ตั้งบ.นำเที่ยวปี60! ธุรกิจ ‘ศรศาสตร์’ พี่ชายต่างแม่ ‘ธรรมนัส’ ในคำพิพากษาศาลออสเตรเลีย
"....นายศรศาสตร์ ระบุอีกว่า มารู้ตอนหลังว่า สาเหตุของการบุกค้นและจับกุม ทั้ง ๆ ที่ ไม่มีของกลางในห้อง เป็นเพราะมีนักค้ายาเสพติด 2 รายชาวออสเตรเลีย ให้การซัดทอดกับตำรวจ เหมือนกับพยายามยัดข้อหาให้คนไทย ซึ่งเป็นคนต่างแดน จะได้ไม่สามารถตอบโต้หรือชี้แจงอะไรได้ หลังจากถูกจับกุม ไม่พบของกลาง จึงไม่ได้มีการฟ้องคดี...."
สืบเนื่องจาก Sydney Morning Herald สื่อชื่อดังจากประเทศออสเตรเลีย และเว็บไซต์บีบีซีไทย (BBC Thai) รวมถึงสื่อไทยหลายสำนักเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับคดีของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ เมื่อปี 2536 โดยอ้างว่าเป็นช่วงที่ ร.อ.ธรรมนัส ใช้ชื่อว่า นายมนัส โบพรหม อายุ 37 ปี ถูกศาลที่ประเทศออสเตรเลีย ตัดสินจำคุก 6 ปี แต่นายมนัสรับสารภาพ คงโทษจำคุก 4 ปี และถูกปล่อยตัวออกมาในปี 2540 กรณีถูกกล่าวหาว่า มีส่วนรู้เห็นในการลักลอบนำเข้ายาเสพติดเข้าประเทศออสเตรเลีย
โดยในช่วงที่สำนักงานตำรวจกลางออสเตรเลียตั้งข้อหากับนายมนัส นั้น ได้ตั้งข้อหานายแซม คาลาบรีส นายมาริโอ คอนสแตนติโน และนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ อายุ 39 ปี ที่ถูกระบุว่าเป็นพี่ชายต่างมารดาของ ร.อ.ธรรมนัส ด้วย ทั้งนี้นายศรศาสตร์ ถูกศาลพิพากษาจำคุก 6 ปี แต่หลังจากรับโทษจำคุกครบ 4 ปี ได้รับการปล่อยตัว โดยศาลมีคำสั่งเนรเทศกลับไปยังประเทศไทยเช่นเดียวกับ ร.อ.ธรรมนัส (อ้างอิงข้อมูลส่วนนี้จาก บีบีซีไทย)
เบื้องต้น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ได้ออกมาชี้แจงความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยยืนยันว่า ไม่เคยรับสารภาพตามที่สื่อเขียนถึง มีขบวนการจ้องดิสเครดิตตนเอง และขอเวลาทำงานรับใช้ประชาชน ไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีต (อ่านประกอบ : คำต่อคำ 'ธรรมนัส' แจงปมสื่อออสเตรเลียเสนอข่าวติดคุก 4 ปี มีโครงข่ายอยู่เบื้องหลัง?)
