิดไปบ้าง ใครบ้างเป็นพิธีกรของช่อง เพราะดูจนจำแม่น แต่ตอนหลังกรมราชทัณฑ์มีความรู้สึกว่า ให้ดูข่าวมากเกินไปไม่ดีเดี๋ยวฟุ้งซ่าน จึงให้หลงละเมอกับความบันเทิงจากช่องโมโน 29 ดูทุกวัน หนังเก่า ๆ เวียนแล้วเวียนอีก จนกระทั่งจำได้ว่า เดี๋ยวฉากนี้ต้องต่อยกัน มีหลายอย่างที่กรมราชทัณฑ์ต้องปรับปรุงแก้ไข แต่ในยุค.พ.ต.อ.ณรัชต์ ทำได้ดีมาก
“ผมไม่มีอะไรจะพูด เพิ่งออกมา มีอย่างเดียว ไม่ต้องกังวล ผมยังมีความเห็นจะออกไปข้างนอก แต่ผ่านเฟซบุ๊กของผม วันนี้ผมออกมาอย่างคนหมดตูด คดีแพ่ง 500 ล้านบาท เรื่องสนามบิน ทรัพย์สินของผมถูกอายัดทั้งหมด ทุกวันนี้ได้รับความเมตตาจากลูกชายให้เงินใช้ แต่สิ่งหนึ่งไม่เคยเปลี่ยน คือ ความจริงใจและความต้องการทำให้บ้านเมืองดีขึ้น เป็นสิ่งที่แน่นอนที่สุด นี่คือสิ่งที่ต้องการทำ จึงไม่ต้องกังวล เพียงแต่หวังว่า การเมืองจะมีวิวัฒนาการและพัฒนาไปรูปแบบที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ”
ถามหา ‘ปู-แม้ว’ อยู่ไหน
นายสนธิ กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จากการติดคุก คือ ผมเห็น ประชาชนคนไทยที่แท้จริงอยู่ในคุก คนจนมันจนจริง ๆ 30% ของคนติดคุก ติดเพราะว่าไม่มีทนายความที่เก่ง เขาพูดว่าคนรวยไม่ติดคุก จริง 70% และไม่จริง 30% แต่อย่างน้อยที่สุด ถึงผมไม่มีเงินเป็นแสนล้านเหมือนกระทิงแดง แต่ผมชดใช้กรรมของผมทุกเม็ด ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที คุณบอส (บอส อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง) ตอนนี้อยู่ที่ไหน คุณทักษิณ (ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี)อยู่ที่ไหน คุณยิ่งลักษณ์ (ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี) อยู่ที่ไหน
“การติดคุกไม่น่ากลัว ถ้าทำใจได้ อาหารในคุกไม่เลวนัก พอกินได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปกังวล มีอย่างเดียวเลวที่สุด คือ ผ้าห่ม 3 ผืน แต่อธิบดีกรมราชทัณฑ์สั่งแก้ไขใช้ที่นอนยางพารา แต่เนื่องจากงบประมาณมีไม่เพียงพอ เลยรอไปนิดหนึ่ง”
นายสนธิ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า คุกไม่ได้เลวร้าย ถ้าเรายอมรับว่าเราคือนักโทษและยอมรับว่านี่คือคุก ปฏิบัติตามระเบียบปัญหาไม่มี ยอมรับว่ามีผู้คุมไถเงินผู้ต้องขัง แต่จำนวนน้อยมาก ผู้คุมที่ดีมีอีกเยอะ ทั้งนี้ หวังว่าพวกเราต้องผ่านชีวิตช่วงนี้ไปให้ได้ ยากลำบากอย่างไรต้องกัดฟันทน
“ใครที่คิดว่าผมต้องออกถนนอีก ไม่ต้องแล้ว ผมไม่ออกแล้ว เห็นใจเถอะ ผมอายุ 72 ปีแล้ว” นายสนธิ ระบุ
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ:ไร้ใบสั่ง-ไม่เกี่ยวการเมือง! กรมราชทัณฑ์ ปล่อยตัว 'สนธิ ลิ้มทองกุล' นักโทษชั้นดี