ดีเอสไอยัน ‘บิลลี่’ ตายแล้ว พบกระดูกกะโหลกในเขื่อนแก่งกระจาน- ดีเอ็นเอตรงกับแม่
ดีเอสไอ เเถลงยัน 'บิลลี่'พอละจี เเกนนำกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เสียชีวิตเเล้ว พบหลักฐาน กระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้าย-ถังน้ำมัน 200 ลิตร ถูกเผาไหม้ความร้อนสูง ในเขื่อนเเก่งกระจาน ดีเอ็นเอตรงกับ 'โพเราะจี' มารดา ชี้เข้าข่ายทรมาน-บังคับสูญหาย
สืบเนื่องจากคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติในการประชุมครั้งที่ 1/2561 เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 2561 ให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่น กรณีการหายตัวไปของนายพอละจี รักจงเจริญ (บิลลี่) แกนนำประชาชนชาวกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย เป็นคดีพิเศษที่ต้องสืบสวนและสอบสวนตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า วันที่ 3 ก.ย. 2562 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท. กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีดีเอสไอ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ พ.ต.ต. นิรุท อินธิศร ผู้บังคับกองร้อย กองกำกับการ 3 กองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ดร.สว่างทิตย์ ศรีกิจสุวรรณ หัวหน้าศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ร่วมแถลงข่าวความคืบหน้าในการสืบสวนคดี ณ อาคารดีเอสไอ
พ.ต.ท. กรวัชร์ เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนคดีพิเศษใช้เครื่องยานยนต์สำรวจใต้น้ำจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) ซึ่งสามารถสแกนด้วยระบบโซน่า ทำให้เห็นใต้พื้นน้ำในเขื่อนแก่งกระจานว่ามีอะไรอยู่บ้าง ซึ่งอาจารย์ มจพ. ใช้ระยะเวลาในการดูรายละเอียด 6 ชั่วโมง และพบว่ามีวัตถุอยู่ใต้น้ำเป็นจุดสีขาว จึงได้ขอความร่วมมือไปยังกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ขอนักประดาน้ำเข้ามาช่วยเหลือ
ผลปรากฎว่า บริเวณกลางสะพานแขวน เขื่อนแก่งกระจาน พบถังน้ำมัน ขนาด 200 ลิตร จำนวน 1 ถัง ลักษณะเบื้องต้นมีการเจาะรู มีรอยดำไหม้บางส่วน และเมื่อดำน้ำลงไปอีก พบเหล็กเส้น จำนวน 2 เส้น ถ่านไม้ จำนวน 4 ชิ้น ที่ผ่านการเผาแล้ว และเศษกระดูกหนึ่งชิ้น ลักษณะคล้ายของมนุษย์ที่พื้นด้านล่าง อยู่ใกล้ถังน้ำมัน จึงส่งไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพราะขณะนั้นเราไม่แน่ใจว่า เป็นกระดูกของมนุษย์หรือไม่
รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวต่อถึงลักษณะของกระดูกมีขนาดเท่าหัวแม่มือ พบเป็นชิ้นส่วนกระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้ายของมนุษย์ มีรอยไหม้สีน้ำตาล ร่วมกับรอยแตกร้าว และการหดตัวของกระดูกจากการถูกความร้อนมาค่อนข้างนาน อุณหภูมิ 200-300 องศาลเซลเซียส และเมื่อสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ยังพบสารพันธุกรรมสัมพันธ์กับสายโลหิตสืบทอดจากนางโพเราะจี รักจงเจริญ มารดาของบิลลี่
“ถังน้ำมันถูกเผาด้วยความร้อน และเมื่อมีการดำน้ำอีกครั้ง ยังพบกองกระดูกอีก 20 ชิ้น สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันเบื้องต้นว่า เป็นกระดูกมนุษย์ 8 ชิ้น ส่วนที่เหลือไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากมีขนาดเล็กมาก” พันตำรวจโท กรวัชร์ กล่าว และว่า กระดูกกะโหลกศีรษะข้างซ้าย (หูชั้นใน) ชิ้นนี้ไม่ได้อยู่ในร่างกายของมนุษย์ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่า เจ้าของเสียชีวิตแน่นอน อนุมานสรุปเบื้องต้นได้ว่า บิลลี่เสียชีวิตแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ท้ายที่สุด ดีเอสไอ เห็นว่า พฤติการณ์ของกลุ่มคนร้ายที่กระทำผิดครั้งนี้เข้าข่ายลักษณะเป็นการฆาตกรรมโดยทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายที่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงตามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ .
# กดคลิก ติดตาม ส่งแชร์ข่าวอิศรา ได้ที่นี่ https://www.facebook.com/isranewsfanpage/