ล่าสุด สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ปัจจุบันนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ ปรากฏชื่อเป็นกรรมการในธุรกิจนำเที่ยว ชื่อว่า บริษัท ลีโอ พาเลซ อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2540 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 16 ซอยรามคำแหง 170 แยก 1 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. แจ้งประกอบธุรกิจ เป็นตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ
มีนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ และนายวีระศักดิ์ ศิริคูณ เป็นกรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดแจ้งเมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2560 มีนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ ถือ 980,000 หุ้น (98%) นายยุทธศักดิ์ เทียมทัศน์ 10,000 หุ้น (1%) และนายวีระศักดิ์ ศิริคูณ 10,000 หุ้น (1%)
นับตั้งแต่ตั้งบริษัทในปี 2560 ไม่ได้มีการแจ้งงบการเงินแก่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าแต่อย่างใด
อนึ่ง เมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2562 กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ และเนชั่นทีวี เผยแพร่อ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายศรศาสตร์ เทียมทัศน์ ระบุว่าเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดประจำสถานทูตสหรัฐอเมริกา ถึงกรณีกล่าวหา ร.อ.ธรรมนัส ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการถูกจับกุม ระบุตอนหนึ่งว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2536 เดินทางไปเที่ยวออสเตรเลีย ด้วยความคิดถึงเพื่อนสนิท จึงชวน ร.อ.ธรรมนัส (ขณะนั้นใช้ชื่ออื่น และไม่ได้มียศร้อยเอก) ให้เดินทางไปเที่ยวออสเตรเลียด้วยกัน เพราะเขาไม่เคยมา เมื่อเดินทางไปถึงก็ไปรับที่สนามบินในซิดนีย์ เพื่อกลับมายังโรงแรมแห่งหนึ่ง (บันไดบีช) ซึ่งตั้งอยู่ในย่านคนดังของออสเตรเลีย แต่เมื่อไปถึงไม่เกิน 5 นาที มีคนเคาะประตูห้อง และเมื่อเปิดออกเป็นชายฉกรรจ์ 10 กว่าคนกรูเข้ามา ร.อ.ธรรมนัส คิดว่าเป็นคนร้ายเข้ามาปล้น โดยไม่ทราบว่าชายกลุ่มนี้คือตำรวจ เกิดการต่อสู้กันพักใหญ่ ทำให้ ร.อ.ธรรมนัส แขนหัก ก่อนจะควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจแห่งหนึ่งในซิดนีย์ พร้อมกับตั้งข้อหาว่า มียาเสพติดไว้ครอบครอง
นายศรศาสตร์ ระบุอีกว่า มารู้ตอนหลังว่า สาเหตุของการบุกค้นและจับกุม ทั้ง ๆ ที่ ไม่มีของกลางในห้อง เป็นเพราะมีนักค้ายาเสพติด 2 รายชาวออสเตรเลีย ให้การซัดทอดกับตำรวจ เหมือนกับพยายามยัดข้อหาให้คนไทย ซึ่งเป็นคนต่างแดน จะได้ไม่สามารถตอบโต้หรือชี้แจงอะไรได้ หลังจากถูกจับกุม ไม่พบของกลาง จึงไม่ได้มีการฟ้องคดี แต่ระหว่างที่ตำรวจยังสืบสวนสอบสวนอยู่ ต้องอยู่ที่นั่นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่ได้มีการติดคุก ตามที่มีการนำเสนอข่าวก่อนหน้านี้
นายศรศาสตร์ ระบุอีกว่า แต่ระหว่างที่ตำรวจยังสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม ต้องอยู่ที่นั่นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ยืนยันว่าไม่ได้ติดคุก ซ้ำทางการออสเตรเลียให้ไปช่วยดูแลเยาวชน คล้ายสถานพินิจและคุ้มครองเด็กฯในไทย โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้งานเป็นผู้จัดการบริษัทส่งกระดาษทิชชู่แห่งหนึ่ง เก็บเงินใช้กินอยู่สู้คดี ทำมาเรื่อย ๆ จนครบ 4 ปี สุดท้ายทางการออสเตรเลียหาหลักฐานอะไรไม่ได้ ตนและ ร.อ.ธรรมนัส จึงตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกลับเพราะถูกทางการไทยขอตัวกลับมารับโทษตามที่ปรากฎเป็นข่าว แต่ยอมรับว่าสำหรับตน หลังจากโดนเรื่องนี้แล้วก็ต้องออกจากราชการ (อ้างอิงข้อมูลจาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์)
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/
อ่านประกอบ :
คำต่อคำ 'ธรรมนัส' แจงปมสื่อออสเตรเลียเสนอข่าวติดคุก 4 ปี มีโครงข่ายอยู่เบื้องหลัง?