ป.ป.ช. ฟันอดีตนายก อบต.นาสีนวน มุกดาหาร-พวก 4 ราย มีส่วนได้เสียจ้างซ่อมประปาหมู่บ้าน
แพร่มติ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 'ทองมี โคตรสขึง' หรือ 'กฤตภาส โกสินทร์วิกรม' อดีตนายก อบต. นาสีนวน มุกดาหาร พร้อมพวก 4 ราย รวมปลัดฯ-ผู้รับเหมา คดีเบิกจ่ายเงินค่าจ้างซ่อมระบบประปาหมู่บ้านทั้งที่งานไม่แล้วเสร็จ แถมมีส่วนได้เสียโครงการด้วย ส่งเรื่องผู้บังคับบัญชาลงโทษวินัยให้ออกราชการ แจ้ง อสส. ดำเนินคดีอาญาตามกม.แล้ว
สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่มติคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด นายทองมี โคตรสขึง หรือ นายกฤตภาส โกสินทร์วิกรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาสีนวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร และพวก 4 ราย ประกอบไปด้วย นางอัมพิกา โสดาภักดิ์ (พลค้อ) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (นักบริหารงานองค์การบริหารส่วนตำบล) ระดับ 7 เป็นประธานกรรมการตรวจรับงานจ้าง นายชัยมนตรี บุตรศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง หัวหน้าส่วนโยธา ระดับ 6 เป็นกรรมการตรวจรับงานจ้าง นายสุระพล มีทรัพย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง หัวหน้าส่วนการคลัง ระดับ 6 เป็นกรรมการตรวจรับงานจ้าง และนายอนันต์ แข็งแรง เจ้าของร้านโชคอนันต์วัสดุ ในฐานะผู้รับจ้าง
ในคดีกล่าวหา เบิกจ่ายเงินค่าจ้างโครงการ จัดจ้างซ่อมแซมระบบประปา หมู่ที่ 4 และ 8 ทั้งที่ยังไม่แล้วเสร็จ และมีส่วนได้เสียในโครงการ
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาสำนวนไต่สวนคดีแล้วเห็นว่า นายทองมี โคตรสขึง หรือ นายกฤตภาส โกสินทร์วิกรม มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 และมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืน ต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพ ของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตาม หรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและ องค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92
ส่วนนางอัมพิกา โสดาภักดิ์ หรือพลค้อ นายชัยมนตรี บุตรศรี และนายสุระพล มีทรัพย์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และมาตรา 162 (1), (4) และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือ ผู้อื่นได้ประโยชน์ที่มิควรได้ เป็นการทุจริตต่อหน้าที่ราชการ ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยจงใจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบของ ทางราชการ มติคณะรัฐมนตรีหรือ นโยบายของรัฐบาล อันเป็นเหตุ ให้เสียหายแก่ราชการอย่าง ร้ายแรง และฐานรายงานเท็จต่อ ผู้บังคับบัญชา อันเป็นเหตุให้เสียหาย แก่ราชการอย่างร้ายแรง ตามประกาศ คณะกรรมการพนักงานส่วนตำบล จังหวัดมุกดาหาร เรื่อง หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการสอบสวน การลงโทษ ทางวินัย การให้ออกจากราชการ การอุทธรณ์ และการร้องทุกข์ ลงวันที่ 17 ธันวาคม 2544 ข้อ 3 วรรคสาม ข้อ 6 วรรคสอง และข้อ 11 วรรคสอง
ขณะที่ นายอนันต์ แข็งแรง มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 151 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86
เบื้องต้น สำนักงาน ป.ป.ช. ส่งสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงไปยัง ผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนเพื่อ ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ รวมไปถึงผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณา โทษทางวินัย และส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาแล้ว
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/